สุดสัปดาห์นี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาดีๆ ของคนทำงานหลายคนที่ได้หยุดพักสั้นๆ เนื่องจากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ติดช่วงวันเสาร์อาทิตย์พอดี แต่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ราว 3-5 วันแบบนี้ หลายคนก็อาจไม่ได้วางแผนเดินทางไปที่ไหนเพราะกลัวว่าแค่การเดินทางไปกลับก็อาจจะกินพลังงานกันมากโข และกลุ่มคนที่คิดเช่นนี้ก็เลือกที่จะพักผ่อนชาร์จพลังงานอยู่บ้านแทน
แต่จะให้ขาดความบันเทิงในช่วงหยุดก็คงจะดูแห้งแล้งไปหน่อย ในโอกาสนี้เราจึงถือวิสาสะหยิบเอาซีรีส์ 7 เรื่องที่ใหม่หน่อยและเป็นซีรีส์ไม่ยาวมากนัก แถมสามารถหาได้ไม่ยาก จนสามารถนั่ง Binge Watching ได้ในช่วงหยุดสั้นๆ แบบนี้ ซึ่งคุณผู้อ่านจะเลือกดูแค่เรื่องเดียวจากหรือจะดูหมดทีเดียว 7 เรื่องก็ได้เช่นกันนะ
Good Girls – 1 ซีซั่น 10 ตอน
ความยาวเฉลี่ยรวม 7 ชั่วโมง 30 นาที
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก และจะยิ่งลำบากมากขึ้นถ้าคุณเป็นคุณแม่ที่ต้องสู้เพื่อครอบครัวในภาวะที่ต้องการเงินอย่างยิ่งยวด แล้วทางออกที่เพื่อนร่วมก๊วนคิดได้คือการไปปล้นเงินซูเปอร์มาร์เก็ตละแวกบ้าน ซึ่งการปล้นก็ผ่านไปด้วยดี มีปัญหานิดเดียวที่ตามมาก็คือ มีคนจำได้ว่าพวกเธอเป็นใคร และเงินเจ้ากรรมที่ปล้นมาก็ดั๊นเป็นเงินที่แก๊งอาชญกรรมมาฟอกไว้ด้วย ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เรื่องราวในซีรีส์อาชญากรรมปนตลกเริ่มต้นขึ้น
ซีรีส์ที่เพิ่งลงใน Netflix ไม่นานเรื่องนี้ ได้จับเอาประเด็นความลำบากของการเป็นแม่ในยุคปัจจุบันที่มีเลเยอร์ของปัญหาซับซ้อนขึ้น ซึ่งในเรื่องก็มีภาวะที่คุณแม่ลูกสี่ต้องรับมือกับการนอกใจแบบหมาดๆ ของสามี, แม่ที่ต้องดูแลลูกที่ป่วยระดับต้องผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ, แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ตกในภาวะสุ่มเสี่ยงในการถูกข่มขืน ฯลฯ เมื่อผสมกับปมอาชญากรรมในเรื่องก็ทำให้มีความอีรุงตุงนังหนักมาก และแม้ว่าตอนแรกๆ อาจมีความไม่กลมกล่อมของนักแสดงอยู่บ้างแต่ในช่วงท้ายๆ ของเรื่องก็ตึงเครียดจนชวนสงสัยว่าพล็อตเรื่องจะไปจบลงทางใดกันแน่
Kantaro: The Sweet Tooth Salaryman – 1 ซีซั่นจบ 10 ตอน
ความยาวเฉลี่ยรวม 5 ชั่วโมง
ซีรีส์ที่คุยเรื่องของกินส่วนใหญ่มักเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเปิดชมในวันสุดชิล ด้วยเหตุที่ว่าซีรีส์เหล่านั้นมักเดินเรื่องแบบไม่ดุเดือดมาก ตัวภาพมุ่งเน้นในการถ่ายทำอาหารและฉากรับประทานจนคนดูอยากเดินออกไปหาอะไรมากินระหว่างการรับชม
ซีรีส์จากญี่ปุ่นเรื่องนี้ ที่เล่าเรื่อง คันทาโร่ ชายหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาทำงานในแผนกเซลล์ของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง เขาสามารถจำโครงสร้างของเมืองได้อย่างแม่นยำและมีทักษะในการเดินที่ยอดเยี่ยม เขาจึงสามารถเดินทางเข้าไปหาร้านหนังสือที่ซ่อนตัวอยู่ในตัวเมืองได้อย่างง่ายดาย โดยการใช้ชีวิตของเขาก็ดูจริงจังสมความเป็นซาลารี่แบบญี่ปุ่น แต่เขามีความลับอย่างหนึ่งที่ไม่เปิดเผยให้เพื่อนร่วมงานรู้ก็คือ ตัวเขาเป็นหนุ่มติดขนมหวานและเป็นเจ้าของบล็อกรีวิวขนมหวานชื่อดัง ที่เดินทางไปยังร้านของหวานชื่อดังได้ราวกับสัตว์ป่าที่ล่าเหยื่ออย่างแม่นยำ และเขาจะไม่ยอมให้ใครมาขวางการล่าของเขาอีกด้วย
จุดเด่นของซีรีส์นี้คงไม่พ้นการแนะนำขนมที่มีร้านเปิดบริการจริงให้ตัวเอกเดินทางไปกินแล้วสาธยายความดีงามของการทำขนมแต่ละชนิด พร้อมด้วยการถ่ายทำที่ซูมของหวานตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเตรียมวัตถุดิบไปจนถึงการจัดวางมาอย่างสดใส เมื่อรวมกับการมโนและรีแอคชั่นระหว่างการกินขนมที่ทำออกมาแบบสุดโต่ง ทำให้เราต้องดูซีรีส์เรื่องนี้พร้อมกับจิกพุงตัวเองเพื่อไม่ให้หาของกินมาหม่ำเพิ่มตอนนั่งดูเนี่ย
Sense 8 – 2 ซีซั่นจบ 20 ตอนปกติ กับ 2 ตอนยาวพิเศษ
ความยาวเฉลี่ยรวม 1 วัน 30 นาที
พี่น้องวาโชสกี้ (The Wachoskis) เป็นคนทำสื่อบันเทิงที่มักมีไอเดียบรรเจิดอยู่แบบสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับซีรีส์ไซไฟเรื่องนี้ที่พี่น้องสองคนจับประเด็นให้คน 8 คน 8 ชาติ 8 วัฒนธรรม 8 สถานะ จู่ๆ ก็สามารถใช้ประสาทสัมผัสร่วมกัน โดยมีหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงพวกเขา ซึ่งในช่วงแรกความสัมพันธ์แบบเชื่อมจิตนี้ก็ทำให้ทั้งแปดคนตื่นตระหนก แต่ละคนก็จะได้เห็นภาพที่ไม่มีโอกาสได้เห็นมาก่อน แต่เมื่อคุ้นเคยมากขึ้นพวกเขาก็สามารถสลับสับเปลี่ยนความสามารถเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันละกันได้ และศัตรูของพวกเขาก็คือ วิสเปอร์ ชายลึกลับที่ต้องการไล่ล่าผู้ใช้ประสาทสัมผัสร่ม
ซีรีส์เล่าความหลากหลายของผู้คนในโลกได้อย่างดี เพราะนอกจากตัวละครจะมีหลายเชื้่อชาติแล้ว ก็ยังมีความหลากหลายทางเพศ แถมทุกตัวละครต่างพยายามต่อสู้ไม่ใช่แค่กับประสบการณ์แปลกใหม่ที่พวกเขาต้องเผชิญเท่านั้น ยังรวมถึงการต่อสู้กับอำนาจที่แต่ละสังคมขีดเส้นจำกัดต่างๆ เอาไว้ด้วย ในช่วงแรกๆ ของเรื่องอาจจะชวนงงสักหน่อย ดังนั้นการนั่งดูรวดเดียวเพื่อปิดข้อสงสัยทั้งหมดก็เป็นประสบการณ์ที่ดีไม่หยอกเลยทีเดียว
Erased – ซีซั่นเดียวจบ 12 ตอน
ความยาวเฉลี่ยรวม 5 ชั่วโมง
ฟูจินุมะ ซาโตรุ ชายหนุ่มที่คาดหวังจะเป็นนักเขียนการ์ตูนแต่กลับดูไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตใดๆ เขามีความสามารถพิเศอย่าง ‘รีไววัล’ ที่สามารถติดอยู่ในวังวนเวลาระยะหนึ่ง ทำให้เขาแก้ไขปัญหาที่อาจกลายเป็นอุบัติเหตุใหญ่ ให้จบลงเป็นเรื่องเล็กน้อยได้ แต่เมื่อแม่ของถูกฆาตกรรมโดยคนร้ายที่ลึกลับ พลังรีไววัลของซาโตรุ ก็ได้นำพาเขาไปยังปี 1988 ก่อนที่ซาโตรุจะได้เจอกับเหตุการณ์ร้ายที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาอย่างการลักพาตัวเด็กในชั้นเรียนไปฆาตกรรม และเมื่อครั้งนี้ลูปเวลาถูกย้อนมาไกลกว่าปกติ บางทีคดีในวัยเด็กนั้นอาจเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรที่ฆ่าแม่ซาโตรุในยุคปัจจุบันก็เป็นได้
Erased ฉบับซีรีส์คนแสดงนี้เป็นการดัดแปลงมังงะเรื่องเดียวกันที่ใช้ชื่อไทยว่า ‘รีไววัล ย้อนอดีตไขปริศนา’ ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกดัดแปลงเป็นอนิเมชั่นกับภาพยนตร์จอเงินมาก่อน ทว่าทั้งสองเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้มีการดัดแปลงเนื้อเรื่องไปบ้าง แต่ในฉบับซีรีส์คนแสดงนี้ยังคงเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับต้นฉบับมากที่สุด รวมถึงบรรยากาศกับภาพที่มีความทึมทะมึนสีเทาๆ ปกคลุมอยู่เกือบตลอดทั้งเรื่อง และอีกส่วนที่เราค่อนข้างชอบก็คือความสามารถของนักแสดงเด็กหลายคนที่มารับบทในเรื่องชวนหนักแบบนี้
Brooklyn Nine-Nine – 4 ซีซั่น 90 ตอน
ความยาวเฉลี่ยรวม 1 วัน 9 ชั่วโมง
Brooklyn Nine-Nine เป็นซีรีส์แนวตลกหน้าตายที่เล่าเรื่องของคนทำงานในสถานีตำรวจที่ 99 ของเขตบรูคลินในมหานครนิวยอร์กที่เต็มไปด้วยนักสืบฝีมือฉมัง ที่ปิดคดีได้เป็นร้อยๆ แต่แทบทุกคนมีปัญหาด้านวินัยการทำงานในทางใดทางหนึ่ง และเป็นหน้าที่ของผู้กองคนใหม่ที่พยายามจะเข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ให้สำเร็จ แต่คนเคยอินดี้มาตลอ จะให้เปลี่ยนแปลงทันทีทันควันคงไมใช่ง่ายๆ แหละ
หลายคนน่าจะพอคุ้นชื่อซีรีส์เรื่องนี้ หลังจากที่คลิปนักสืบสั่งให้ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมร้องเพลง I Want It That Way ของวง Backstreet Boys จนสามารถจับตัวคนร้ายได้ กลายเป็นกระแสในอินเทอร์เน็ตระยะหนึ่งในช่วง 2-3 เดือนก่อน และคลิปดังกล่าว น่าจะทำให้หลายๆ คน เตะตาซีรีสเรื่องนี้กันบ้าง แม้ว่าแกนหลักของเรื่องจะเป็นแนวตลกรับประทาน แต่ในเรื่องก็ยังเล่าการไขคดีจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ความจริงซีรีส์ฉายในอเมริกาถึง 5 ซีซั้นแล้ว แต่ในไทยเราช่องทางถูกกฎหมายเพิ่งปล่อยมาถึงซีซั่นที่สี่เท่านั้น
Princess Jellyfish 1 ซีซั่นจบ 10 ตอน
ความยาวเฉลี่ยรวม 7 ชั่วโมง 30 นาที
แรกเริ่มเดิมทีเราตั้งใจจะแนะนำให้ทุกท่านได้รับชม Good Doctor ฉบับญี่ปุ่นที่ดัดแปลงมาจากซีรีส์ฮิตของเกาหลี และฉายผ่านเว็บไซต์ Viu.com ทว่าตัวซีรีส์ดังกล่าวนั้นยังออกอากาศอยู่ จึงน่าจะยังแนะนำมาเพื่อ Binge Watching ไม่ได้ เราเลยถือโอกาสมาแนะนำกัน
Princess Jellyfish เล่าเรื่องของหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในหอพักที่ถือว่าเป็น ‘สำนักชี’ ไม่ใช่เพราะว่าที่นี่เป็นหอพักหญิงเท่านั้น แต่สมาชิกทุกคนของหอพักแห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นโอตาคุที่ละทิ้งเรื่องทางโลกไปแล้ว อย่างนางเอกของเรา ซึคิมิ ก็เป็นโอตาคุแมงกระพรุนที่บังเอิญวันหนึ่งเธอได้เจอกับคุราโนสุเกะ ชายหนุ่มที่ชอบแต่งตัวเป็นหญิงสาว จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มผูกมิตรด้วยความสัมพันธ์แปลกประหลาด และเมื่อมีข่าวว่าจะมีการทำลายหอพักของกลุ่มโอตาคุหญิง คุราโนสุเกะจึงใช้ความสามารถในการแต่งหน้ากับรสนิยมแฟชั่นในการพยายามช่วยเหลือคน
ซีรีส์นี้ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนดังในญี่ปุ่น แม้ว่าจะเล่าเรื่องแบบตลกอย่างต่อเนื่อง แต่ปมตัวละครในเรื่องกลับมีอะไรน่าสนใจอย่างมาก เพราะแทบทุกตัวมีปมที่ทำให้ชีวิตตัวเองต้องติดหล่มกัน และการจะหลุดพ้นออกจากหล่มนั้น คนอื่นก็ไม่สามารถช่วยให้หลุดออกมาได้ ถ้าเจ้าตัวเองไม่คิดจะก้าวเดินออกมาจากจุดนั้น
น้ำตากามเทพ – 1 ซีซั่น 13 ตอนจบ
ความยาวเฉลี่ยรวม 9 ชั่วโมง 45 นาที
เรารู้นะว่าหลายคนชอบการแซะแกะเกา หนึ่งในซีรีส์ที่เราหยิบมาแนะนำในช่วงวันหยุดสั้นๆ ก็คือซีรีส์ไทยสายจิกกัดเรื่องนี้มาบอกกล่าวกัน แถมเรื่องที่แซะก็เป็นการจิกกัดละครไทยแบบรอบตัวนับตั้งแต่การแย่งชิงมรดกพันล้าน พระเอกที่ใส่สูทตลอดเวลาแม้แต่ตอนนอน, ชอบนางเอกแต่ทำทีไม่สนใจ, นางเอกที่ถูกกลั่นแกล้งแต่ก็เอาคีนได้แบบจิกหัวคนฟาดเปียโน, คุณแม่ที่ทำยังไงก็ได้เพื่อครอบครองมรดก, ลูกสาวคุณแม่ที่หัวเราะร้ายพอๆ กับแม่ แต่จริงๆ เป็นคนดี (หือ), คนสวนติดหนวดที่มีกล้ามหน้าอกใหญ่, การลักพาตัวไปตบจูบบนเกาะร้างกลางทะเล (โอ๊ย สับสน) เรียกได้ว่าแดกดันพล็อตเรื่องของละครไทยเกือบครบทุกรูปแบบ (ขาดตกก็แค่พลอ็ตระลึกชาติย้อนอดีตที่ไปลงอยู่ในการ์ตูนภาคเสริม)
ผลงานซีรีส์ไทยสนิทจากทาง GTH (ตั้งแต่ก่อนเปลี่ยนชื่อนั่นแหละ) เคยออนไลน์มาแล้วครั้งหนึ่งก่อนที่จะโยกย้ายมาฉายที่ iFlix ในปีนี้ ทำให้คนดูสามารถนั่งดูแต่ละตอนแบบยาวๆ ได้โดยไม่มีอะไรมาขวางทางระหว่างการฉาย แค่พลอทก็บ้าบออยู่แล้ว แต่ถ้าจับปร ะเด็นว่าแต่ละซีนแต่ละฉากเป็นการแซะละครเรื่องอะไรก็ทำให้สนุกขึ้นอีกหลายๆ เท่าตัว