ในทุกครั้งที่ก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของออฟฟิศไหนสักแห่ง เราคิดว่าเจ้านายของเราจะเป็นยังไง? เขาจะเนี้ยบทุกตารางนิ้วเหมือน มิแรนด้า จาก The Devil Wears Prada หรือจะเป็นเจ้านายหัวสมัยใหม่อย่าง จูลส์ จาก The Intern เราเลยได้แต่แอบทดไว้ในใจว่าเจ้านายในฝันของเราจะเป็นแบบนั้นแบบนี้
เมื่อเราเติบโตขึ้นในสายงานของเรา จนได้พบปะกับเจ้านายเพิ่มอีกหลายคน อาจทำให้เราได้คำตอบว่า การคาดเดาว่าเขาเป็นอย่างไรนั้นไม่สำคัญเลย เรื่องจริงในออฟฟิศที่ต้องตื่นมาเจอทุกเช้าต่างหากที่ส่งผลกับเรามากที่สุด บางคนมีเจ้านายเป็นดั่งบ่อน้ำขอพร ขออะไรเป็นอย่างนั้น เป็นดั่งโอเอซิส คอยโอบอุ้มลูกน้องท่ามกลางแดดแผดเผา หรืออาจจะเป็นดั่งฝันร้ายที่ไม่อยากให้ตัวเองต้องตื่นมาเจอในวันต่อไป
ด้วย Power Dynamic ที่แฝงอยู่ในตำแหน่ง ทำให้เจ้านายไม่ใช่คนที่เราจะรับมือได้ตามใจเหมือนกับเพื่อนร่วมงาน เจอเจ้านายที่เข้าขา ถูกคอ ถูกใจ ถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ แต่ถ้าเจอเจ้านายแบบที่ไม่ลงรอยกัน เหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่ออย่างไรก็ไม่สนิท แบบนั้นเราจะทำอย่างไร?
มาดูความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายและลูกน้อง ทั้งเรื่องราวประทับใจและเรื่องราวที่ทำให้ไม่เคยลืม ผ่าน 5 ภาพยนตร์ เรื่องราวหลากรสของเจ้านายและลูกน้อง ที่อาจปะปนไปด้วยความก้าวหน้า คราบน้ำตา หรือบทเรียนครั้งใหญ่ที่เราต้องจดจำไปอีกนาน
Boiler Room (2000)
กำกับโดย Ben Younger
เจ้านาย เป็นดั่งผู้ปกครองของเราในที่ทำงาน คอยบอกถูกผิด คอยสอนให้เราก้าวเดินบนสายงานนี้ด้วยวิธีของเขาเอง หากเรารู้สึกว่าวิธีที่เจ้านายกำลังชี้ทางให้เรานั้น มันไม่ค่อยชอบมาพากลล่ะ เราจะไหลไปตามน้ำหรือลุกขึ้นมาทำตามความถูกต้อง
เซ็ธ เด็กหนุ่มวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่ตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเอง ด้วยการออกมหาวิทยาลัย มาเติมเต็มปณิธานที่เฝ้าหาแต่เม็ดเงิน ด้วยการเปิดบ่อนพนันเล็กๆ แต่แล้วก็ดันจับพลัดจับผลูไปเป็นโบรกเกอร์ด้วยคารมอันเป็นเลิศของเขา อาชีพนี้ตอบโจทย์ความทะเยอทะยานของเขาเป็นอย่างดี เมื่อยิ่งไปอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงานอุดมการณ์เดียวกัน นั่นยิ่งทำให้สายตาของเขาถูกบดบังด้วยเม็ดเงิน จนมองไม่เห็นความผิดแปลกบางอย่าง
ที่ออฟฟิศนี้ ต่างหล่อหลอมให้พนักงานทะยานอยากจะก้าวหน้า ด้วยเงินโบนัสก้อนโต รถสปอร์ตคันงาม หรือแม้แต่บ้านที่เด็กวัยเดียวกันกับเขาไม่กล้าฝันถึง แล้วอาชีพโบรกเกอร์มันทำให้เขาสามารถไปถึงจุดนั้นได้ในระยะเวลาเพียงหกเดือนจริงหรือ? แล้วสิ่งที่เขากำลังเสนอขายนั้น มันเป็นสินทรัพย์ล้ำค่าอย่างที่เขาบรรยายผ่านสายโทรศัพท์จริงหรือเปล่า หรือเป็นเพียงเหยื่อล่อคนโลภให้มาติดกับ เช่นเดียวกับที่เขากำลังติดกับดักนี้อยู่โดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
Office Space (1999)
กำกับโดย Mike Judge
หากพูดถึงชีวิตการทำงานในออฟฟิศแล้ว ไม่มีเรื่องไหนจะตลกร้ายได้เท่ากับเรื่องนี้อีกแล้ว เรื่องราวของบริษัทไอทีที่กำลังต้องการปรับโครงสร้าง ลดจำนวนพนักงานลง แม้เดิมทีจะไม่ใช่งานในฝัน แต่เมื่อต้องโดนปลดสายฟ้าแลบโดยไม่รู้ว่าผู้โชคร้ายเหล่านั้นคือใคร ทุกคนก็ต้องดิ้นรนให้เก้าอี้ตำแหน่งตัวเองอยู่รอดปลอดภัยต่อไป
ตั้งแต่เจ้านายที่พกความอิหยังวะมาตั้งแต่เดินเข้าออฟฟิศ โครงสร้างบริษัทที่ทำให้พนักงานคนนึงต้องมีเจ้านายเกือบสิบคน หรือแม้แต่พนักงานที่ใช้ชีวิตเละเทะไม่สนใจโลกเพราะเขาเบื่อกับงานเต็มที ที่แม้จะแทรกมุกตลกชวนขำท้องแข็ง แต่เรื่องราว มุมมอง ของแต่ละตัวละครนั้น มันมีมิติ จับต้องได้จริง เราสามารถหมุนเก้าอี้ไปเจอผู้คนเหล่านี้ได้ในออฟฟิศของเราเอง
สารพัดปัญหา เรื่องราวตลกร้าย ที่สามารถพบเจอได้ในออฟฟิศ ถูกรวมมาไว้ในเรื่องนี้หมดแล้ว
Swimming with Sharks (1994)
กำกับโดย George Huang
เหนื่อยกับงานนอนพักยังหาย แต่เหนื่อยใจกับคนนี่สิ จะนอนกี่ตื่นก็ไม่ช่วยอะไร หากใครกำลังคิดว่าตัวเองต้องเจอกับเจ้านายนิสัยเสีย ชอบทำร้ายร่างกายและจิตใจ วางอำนาจ และหลงใหลในอีโก้ของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม อาจจะต้องกอดคอร้องไห้ไปพร้อมกับ เร็กซ์ เลขาหัวอ่อนว่าง่าย ที่ตกอยู่ใต้อำนาจของเจ้านายที่มีครบทุกข้อที่กล่าวมาอย่าง บัดดี้
ปาข้าวของ ดูถูกเหยียดหยาม ด่าทอ เสียดสี เร็กซ์โดนมาแล้วแบบครบชุด ไม่มีตกหล่นไปสักอย่างเดียว แม้พวกเขาต้องทำงานด้วยกันตลอดเวลา แต่นั่นกลับยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแย่ลงเรื่อยๆ จนเขาตัดสินใจลุกขึ้นมาชำระแค้น ตอบแทนกับเรื่องราวที่ถูกกระทำอย่างสาสม
9 to 5 (1980)
กำกับโดย Colin Higgins
เจ้านายในฝันร้ายของเราเป็นแบบไหน? อาจจะรวมไว้ที่ แฟลงก์กลิน ฮาร์ต เจ้านายตัวร้าย ที่ปฏิบัติกับพนักงานผู้หญิงอย่างไม่เป็นธรรมแบบออกนอกหน้า จนทำให้ 3 สาวในออฟฟิศอย่าง จูดี้ ไวโอเล็ต และโดราลี ต้องลุกขึ้นมาทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเองและสาวๆ คนอื่น ที่ตกเป็นเหยื่อความร้ายกาจของเจ้านายคนนี้
ด้วยวิธีไหนดีล่ะ ที่แก้แค้นเจ้านายนิสัยเสียคนนี้ได้ดีที่สุด รายงาน HR งั้นหรอ? ใครจะฟังเสียงพนักงานตัวเล็กๆ กันล่ะ ลักพาตัว หรือวางยาดีนะ แม้หนังจะพยายามกล่อมเกลาให้มันออกมาคอมเมดี้ แต่ประเด็นการเหยียดเพศ เลือกปฏิบัติในที่ทำงานของเรื่องนี้ ยังคงเป็นเรื่องที่สามารถนำมาสะท้อนความไม่เท่าเทียมในที่ทำงานได้จนถึงทุกวันนี้
You’ve Got Mail (1998)
กำกับโดย Nora Ephron
แม้ดูเผินๆ จะเป็นหนังรอมคอมระดับตำนาน สมัยที่เราเพิ่งจะมีอินเทอร์เน็ตใช้อย่างทั่วถึง แต่เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เราได้เห็นจากมุมมองของเจ้าของกิจการที่ต้องแบกธุรกิจเอาไว้ในมืออีกด้วย เรื่องราวของ เคธลีน เจ้าของร้านหนังสืออิสระ ที่กำลังอินเลิฟอยู่กับชายหนุ่มปริศนาบนอินเทอร์เน็ต ทั้งสองได้ทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนเรื่องราว ความรู้สึก ผ่านตัวอักษรแบบไม่เคยได้เห็นหน้ากัน เพราะเคธลีนเองก็มีคนรักของเธออยู่แล้ว (micro-cheating แต่ก่อนกาล)
แม้จะมีเรื่องชวนอมยิ้มในทุกวัน แต่เรื่องธุรกิจของเธอนั้นกำลังเข้าขั้นวิกฤตจนต้องหาทางรอดโดยเร็ว เพราะอยู่ดีๆ ร้านหนังสือแสนอบอุ่นของเธอนี้ก็มีศัตรูเพิ่มขึ้นมาเป็นร้านหนังสือขนาดใหญ่ที่กำลังจะเปิดใหม่ในย่านเดียวกัน ด้วยฝีมือของโจ ที่พร้อมบวกกับเธออย่างออกหน้าออกตา ธุรกิจก็ไม่รู้จะไปรอดได้แค่ไหน เพื่อนพึ่งทางใจของเธอก็มีแต่หนุ่มปริศนาคนนั้นเท่านั้น
นอกจากความรอมคอมที่เป็นเส้นเรื่องหลักแล้ว มาดูกันว่าเธอจะเอาตัวรอดจากวิฤตครั้งนี้อย่างไร จะเป็นนางแบกให้กับร้าน คอยโอบอุ้มให้ลูกน้องทุกคนไว้ได้อีกนานแค่ไหน