ถึงจะยังไม่ขึ้นปีใหม่ แต่ซีรีส์ดังหลายๆ เรื่อง ก็กำลังจะเริ่มซีซั่นใหม่กันในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ จนทำให้เว็บไซต์ฝั่งตะวันตกบางเว็บก็ได้สรุปรวบรวมซีรีส์รายปีกันอีกรอบ และในฝั่งบ้านเราละครล็อตล่าสุดก็ทยอยจบลงไปแล้วในช่วงนี้
ใครเป็นคนประเภทที่นั่งก็ดู นอนก็ดู หรือต่อให้ทำงานก็ดู (!?) ซีรีส์กับละครรัวๆ แล้วล่ะก็ The MATTER ขอนำเสนอซีรีส์ปี 2017 ที่น่ากลับไปหาชมกัน ก่อนที่ซีรีส์และละครล็อตใหม่ๆ จะมาให้ติดตามกันในอนาคต ดูกันยาวๆ ถึงสิ้นปี…
Legion
ซีรีส์ที่ออกฉายกันตั้งแต่ต้นปีกับเนื้อเรื่องที่เอาอาการป่วยทางจิตมาตีความปนเปรวมกันกับพลังของมิวแทนต์ และสร้างภาพที่หวือหวาผสมกับเส้นเรื่องที่วุ่นวายแต่น่าสนใจ ทำให้บางคนออกปากเลยว่านี่น่าจะเป็นทีวีซีรีส์จากตัวละครของ Marvel ที่ดีที่สุดเลย
Rick and Morty
การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ที่เล่าเรื่องของ ตาหลานตะลุยโลกต่างมิติ โดยเนื้อหาในซีซั่นใหม่ก็ยังปั่นหัวคนดูได้เหมือนเดิม (หรืออาจจะมากกว่าเดิม) และถ้าถามว่าการ์ตูนเรื่องนี้สร้างกระแสได้ขนาดไหน อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ แมคโดนัลด์ ในอเมริกายอมนำเอา Szechuan sauce ซอสที่เคยออกขายช่วงสั้นๆ และถูกใช้เป็นมุกต่อเนื่องของการ์ตูในซีซั่นนี้มาขายอีกครั้ง
The Handmaid’s Tale
จากนิยายของ Margaret Atwood กลายมาเป็นซีรีส์คนแสดงแนวดิสโทเปียที่รัฐถูกกลุ่มศาสนาหัวรุนแรงโค่นล้ม รวมกับสภาพสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยสาเหตุไม่ชัดแจ้ง ทำให้การตั้งท้องเกิดได้ยากขึ้น และหญิงสาวส่วนใหญ่ถูกลดค่าลงไปจนกระทั่งกลุ่มหนึ่งเป็นได้เพียงแค่ ‘คนอุ้มท้อง’ เท่านั้น ตัวซีรีส์ไม่เพียงเคารพต้นฉบับเท่านั้นแต่ยังปรับมุมมองบางส่วนให้กว้างขึ้นจนสะท้อนสภาวะในโลกปัจจุบันไปด้วย และการวิพากษ์บางอย่างนั้นก็โดนใจผู้ชมจนมีการประกาศสร้างซีซั่นสองที่จะขยายโลกไปมากกว่าตัวต้นฉบับด้วย (ทาง The MATTER เคยรีวิวไปแล้วครั้งหนึ่ง )
Riverdale
ความกล้าหาญที่จับเอาตัวละครจากการ์ตูน Archie ที่เป็นวัยรุ่นแนวลั้ลลาสดใส มาตีความใหม่ให้เป็นแนววัยรุ่นกรุ่นด้วยกลิ่นอายลึกลับจากการตายของนักเรียนคนดังในเมืองริเวอร์เดลนั้นได้ผลเกินคาด เพราะไม่ใช่แค่ตัวละครในเรื่องที่ถูกสั่นคลอนจากเหตุร้าย คนดูเองก็ได้ติดตามความลับที่ถูกซุกไว้ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้ และซีซั่นต่อก็กำลังจะฉายในสัปดาห์หน้าแล้วด้วย
GLOW
ถ้ามองแค่โปสเตอร์ก็นึกว่าเป็นซีรีส์แนวย้อนยุคไปช่วงปี 1980 ที่สาวๆ แต่งหน้าเข้มไว้ผมกระเซิงใช้สีสันแสงไฟฉูดฉาดแล้วคงมาออกลายเต้นสะบัด พอดูจริงๆ แล้วถึงรู้ว่า นี่มันละครตลกปนดราม่าที่หยิบเอาเรื่องของการก่อตั้ง Gorgeous Ladies Of Wrestling วงการมวยปล้ำหญิงที่เกิดขึ้นในช่วงปลายยุค 80 ต่างหาก นอกจากที่เรื่องจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครมีสีสันฉูดฉาดเข้ายุคแล้ว เนื้อหายังทำให้เห็นว่าการต่อสู้แบบเตี๊ยมกันนั้นไม่ใช่อะไรง่ายๆ เลย จนทำให้เราอยากจะลองไปเชียร์ GLOW ตัวจริงที่ขอบเวทีสักครั้ง
Game of Thrones (season 7)
ไม่จำเป็นต้องพูดมากก็เข้าใจได้ว่าเกมล่าบัลลังก์น่าสนใจมากขนาดไหน ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็คือฮิตถึงขั้นที่มีการซื้อสิทธิ์มาพากย์เสียงไทยด้วยดาราชื่อดังกันโดยเฉพาะ ถึงซีซั่นนี้อาจจะโดนแซะไปว่าพวกพี่จอน สโนว์เขาวาร์ปกันได้งั้นเหรอ กระนั้นการหักเหลี่ยมเฉือนคมแย่งชิงอำนาจก็ยังเร้าใจ ทั้งยังทำให้แฟนคลับจิกหมอนว่าซีซั่นหน้าจะมาเมื่อไหร่กันหนอ
The Young Pope
พูดถึง HBO แล้วหลายคนอาจจะเห็นภาพของ Game of Thrones ลอยมาก่อน แต่ปีนี้ยังมี The Young Pope ซีรีส์ที่สมมุติว่าถ้าเกิดพระสันตะปาปาองค์ล่าสุดเป็นบาทหลวงวัยหนุ่มจากอเมริกา ซึ่งตัวเขาเองดูมีความข้องใจจากหลายฝ่ายจนทำให้เกิดความสั่นไหวภายในวาติกัน และชวนตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้ว ‘สันตะปาปา’ ควรมีตัวตนอย่างไร
Big Mouth
การ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ที่เล่าเรื่องของเหล่าเด็กที่ฮอร์โมนกำลังฟาดเข้าใส่ตัว (ในเรื่องเขียนออกมาเป็นสัตว์ประหลาดเลย…เห็นภาพมาก) ถึงเรื่องจะอุดมไปด้วย จู๋ กับ จิ๋ม และเรื่องใต้สะดือที่ถูกยิงมาอย่างไม่ละเว้น แต่อีกมุมหนึ่งการตูนเรื่องนี้ก็บอกเล่าความว้าวุ่นในวัยว้าวุ่นได้อย่างถูกต้องที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
Million Yen Women
ซีรีส์ดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูน เล่าเรื่องของชายหนุ่มนักเขียนที่อยู่ๆ ก็มีสาวห้าแบบห้าสไตล์มาอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ทั้งยังจ่ายค่าเช่าให้เดือนละหนึ่งล้านเยน ซึ่งแต่ละคนก็มีเป้าประสงค์แอบแฝงอยู่ เช่นเดียวกับตัวพระเอกเองที่ก็มีปมในใจไม่น้อย แล้วหญิงสาวทั้งห้าคนต้องการอะไร? ถึงจะดูแปลกๆ แต่ทุกครั้งที่เรามีโอกาสได้สำรวจดูลิสต์ซีรีส์จากญี่ปุ่นก็จะพบว่ามันมีอะไรน่าสนใจบอกเล่าให้เราฟังอยู่เสมอ เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่อาจจะดูแปลกประหลาดทั้งพล็อตหลักและการเดินเรื่อง กระนั้นก็มีเสน่ห์จนชวนติดตามดูจนนาทีสุดท้ายเช่นกัน และความขมบางอย่างในเรื่องก็เป็นอะไรที่เราต้อการในชีวิตเช่นกัน
Goblin
เรื่องของก็อบลิน (หรือยักษ์) อมตะ ทั้งยังมีความสามารถเหนือธรรมชาติมากมาย แต่เขากำลังตามหาเจ้าสาวที่สามารถปลดพันธะของเขาเพื่อที่จะได้ไปสู่ดินแดนอันแสนสงบได้ ซีรีส์ยึดเอาพล็อตหลักนี้แล้วเล่าเรื่องขนานกันระหว่างปัจจุบันกับอดีตว่าตัวละครแต่ละตัวมีความเกี่ยวพันกันอย่างไร และทำไมพวกเขาถึงมาลงเอยกันแบบนี้ เอาตามเวลาฉายจริงในเกาหลีใต้ถือว่าเป็นซีรีส์ปลายปีแหละ แต่พอดีว่าบ้านเราเข้ามาฉายใน iflix ก็ค่อนมาปี 2017 แล้ว และตัวซีรีส์ก็ทำให้ กงยู ที่ฮิตอยู่แล้ว ป็อปปังมากขึ้นไปอีก แต่ไม่ใช่แค่ตัวเอกเท่านั้นที่เป็นจุดเด่นของเรื่องนี้ แต่รวมถึงการถ่ายทำกับบทของซีรีส์ด้วยแหละที่สนุกจริงๆ
เพลิงบุญ
ดูเหมือนทางฝั่งฮอลลีวู้ดช่วงนี้จะหมดไอเดีย มีรีเมคหลายเรื่องออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งวงการละครไทยก็ไม่ต่างอะไรนัก เช่นเดียวกับ เพลิงบุญ ที่กลับมารีเมคกันอีกครั้ง แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดไปบ้างให้บทพูดกับความสัมพันธ์จับต้องได้มากขึ้น ซึ่งทำให้ฉากการด่าเผ็ดร้อนมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดแม้แต่ท่านประยุทธ จันทร์โอชายังต้องพูดถึงความเผ็ดพริกสิบแปดเม็ดของละครเรื่องนี้
คุณแม่มือใหม่หัวใจฟรุ้งฟริ้ง
ถ้าวัดกันด้วยตัวเลขเรตติ้งละครเรื่องนี้อาจจะถูกมองข้ามไปโดยง่าย แต่เมื่อมองลึกลงไปในที่เนื้อหาก็พบว่านี่เป็นละครไทยที่กล้าจะเดินเรื่องแบบขัดใจคนดูนับตั้งแต่การให้ตัวเอกมีลูกแต่เริ่ม การเดินเรื่องที่ไม่ใช่การตามหารักใหม่แต่เป็นการต่อสู้เพื่อการดูแลลูก และฉากจบที่ตัดสินใจไม่บอกคนดูว่านางเอกเลือกใคร (นอกจากลูก) เป็นแฟนตัวจริงกันแน่ ถึงจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็ทำให้เห็นว่าไม่ใช่แค่คนดูส่วนหนึ่งที่อยากเปลี่ยนแนวละครหรอก ผู้จัดบางท่านก็พร้อมจะปรับตัวแล้วเช่นกัน
เพลิงพระนาง
แค่ชื่อนักแสดงก็ทำให้รู้แล้วว่านี่น่าจะเป็นงานใหญ่ของช่อง 7 และเราก็ค่อนข้างแฮปปี้กับการรับบทของพวกเธอและเขาทั้งหลาย ที่มาขับเคี่ยวแย่งชิงบัลลังก์คั่นทองของเมืองทิพย์ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นขอการล่มสลายตัวเมืองไป ที่ดูจัดหนักจัดเต็มอีกเรื่องก็คงเครื่องแต่งกายที่มากันฟูลออพชั่นมากๆ แต่ด้วยตอนจบที่ออกจะเป็นโศกนาฎกรรมจึงทำให้คนดูส่วนหนึ่งเลี่ยงละครเรื่องนี้จนเรตติ้งไม่พุ่งสุดอย่างที่คาดกันก่อนฉาย
นายฮ้อยทมิฬ
ละครที่ย้อนเอาเรื่องของนายฮ้อยผู้ค้าควายและชำนาญกิจประเภทอื่นจนถูกขนานนามว่า ‘นายฮ้อยทมิฬ’ กลับมาอีกครั้งภายใต้การดูแลของ บริษัท พอดีคำ ที่แฟนละครหลายคนค่อนข้างไว้ใจเรื่องรายละเอียด แม้ว่าเวอร์ชั่นนี้อาจจะชวนสงสัยเล็กน้อยว่าการใช้คาถาออกมาจะดูไมเคิล เบย์ไปหน่อยหากเทียบกับเวอร์ชั่นก่อน แต่ก็ยัง มีคำชมว่ายังรักษารายละเอียดของวัฒนธรรมอีสานได้ดีเช่นเดิม
Project S The Series
ซีรีส์จากกลุ่มผู้สร้าง ฮอร์โมนส์วัยว้าวุ่น ที่ย้ายมาเล่าเรื่องกีฬากับวัยรุ่น แม้ว่าบทแรกของเรื่องอย่าง Spike จะเงียบๆ เหงาๆ ไปบ้าง แต่ในฝั่ง Side By Side และ SOS skate ที่จับเอากีฬามาคู่กับอาการป่วยและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นมากขึ้นทำคนดูและคนไม่ได้ดูต่างต้องจับตามองซีรีส์นี้อีกครั้ง จนหลายคนคาดหวังว่านักแสดงบางคนควรจะได้รับรางวัลจากการแสดงที่ยากเข็ญ และเมื่อดูว่ายังบททิ้งท้ายอย่าง Shoot, I Love You ที่เล่าเรื่องกีฬายิงธนู จะทำให้เราได้เซอร์ไพรส์อีกหรือไม่
อ้างอิงข้อมูลจาก