อันที่จริงเราตื่นเต้นกับ Beer Yoga ตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมแล้ว แต่หลังจากลังเลว่าจะทำได้ไหม ทำได้หรือเปล่า บวกกับรอเพื่อนตัดสินใจว่าจะไปด้วยไหม สุดท้ายก็เลยอดไปเพราะบัตร sold out…
ถ้ายังจำได้ The MATTER เคยเล่าเรื่อง Beer Yoga ให้ฟังแล้วที่โพสต์นี้ กิจกรรมสุดคูลนี้เกิดจากไอเดียของครูโยคะสาว Emily และ Jhulia ซึ่งโด่งดังสุดๆ ในหมู่ฮิปสเตอร์ชาวเบอร์ลิน ก่อนจะเริ่มสัญจรไปยังฝั่งอเมริกา ออสเตรเลีย และมาถึงบ้านเราในที่สุด
หลังจากครั้งก่อนนกไปแรงมาก พอได้ข่าวว่าปลายเดือนเมษายน Beer Yoga จะกลับมาเป็นครั้งที่สองในชื่อ Brew Yoga เราจึงกดซื้อบัตรโดยไม่ลังเลและไม่ถามไถ่ใครอีก โดยคราวนี้พิเศษกว่าครั้งก่อนตรงที่ทีมงานเลือกจัดกิจกรรมที่ Wishbeer Home Bar ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายของเบียร์อยู่แล้วเป็นทุนเดิม เรียกได้ว่าแค่เห็นชื่อร้านก็เปรี้ยวปากแล้ว ฮ่าๆ
ตัดภาพไปที่วันงาน พอไปถึงเราก็ลงทะเบียน รับคูปองแลกเบียร์และอาหาร จากนั้นก็ไปเลือกเบียร์ที่ชอบ เราเลือกเบียร์กลิ่นซากุระ (ซึ่งชิมแล้วไม่รู้สึกถึงกลิ่นซากุระแม้แต่น้อย…สรุปซากุระมีกลิ่นมั้ย?) หยิบเสื่อโยคะมาปู นั่งรอไม่นานคลาสก็เริ่มต้นขึ้น
กติกาง่ายๆ ที่คุณครูโยคะบอกกับเราคือ เมื่อไหร่ที่ได้ยินคำว่า ‘นมัสเต’ ให้ยกเบียร์ขึ้นจิบ ซึ่งฟังแล้วรู้สึกใจชื้นมาก แค่จิบเบียร์ฉันทำได้อยู่แล้ว ส่วนท่าโยคะนั้นก็แค่ทำตามไกด์ของครูไปเรื่อยๆ ส่วนตัวแม้จะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่เราก็เคยเล่นโยคะมาบ้าง จึงคุ้นเคยกับท่าเบสิคอย่าง downward dog, plank หรือ warrior post แต่ถ้าใครไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็ดูครูและคนข้างๆ แล้วค่อยทำตามได้ เพราะคลาสดำเนินไปอย่างช้าๆ ยังไงก็ตามทันแน่นอน ท่าไหนทำไม่ได้จริงๆ ก็นั่งซดเบียร์รอไปขำๆ
มีบางท่าที่อาจจะยากบ้าง เช่น ท่า plank ที่ต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นจากพื้นเพื่อจิบเบียร์ คนกล้ามเนื้อแขนไม่แข็งแรงอย่างเราแทบจะร้องไห้ และท่า v plank ที่ต้องเล่นกับพาร์ตเนอร์โดยหันเท้าชนกันก็ทำเอาเกร็งจนสั่นไปทั้งตัวเลยทีเดียว
เวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก เผลอแป๊ปเดียวเบียร์ก็เกือบหมดกระป๋องแล้วโดยที่ยังไม่ทันเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ สำหรับเรารู้สึกเหมือนแค่ได้วอร์มร่างกายด้วยการยืดตัวนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง หารู้ไม่ว่าความเหนื่อยที่แท้จริงมันหลังจากนี้ต่างหาก…
เพราะถัดจากโยคะเบียร์นั้นเป็นคิวของการเต้นซุมบ้า! จากที่คุยกับคุณหวานผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดงาน เราจึงได้รู้ว่าทีมงานตั้งใจคัดสรรกิจกรรมสนุกๆ มาให้เล่นควบคู่กับโยคะเบียร์ทุกครั้ง อย่างครั้งก่อนนั้นเป็นการปั่นจักรยาน ส่วนครั้งนี้ก็เป็นการเต้นซุมบ้า ซึ่งสารภาพตรงนี้ว่าเราตายตั้งแต่สองเพลงแรก ถ้าใครเคยเต้นซุมบ้าจะรู้ว่ามันต้องใช้พลังงานเยอะมาก เต้น หมุน กระโดด ส่ายเอว ยั่วๆ บดๆ เอ้ย! ไม่ใช่ละ แต่นั่นแหละ คือมันสนุกมากกกก แต่ก็เหนื่อยมากกกกเช่นเดียวกัน พอเพลงจบเมื่อไหร่เราก็ได้แต่ภาวนาว่าจะไม่มีเพลงต่อไปอีกแล้ว (แต่ก็ผิดหวังไปสามสี่รอบ) พอคุณครูนำคูลดาว์นนี่อยากจะลงนั่งพับเพียบกราบขอบคุณแทบเท้า
โดยรวมแล้วเราสนุกมาก ได้ยืดตัว ได้ดื่มเบียร์แต่หัววัน ได้หัวเราะ ได้เต้น ได้เสียเหงื่อ และที่สำคัญคือได้กิน! คือถึงแม้จะดูเป็นงานออกกำลังกายที่มีคนฟิตๆ มารวมตัวกัน แต่อาหารการกินในงานอุดมสมบูรณ์มากราวกับอยู่ในปาร์ตี้ มีทั้งอาหารกล่องคลีนๆ จาก V_Provide, กราโนล่าเจ้าดัง Diamond Grains, Kenko Okara ขนมกรุบกรอบจากถั่วเหลืองที่อร่อยมาก เรากินคนเดียวเกือบหมดถุง, ปังกระเทียมจาก Tree Meals อันนี้อร่อยจนกินคนเดียวหมดของจริง ฮ่าๆ และขนมอื่นๆ อีกมากมาย
แม้โยคีสายแข็งบางส่วนจะออกมาต่อต้านว่าเบียร์โยคะไม่ใช่โยคะจริงๆ แต่เราเอ็นจอยมากนะ อย่างน้อยๆ มันก็เชื้อเชิญให้คนที่ออกกำลังกายแค่นานๆ ทีอย่างเราลุกขึ้นมายืดแข็งยืดขาสลายพุงเบียร์กับเขาบ้าง มีครั้งหน้าเมื่อไหร่ก็อยากจะชวนเพื่อนไปสนุกกันให้ครบแกงค์ แล้วพอเล่นเบียร์โยคะเสร็จก็ไปหาที่นั่งชิลจิบเบียร์กันต่อเลย!
Photos Courtesy of Brew Yoga Thailand
ปล. แอบเห็นว่าทาง Brew Yoga ประกาศวันเวลารอบต่อไปมาแล้วด้วย ถ้าใครอยากไปสัมผัสประสบการณ์การออกกำลังกายที่โคตรสนุกแบบนี้ก็ลองไปดูที่หน้าอีเวนต์ได้เลยจ้า ไม่ต้องใส่โค้ดใดๆ เพราะเราไม่ได้ส่วนแบ่งจ้า ที่ไปเล่นมาก็ซื้อตั๋วเอง ขอดูตั๋วได้ อิอิ