TW: ความตาย เลือด พิธีกรรม เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วนของภาพยนตร์
ข่าวการถวายศีรษะและชีวิตด้วยกิโยติน ให้กับพระพุทธเจ้าของพระรูปหนึ่ง สร้างความสยดสยองให้ผู้คนทุกครั้งที่เลื่อนนิวส์ฟีดผ่านรูปคนคุกเข่าถวายศีรษะ ภาพนั้นวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกบอกเล่าผ่านหลายมุมมอง บ้างก็ว่าเป็นความศรัทธาแรงกล้า บ้างก็ว่าเป็นความเลอะเลือน บ้างก็ว่าเป็นความงมงายที่สุดโต่ง อย่างไรก็ตาม หากมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการสละชีวิตเพื่อความศรัทธา ความเชื่อ หรืออำนาจบางอย่างที่อยู่เหนือกว่า
พิธีกรรมที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ มีหลายเลเวลความเขย่าขวัญ ตั้งแต่ระดับเบสิกอย่างการสร้างความเจ็บปวดบนร่างกายเพื่อชำระบาป อาจมีเลือดตกยางออก ไปจนถึงเฉือนอวัยวะ หรือขยับไปเลเวลที่สูงขึ้นอย่างการให้ลมหายใจเป็นเครื่องสังเวย เชือดสัตว์เพื่อบูชายัญต่อเทพเจ้า เพื่อความอุดมสมบูรณ์ การฝังเด็กทั้งเป็นของเผ่าอินคา ไปจนถึงการควักหัวใจมนุษย์ทั้งเป็นของชาวแอซเท็ก
ในแต่ละชนเผ่า มีจุดประสงค์ในการประกอบพิธีกรรมต่างกันไป แต่ส่วนสยองไม่ได้อยู่แค่ปลายทาง แต่เป็นกระบวนการต่างๆ ในพิธีนั้น อย่างการควักหัวใจของชาวแอซเท็ก นี่ก็คือผ่าอก จ้วงเอาหัวใจออกมาทั้งเป็น ใครจะไปคิดว่าเราจะได้เห็นพิธีกรรมเหล่านี้อีกครั้งในยุคปัจจุบัน แต่ถ้าหากสงสัยใคร่รู้ในพิธีกรรมหลอน ทั้งสยองและแปลกไปในตัว สามารถหาดูได้ในพิธีกรรมหลอนจาก 5 ภาพยนตร์ ที่อยากจะไปเสพพิธีกรรมสยองก็ได้ หรืออยากจะเสพตัวหนังเอาบันเทิงด้วยก็ดี
ลองของ (2005)
ตำนานความสยองของภาพยนตร์ไทย สร้างความตราตรึงต่อฉากประกอบพิธีกรรมของ ครูพนอ ผู้มากด้วยเสน่ห์ เมื่ออยู่ใกล้ใครเป็นอันต้องดึงดูดอีกฝ่ายให้เข้าหาอยู่เสมอ แต่ด้วยเสน่ห์อันล้นเหลือ กลับนำหายนะมาสู่ชีวิตของเธอเข้าอย่างจัง เมื่อเธอถูกเล่นของใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้เธอต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากมนต์ดำ และหนทางนั้นก็พาเธอไปสู่ความสยองเกินกว่าจะคาดคิด เนื้อเรื่องไม่ได้ถ่ายทอดชีวิตของครูพนอตรงๆ แต่เล่าผ่านเรื่องของราวของกลุ่มวัยรุ่นอย่าง ปอ คิ้ม แต นุช และโก้ ที่กลับมาเยี่ยมเพื่อนอย่าง ต๊ะ ถึงที่บ้าน ซึ่งแต่ละคนต่างมีเรื่องราวที่ไม่ได้บอกใคร และการไปเยือนบ้านหลังนั้น คือ จุดเริ่มต้นของความวายป่วงที่ไม่มีใครหนีพ้น
แม้เรื่องนี้จะมีฉากสยองให้เราต้องสูดลมหายใจให้ลึกเข้าไว้อยู่บ่อยๆ มีทั้งสยองบนความเซ็กซี่ และหลอนไม่มีชิ้นดี แต่พิธีสยองของเรื่องนี้ มีหรือจะพ้นฉากทำความสะอาดเหยื่อ ด้วยการถอนฟันเป็นๆ (กลืนน้ำลาย) ช่องปากสะอาดแล้ว ภายในต้องสะอาดด้วยน้ำร้อนที่ถูกกรอกเข้าไปทางปาก ลนผิวหนังด้วยไฟ ให้พร้อมกับการเจาะกระโหลกเพื่อเป็นเทพสามตา โดยฉากนี้อยู่ในจุดพีคของเรื่อง ที่แม้เราจะเห็นความสยองมาตลอดทั้งเรื่องก็ตาม แต่ฉากนี้ก็ยิ่งทวีความหลอนเข้าไปไม่ต่างจากความหลอนในช่วงแรกๆ ของภาพยนตร์เลย
The Blair Witch Project (1999)
เขย่าขวัญสั่นประสาทไปกับความสยองสมจริง กับภาพยนตร์ที่มีพล็อตแนว found footage แกล้งๆ ว่าเจอวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์หนึ่งไว้โดยบังเอิญ แล้วนำมาสู่เรื่องราวขนหัวลุกในภายหลัง ที่ว่าสมจริงนั้นก็เพราะว่า เราจะได้เห็นการถ่ายแบบ handheld เหมือนโฮมวิดีโอสมัยก่อน โดยเป็นเรื่องราวของ นักศึกษาภาพยนตร์ 3 คน ที่เดินทางไปยัง ป่าแบล็กฮิลล์ ในเมืองเบอร์กิตต์สวิลล์ รัฐแมรี่แลนด์ เพื่อไปถ่ายสารคดีพิศวงขนหัวลุกอย่าง ตำนานท้องถิ่นอย่างแม่มดแบลร์ที่คอยสร้างความหลอนในป่าลึก โดยแต่ละคนมีหน้าที่ต่างกันไป หนึ่งคนทำหน้าที่ตากล้อง หนึ่งคนทำหน้าที่พิธีกร คอยเล่าเรื่องราว อีกหนึ่งคนทำหน้าที่บันทึกเสียง แน่นอนว่าทั้ง 3 คนหายตัวไป และภาพที่เห็น เป็น footage ที่ถูกพบอย่างบังเอิญในภายหลัง
เรื่องนี้เราจะไม่ได้เห็นพิธีกรรมแบบ ปั้ง นี่แน่ะ ปั้ง ปั้ง เอาไปอีก แบบเรื่องลองของ แต่ว่าเราจะได้เห็นสิ่งที่เป็นตัวแทนของพิธีกรรม อย่างอุปกรณ์หลอนๆ ที่เจอ เป็นแท่งไม้ที่ถูกผูกเป็นสัญลักษณ์แปลกๆ เห็นแล้วรู้เลยว่า ต้องเอาไว้ประกอบพิธีกรรมหลอนๆ อย่างแน่นอน รวมไปถึงของที่เห็นก็หลอน โดยไม่ต้องมีอะไรเพิ่มเติมอย่างฟันและเส้นผมของมนุษย์ ที่สันนิษฐานได้เช่นกันว่ามันต้องถูกนำไปใช้ในพิธีกรรมบางอย่างแน่ๆ และนั่นคือฝีมือของแม่มดแบลร์ที่พวกเขาค้นหา หรือมันคือความหลอนเพราะความอ่อนเพลียจากการหลงป่ากันแน่ อันนี้ต้องตามไปดูกัน
The VVitch (2015)
ครอบครัวเคร่งศาสนาที่ถูกขับไล่มาตั้งรกรากเพียงลำพัง บ้านของพวกเขาไม่ไกลจากชายป่ามากนัก แน่นอน ป่ามักจะมาพร้อมกับความลึกลับอยู่เสมอ เมื่อลูกคนเล็กของครอบครัว หายตัวไปในป่าลึก ไม่นาน ลูกชายคนรองก็หายเข้าไปในป่าด้วยเช่นกัน รวมทั้งสัตว์ในคอกของบ้าน ก็พาลหายตามกันไปติดๆ ต้องมีใครสักคนเป็นคนร้ายในเรื่องนี้ ความซวยจึงตกมาอยู่ที่ลูกสาวคนโต ที่โดนกล่าวหาว่าเป็นแม่มดและอยู่เบื้องหลังความซวยทั้งหมดทั้งมวลที่พวกเขาเจอ
เด็กน้อยผู้น่าสงสาร ผู้หายไปในอ้อมกอดของหญิงชรา เหยื่อรายแรกที่จะพาเราไปเห็นพิธีกรรมสยองในบ้านลึกกลางป่า ผ่านกองเลือด ผ่านแสงไฟสลัว รวมไปถึงฉากเขย่าขวัญอื่นๆ มาจากสัตว์ที่เป็นภาพแทนของซาตาน ปีศาจ และศาสตร์มืด ที่แม้เรื่องนี้จะไม่มีอะไรตุ้งแช่มาให้เราตกใจแบบ เห้ย เห้ย มาอีกแล้ว แต่จะเป็นภาพความสยองที่มาเสิร์ฟตรงหน้า ถึงอย่างนั้นตัวภาพยนตร์เองก็ไม่ได้ขายแค่ความหลอนแก่ผู้ชม แต่ยังมีเรื่องของคนนอกรีต ศาสนาอังเคร่งครัด สังคมปิตาธิปไตย ที่เด่นชัดตั้งแต่ต้นเรื่อง
Midsommar (2019)
อย่าให้โปสเตอร์หลอกตา ด้วยสีสันอันสดใสและดอกไม้โปรยปราย รวมทั้งภาพอันสว่างไสว ผิดขนบภาพยนตร์สยองขวัญพอสมควร เล่าให้ง่ายและสั้น เปิดด้วยปัญหาชีวิตของแดนี่ที่แสนจะรุมเร้า จนทำให้เขาต้องหาที่พึ่งทางจิตใจอยู่เสมอ และคนนั้นคือ คริสเตียน แฟนหนุ่มของเธอ ที่เป็นผู้ฟังที่ดีของเธอมาตลอด แต่ภายใต้ทะเลอันสงบนั้น จะบังเกิดพายุใหญ่ในความสัมพันธ์ภายหลังเสมอ ทั้งคู่มีความระหองระแหงในความสัมพันธ์จนอยู่ในจุดที่ต้องพิจารณาว่า จะไปต่อหรือพอแค่นี้ จนทั้งคู่ได้ร่วมเดินทางไปกับเพื่อนๆ ยังหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่ง
หมู่บ้านนั้นสดใสและเปล่งประกายในฤดูร้อน ทั้งธรรมชาติ หมู่บ้าน และผู้คน โดยในช่วงเวลาที่พวกเขาเดินทางไปหมู่บ้านนั้น กำลังจะมีเทศกาลในวันที่พระอาทิตย์ไม่ตกดิน ซึ่งจะเกิดครั้งเดียวในรอบ 90 ปี ความประทับใจแรกเจอของพวกเขากับหมู่บ้านนั้น ช่างสดใสไม่แพ้ฤดูร้อน แต่อยู่ไปอยู่มา ความสดใสนั้นซ่อนความแปลกพิกลไว้อย่างแนบเนียน
หลังจากเผยความสยองในระลอกแรกแล้ว เราก็จะได้เห็นพิธีกรรมประหลาด ที่สรรหามาทำอีกมากมายไม่แพ้ลองของ แต่เรื่องนี้จะเป็นพิธีกรรมจากความเชื่อของคนหมู่มาก ใกล้เคียงกับพิธีกรรมของชนเผ่าในอดีต ที่ผู้มีศรัทธาจะรวมตัวกันมาประกอบพิธีในพื้นที่ส่วนรวม ไปจนพิธีจากความเชื่อที่ทำโดยปัจเจก อย่างการทำเสน่ห์ ที่เข้มข้นทั้งเนื้อเรื่อง ความสัมพันธ์ของตัวเอกในตอนต้น และพิธีสยอง ที่ต้องไปตามดูกันว่า เรื่องนี้อัดแน่นพิธีสยองมาให้เรากี่อย่างแล้วภายในเรื่องเดียว
The Skeleton Key (2005)
เรื่องนี้ดูเหมือนจะเล่าด้วยสูตรสำเร็จของหนังสยองขวัญ เริ่มเรื่องด้วย แคโรไลน์ พยาบาลที่ได้งานดูแลผู้ป่วยติดเตียง ในบ้านริมทะเลสาบ แสนจะสงบและเป็นส่วนตัว แต่ความตะหงิดก็เริ่มขึ้น เมื่อกระจกเงาเป็นของต้องห้ามสำหรับบ้านหลังนี้ เธอสัมผัสได้ตั้งแต่แรกว่าภรรยาของชายชราไม่ได้ถูกชะตาเธอมากนัก มีแต่ทนายหนุ่มของบ้าน ที่พอจะพูดคุยกับเธอได้อย่างถูกคอ รวมทั้งชายชราที่แม้จะพูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็พยายามสื่อสารบางอย่างกับเธอเสมอ
แคโรไลน์เองเธอได้กุญแจดอกหนึ่งมาจากเจ้าของบ้าน เป็นกุญแจที่ไขประตูได้ทุกห้องในบ้านหลังนี้ อยู่ไปอยู่มามันก็มีเหตุให้เธอไปพบเจอสิ่งผิดปกติในห้องหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยของแปลกๆ ซึ่งดูแล้วเดาได้ไม่ยากเลยว่ามีไว้สำหรับทำพิธีกรรมบางอย่าง และสำหรับเรื่องนี้คือวิธีกรรมวูดู เราอาจจะได้เห็นพฤติกรรมหรือพิธีแปลกๆ บ้างระหว่างเรื่อง แต่พิธีกรรมสุดแสนจะพีคนั้นรอเราอยู่ตอนท้าย เล่ามากกว่านี้ก็ไม่ได้ ต้องลองไปดูกันเอาเองว่าพิธีนั้นจะพีคจริงหรือเปล่า