วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานครเปิดให้ประชาชนเข้าไปร่วมทดสอบระบบเป็นเวลา 1 วันถ้วน ก่อนเปิดใช้จริงวันที่ 28 เมษายน เราก็เลยต้องขอบ้าเห่อไปมุงดูกับเขาเสียหน่อย!
ตำแหน่งห้องสมุดที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ ของ Neilson Heys (ซึ่งเราแต่งตั้งเองแหละ ฮ่า) ต้องสั่นคลอน เพราะอาคารสีเหลืองอ่อนสไตล์นีโอคลาสสิค ณ สี่แยกคอกวัวแห่งนี้สวยมาก สวยแบบถ้ามีวัวอยู่ตรงนี้จริงก็วัวตายควายล้ม สวยแบบมงลง แล้วยังมีดีเทลน่ารักน่าชังอย่างสติกเกอร์ที่ติดบนกระจกหน้าต่างเรียงเป็นคำว่า ‘Open Library – Open Your Mind – Open Your World’ ส่วนด้านในนั้นดูโล่งสบายน่านั่งด้วยกำแพงสีอ่อนและเพดานสูงโปร่ง เราให้คะแนนพิเศษกับหน้าต่างที่เปิดให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามา เหมาะกับการอ่านหนังสือมากและแน่นอนว่าเหมาะกับการถ่ายรูปด้วยจ้าาา
สิ่งที่ทุกชั้นมีเหมือนกันคือโต๊ะและเก้าอี้หลากหลายรูปแบบให้เลือกนั่งตามความพอใจ จะนั่งริมหน้าต่าง นั่งระหว่างชั้นหนังสือ นั่งโต๊ะเล็ก นั่งโต๊ะยาว หรือนั่งโซฟาก็ได้ โดยเกือบทุกโต๊ะมาพร้อมโคมไฟและปลั๊กไฟ นอกจากนี้ยังมีคอมพิวเตอร์ประจำการอยู่ตามมุมต่างๆ ซึ่งดูแล้วอินเทอร์เน็ตที่นี่น่าจะแรงอยู่พอสมควร เพราะเราเห็นเด็กไปนั่งเล่นเกมเพียบ!
ชั้น 1 เป็นพื้นที่ของหนังสือพิมพ์, นิตยสาร, หนังสือทั่วไปบางหมวด เช่น ท่องเที่ยว, หนังสือสำหรับผู้พิการ ทั้งหนังสือเสียงและหนังสืออักษรเบรลล์ นอกจากนี้ยังมีห้องฉายภาพยนตร์และร้านกาแฟด้วย เอ้อ และมีเคาท์เตอร์ Self-checkout ตั้งอยู่ตามมุมต่างๆ สามารถยืม-คืน-ต่ออายุได้ด้วยตัวเองเลย
ชั้น M หรือชั้นลอย คือสรวงสวรรค์ของนักอ่านรุ่นเยาว์ มีตั้งแต่นิทานสำหรับช่วงอายุต่างๆ วรรณกรรมเยาวชนทั้งของไทยและฉบับแปล ไปจนถึงของเล่นเสริมทักษะ โบนัสพอยท์คือชั้นนี้มีที่นั่งอ่านแบบรังผึ้งให้หนอนหนังสือตัวน้อย แถมยังมีบีนแบ็กให้ไปนั่งเล่นนอนเล่นด้วย
ชั้น 2 คือที่วางหนังสือทั่วไป ตั้งแต่ fiction (ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่าหนังสือหมวดอื่นๆ) จำพวกวรรณกรรมรางวัลซีไรท์ นิยายไทย นิยายแปล ไปจนถึง non-fiction ด้านประวัติศาสตร์ การเงิน การพัฒนาตนเอง การตกแต่งบ้าน ฯลฯ โดยมีหนังสือภาษาอังกฤษอยู่ในมุมหนึ่ง แต่ก็ไม่มากนัก
จุดเด่นของชั้น 3 คือ Study Room ที่จุได้ราว 8-10 คน เหมาะสำหรับการจับกลุ่มนั่งอ่านหนังสือหรือทำงานกับเพื่อน, ห้องนิทรรศการ, ห้องจดหมายเหตุ ส่วนหนังสือนั้นเน้นหนักไปที่หนังสือพระราชนิพนธ์หรือหนังสือที่เกี่ยวกับพระบรมวงศานุวงศ์ นอกเหนือจากนั้นก็มีหนังสืออ้างอิง พจนานุกรม แผนที่ ฯลฯ
*เปิดการ์ดคหสต.* เราเฉยๆ กับคอลเล็กชั่นหนังสือที่หอสมุด นอกจากหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเก่าๆ (ที่ทำให้ nostalgic) นวนิยายไทยระดับขึ้นหิ้ง หนังสือภาพ และหนังสือภาษาอังกฤษปกแข็งบางเล่ม เราก็ไม่ได้รู้สึกว้าวกับอะไรมากนัก อีกทั้งหนังสือก็ไม่ค่อยอัพเดตด้วย สมมติถ้าต้องการหาข้อมูลหรือหาหนังสือบางเล่มที่เฉพาะเจาะจง เราคงไปห้องสมุดอื่นที่มีหนังสือหลากหลายและครอบคลุมกว่า แต่บอกเลยว่าให้คะแนน A++++++++++++สำหรับสถานที่เลย ตอบโจทย์เรื่องสเปซสาธารณะที่ใครๆ ก็สามารถเข้าไปใช้ได้ เหมาะสำหรับนั่งอ่านหนังสือ ติวข้อสอบ ปั่นงานไฟลุกซ์ นัดเดต เล่นเน็ต ถ่ายรูปเซลฟี่ แอบงีบ ฯลฯ
เอาล่ะ ว่าแล้วเราก็มารอดูกันดีกว่าว่าเมื่อหอสมุดเมืองกรุงเทพมหานครเปิดให้บริการจริงในวันที่ 28 เมษายนนี้ (แนะนำให้ไปช่วงบ่าย เพราะช่วงเช้ามีพิธีการ หรือไม่ก็รอไปวันที่ 29 แทน) จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่ จะมีหนังสือมาเพิ่มไหม มีกฎอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ระหว่างรอก็อ่านบทความนี้ไปก่อนพลางๆ จะได้มีที่สิงสถิตเนอะ 🙂
*อยู่ตรงสี่แยกคอกวัว แนะนำให้ไปรถสาธารณะจะสะดวกที่สุด ถ้าขับรถไปต้องไปจอดที่กองสลากฯ (เก่า) หรือวัดชนะสงครามแล้วค่อยเดินมา
*เปิดทำการ อังคาร-เสาร์ 08.00-21.00 น. และอาทิตย์ 09.00-20.00 น. ปิดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
*พกบัตรประชาชนไปด้วยนะ ต้องใช้ชิปการ์ดเพื่อผ่านประตูจ้า
*เริ่มสมัครสมาชิกได้ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ค่าธรรมเนียมสมาชิก บุคคลอายุมากกว่า 15 ปี 50 บาทต่อปี บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี 25 บาทต่อปี