1) มีกลุ่มผู้โดยสารคนไทย 158 คน เดินทางกลับจากต่างประเทศ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วง 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (3 เมษายน) โดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ระบุว่า กลุ่มผู้โดยสารดังกล่าวเดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น 103 ราย การ์ต้า 11 ราย และสิงคโปร์ 44 ราย
2) เจ้าหน้าที่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจ้งว่า ผู้โดยสารกลุ่มนี้จะต้องเข้ารับการกักตัวตามมาตรกาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) ซึ่งจัดสถานที่รองรับไว้ที่ อ.สัตหีบ และโรงแรมอีก 2 แห่งใน กทม.
3) แต่กลุ่มผู้โดยสารปฏิเสธการเข้ากักตัว โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้า และไม่มีมาตรการดูแลที่ชัดเจน ทำให้เกิดการโต้เถียงระหว่างกลุ่มผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ นานกว่า 4 ชั่วโมง
4) การโต้เถียงเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเจ้าหน้าที่ทหารระดับพลตรีเข้ามาคุมสถานการณ์ ด้วยการเจรจากับผู้เดินทาง ก่อนจะอนุญาตให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านได้ พร้อมกำชับว่า ผู้โดยสารทุกคนต้องกักตัวเอง 14 วัน โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขคัดค้าน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้เดินทางทั้งหมดได้
5) แต่ในช่วงที่กำลังเจรจากันอยู่นั้น มีผู้โดยสารบางส่วนออกจากสนามบินไปได้ มีรายงานว่า ในจำนวนนี้ มีผู้โดยสาร 3 คนที่มีไข้สูงด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวทุกคน
6) จุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ลงนามคำสั่งด่วน เรื่องห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-6 เมษายน โดยมีข้อยกเว้นให้เครื่องบินบางประเภท ได้แก่
– เครื่องบินราชการหรือราชการทหาร
– เครื่องบินที่ขอลงฉุกเฉิน
– เครื่องบินที่ขอลงทางเทคนิคโดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
– เครื่องบินที่ได้รับอนุญาตให้รับส่งบุคคลกลับภูมิลำเนา
– เครื่องบินขนส่งสินค้า
ทั้งยังกำชับว่า ผู้โดยสารที่ออกจากท่าอากาศยานก่อนประกาศฉบับนี้จะบังคับใช้ ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
7) ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีคำสั่งด่วนขอให้กำลังทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานขอข้อมูลตารางรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมด และเร่งติดตามตัวผู้ที่ไม่ยอมกักตัวทั้งหมด ให้มากักตัวตามกฎที่วางไว้ และพิจารณาดำเนินคดีหากพบมีการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นการด่วน ในวันนี้ เวลา 9.00 น.
8) ขณะเดียวกัน มีการแชร์ข้อความจากบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Noon Suthinee ระบุว่า ตนเป็นผู้โดยสารที่ต้องกักตัวตามสถานที่ที่รัฐกำหนด (คนละรอบกับกลุ่มช่วง 2 ทุ่ม) ซึ่งเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลาประมาณบ่ายโมง ของวันที่ 3 เมษายน และต้องรอถึง 6 ชั่วโมง กว่าจะออกรถมายังที่กักตัวใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทั้งยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่แจ้งว่า สถานที่กักตัวนี้ ต้องนอนรวมกัน 3 คน ต่อ 1 ห้องนอน
9) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่ให้นอนในห้องกักตัว 3 คนต่อห้องว่า การจัดพื้นที่ผ่านการพิจารณาตามความเสี่ยงและเหมาะสมแล้ว และเป็นมาตรการเดียวกับที่ใช้ตอนรับคนไทยกลับจากอู่ฮั่น ซึ่งไม่ได้มีการแพร่เชื้อแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น แจกหน้ากาก เจลล้างมือให้ เป็นต้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างกักกันแล้ว
10) ขณะที่ ช่วง 11.30 น.ที่ผ่านมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ผู้โดยสาร 152 ราย (ก่อนหน้านี้ มี 6 ราย ที่เข้ารับการกักตัวแล้ว) เข้ามารายงานตัว ภายในเวลา 18.00 น. ของวันนี้ เพื่อรับการกักตัวตามที่หน่วยงานรัฐจัดตั้งขึ้น
11) โฆษก ศบค. ระบุว่า กลุ่มผู้โดยสารที่อาศัยอยู่ใน กทม.ให้เข้ารายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนกลุ่มที่เดินทางไปต่างจังหวัดแล้ว ให้ติดต่อศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัด ณ ศาลากลางของจังหวัดนั้น หากไม่ปฏิบัติตาม จะถูกดำเนินการทางกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
12) นอกจากนี้ ยังแจ้งให้ญาติของผู้โดยสารกลุ่มนี้ ก็ต้องเข้ารับการบันทึกสอบสวนโรค ลงประวัติติดตาม ที่ศูนย์ปฏิบัติการณ์ฉุกเฉิน และขอให้กักตัวอยู่บ้านเป็น 14 วัน ส่วนกลุ่มผู้โดยสารที่อยู่ระหว่างเดินทางจากต่างประเทศ ให้ติดต่อไปยังสถานทูตของประเทศนั้น เพื่อรายงานตัว และขอรับความช่วยเหลือ
13) ขณะเดียวกัน เชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า หลังจากที่มีประกาศให้ชะลอการเดินทางเข้าประเทศของคนไทย เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทย หยุดรับลงทะเบียนออกหนังสือรับรองเพื่อเดินทางกลับทุกช่องทาง และปิดระบบลงทะเบียนออนไลน์ของกระทรวงการต่างประเทศ
รวมถึงขอให้คนไทยหาใบรับรองแพทย์ fit to fly ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทางกลับ ตามข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งยังยืนว่า หลายสถานทูต ระบุในประกาศของสถานทูตแล้วว่า หากกลับมาในช่วงนี้จะต้งอเข้ารับการกักกันตัวในสถานที่ที่หน่วยงานของรัฐกำหนด 14 วัน
อ้างอิงจาก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2121825
https://www.prachachat.net/covid-19/news-443971
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/874448
https://www.thebangkokinsight.com/326277/
https://www.prachachat.net/general/news-444035
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2121868
#COVID19 #Recap #TheMATTER