ท่ามกลางหนังสือนับพันเล่มในฮอลล์ใหญ่ เราจะตามหาหนังสือเพียงเล่มเดียวเท่านั้น!
งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 28 ภายใต้ธีม ‘BOOKDREAMS’ ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา แต่ละสำนักพิมพ์ต่างทยอยออกหนังสือเล่มใหม่กันมากมาย มีหนังสือทุกประเภทรอให้ทุกคนได้จับจองเป็นเจ้าของ แถมยังมีเวทีกลาง พร้อมกิจกรรมต่างๆ รอให้ทุกคนได้มาใช้เวลาร่วมกัน
และหลังจากพวกเราชาว The MATTER ได้แชร์หนังสือเล่มโปรดของตัวเองกันไปคนละ 1 เล่มแบบฉ่ำๆ มีทั้งหนังสือใหม่ หนังสือเก่า หนังสือแปลไทย และหนังสือต่างประเทศปะปนกันไป ทุกคนคงจะได้เห็นคาแร็กเตอร์ของพวกเราแต่ละทีมกันไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย
วันนี้ The MATTER ชวนไปดูคาแร็กเตอร์ของชาวสำนักพิมพ์ ผ่านหนังสือที่พวกเขาจะป้ายยาให้นักอ่านแบบเราบ้าง ก็เลยขอไปตะลุยงานหนังสือครั้งนี้ด้วยตัวเอง ไปเกาะถึงหน้าบูท และจ่อไมค์ถาม 9 สำนักพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันว่า ท่ามกลางหนังสือเป็นร้อยเป็นพันเล่มในฮอลล์ใหญ่ ถ้าเลือกได้แค่เล่มเดียวเท่านั้นให้นักอ่านธรรมดาอย่างเราๆ ที่มีเงื่อนไขว่า มีเวลาว่างไม่มากนัก และงบซื้อหนังสือก็แสนจะมีอยู่อย่างจำกัด แถมยังไม่มีธงในใจว่าอยากอ่านแนวไหนเป็นพิเศษด้วยซ้ำ
เหล่าสำนักพิมพ์จะแนะนำหนังสือเล่มไหน เกี่ยวกับอะไร และต้องพิเศษแค่ไหนถึงเป็นเล่มนี้เท่านั้นให้เรากันนะ?
SALMON (L22)
HISTORY PALETTE ประวัติศาสตร์มีสี เขียนโดย: มนสิชา รุ่งชวาลนนท์
แนะนำโดย: Editor-in-Chief
รวมบทความว่าด้วยเรื่องเล่า อิทธิพล ความหมาย และความทรงจำในประวัติศาสตร์โลกที่สะท้อนผ่าน ‘สี’ ซึ่งจะทำให้เห็นว่า แต่ละสีมีบทบาทอย่างไรในหน้าประวัติศาสตร์ เช่น สีเขียวเป็นสีที่ใช้แทนพิษร้าย เพราะเคยพรากชีวิตผู้คนมาจริงๆ สีน้ำตาลเคยมีราคาแพง เพราะทำจากศพ สีแดงเคยถูกใช้เป็นตัวแทนความรักของกษัตริย์ หรือสีส้มกับผลส้มอะไรเกิดก่อนกัน ซึ่งผู้เขียนก็เคยมีผลงานหนังสือ WORLD WAR TOOLS สงครามโลกในสิ่งของ มาก่อน รวมถึงยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเพจ ‘พื้นที่ให้เล่า’
สาเหตุที่แนะนำเล่มนี้เพราะว่า สีเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว เราคุ้นชินกันดี แต่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าสีก็มีบทบาทอื่นๆ ได้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่องค์ประกอบในงานศิลปะหรือมีเพื่อทำให้สิ่งต่างๆ ดูสวยงาม หนังสือเล่มนี้จะทำให้เรามองสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเปลี่ยนไป และทำให้เห็นว่าเรื่องราวจริงจังอย่างประวัติศาสตร์ในยุคต่างๆ ก็สามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวที่อาจคาดไม่ถึงอย่างสีได้
BIBLIO (K08)
ใครสักคนที่จะรักทั้งเมื่องดงามและยามพังทลาย (Someone Who Will Love You in All Your Damaged Glory) เขียนโดย: Raphael Bob-Waksberg, แปลโดย: ธีปนันท์ เพ็ชร์ศรี
แนะนำโดย: Content Creator
หนังสือแปลรวมเรื่องสั้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้คน ที่ไม่ได้จำกัดแค่คนรัก แต่รวมไปถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เพื่อน สามี-ภรรยา รวมถึงน้องหมาและคนเลี้ยง คือรวบรวมความสัมพันธ์ไว้ทุกรูปแบบในเล่มนี้ เขียนโดยผู้อยู่เบื้องหลังซีรีส์เรื่อง BoJack Horseman ใน Netflix ซึ่งหากใครเคยดูก็คงพอจะคุ้นเคยกับสำเนียง น้ำเสียงของความจิกกัด หรือการเสียดสีสังคมอยู่บ้าง ซึ่งเรื่องนี้โทนจะเบาลงมากกว่านั้น
เนื่องจากเป็นเรื่องสั้น เราจึงสามารถเลือกอ่านเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ โดยไม่จำเป็นต้องอ่านแบบเรียงเรื่องกันในกรณีที่มีเวลาจำกัด อีกทั้งเล่มนี้ยังทำให้เห็นว่า ทุกๆ วันนี้คนเราทุกคนล้วนอยู่ในความสัมพันธ์ใดความสัมพันธ์หนึ่ง อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้าง อาจจะดูเหินห่าง หรืออาจจะทำตัวเข้มแข็ง แต่แท้จริงแล้วในใจลึกๆ เราเองก็อาจโหยหาความรักและอยากมีใครสักคนมาอยู่เคียงข้าง โดยหนังสือเล่มนี้ทิ้งความรู้สึกอบอุ่นเล็กๆ ในใจไว้ตอนท้าย เพื่อบอกว่าแม้โลกทุกวันนี้จะโหดร้าย แต่ก็อาจจะยังมีสิ่งดีๆ อื่นๆ ให้เราได้มองเห็นอยู่บ้าง
MATICHON (J47)
สยามโมเดิร์นเกิร์ล เขียนโดย: ภาวิณี บุนนาค
แนะนำโดย: Editor
ว่าด้วยกลุ่มผู้หญิงในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4-5 ช่วงที่สยามกำลังเข้าสู่ความศิวิไลซ์ โลกตะวันตกเข้ามาในอาณาเขตของสยามมากขึ้น และมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งในช่วงนั้นที่มีโอกาสออกไปในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งแต่เติมผู้หญิงไทยจะต้องอยู่บ้านเพื่อดูแลครอบครัว แต่หนังสือเล่มนี้พาเราไปดูผู้หญิงชนชั้นกลางถึงชนชั้นสูงที่ได้ไปศึกษาต่อต่างประเทศ และได้เข้าไปในโรงเรียนนางพยาบาล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความโมเดิร์นของผู้หญิงในยุคนั้น
หนังสือเล่มนี้ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับคุณภาพของเนื้อหา เหมาะแก่สำหรับคนที่มีงบจำกัด และหากมาถึงมติชนแล้ว เราก็อยากแนะนำหนังสือการเมือง ซึ่งการเมืองที่กำลังมาแรงในตอนนี้ก็คือ การเมืองเรื่องเพศผ่านชีวิตของผู้หญิงไทย ทั้งยังมีพื้นที่ให้ผู้อ่านได้ตีความจากการดีไซน์ภาพปกให้ผู้หญิงเป็นตุ๊กตากระดาษ หลายคนอาจมองว่าผู้หญิงในยุครัชกาลที่ 4-5 เป็นเพียงสิ่งของให้ผู้ชายชักจูง แต่ในขณะเดียวกันตุ๊กตากระดาษ ก็สื่อให้เห็นถึงการเปลี่ยนบทบาทของผู้หญิงได้ด้วยเช่นกัน
BOOKSCAPE (H08)
ทุนนิยมสอดแนม (The Age of Surveillance Capitalism: The Fight for a Human Future at the New Frontier of Power) เขียนโดย: Shoshana Zuboff, แปลโดย: ฐณฐ จินดานนท์
แนะนำโดย: Editor
หนังสือเล่มนี้จะทำให้เราเข้าใจว่า แม้ตอนนี้เราอาจไม่ได้อยู่ในยุคของการสอดแนมอย่างโจ่งแจ้งอย่างที่เข้าใจอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจดูพฤติกรรม หรือการมาคอยสอดส่องว่าเราทำอะไรที่ไหน แต่ว่าทุนนิยมสอดแนม คือการรีดเอาข้อมูลของเราไปโดยที่เราไม่รู้ตัว เพื่อจะเอาไปใช้เป็นกำไร เช่น การเก็บข้อมูลอย่างที่เราไม่รู้ตัวเลยของบริษัทไมโครซอฟท์ กูเกิล หรือเฟซบุ๊ก เราอาจจะรู้สึกแปลกใจว่าทำไมเมื่อพูดคุยเรื่องใดกับเพื่อน เราก็จะเห็นโฆษณาเหล่านั้นในฟีดทันที และนั่นเองคือผลลัพธ์ของทุนนิยมสอดแนม
นี่เป็นหนังสือแห่งยุคสมัย และเป็นหนังสือที่จะทำให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับอนาคตในวันข้างหน้า เพื่อช่วงชิงสิทธิ์ในการปกป้องข้อมูลความเป็นส่วนตัวของเรากลับมา และรู้เท่าทันบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ
P.S. (K15)
Fallen เซรามิกแตกสลายและดอกไม้อื่นๆ เขียนโดย: ภมุ ภามุ
แนะนำโดย: Editorial Staff
บทกวีไร้ฉันทลักษณ์ (คือไม่ได้คล้องจองกัน) สามารถอ่านได้ง่าย โดยพูดถึงสารานุกรมดอกไม้จำนวน 16 ชนิด ผ่านการเล่าถึงสรรพคุณ วิธีการดูแล ข้อควรระวัง และความหมายในภาษาดอกไม้ แม้จะบอกว่าเป็นสารานุกรมดอกไม้ ทว่าก็ไม่ใช่ดอกไม้ที่มีอยู่จริง เป็นเพียงดอกไม้ที่สมมติขึ้นมาใหม่แทนความรู้สึกต่างๆ ของคนเรา เช่น ดอกเฟื่องฝันที่มาจากดอกเฟื่องฟ้า ดอกรู้วันโรยที่มาจากดอกบานไม่รู้โรย หรือดอกต้านตะวันที่มาจากดอกทานตะวัน
ดอกไม้ทั้งหมด 16 ชนิดในเล่มนี้ ไม่จำเป็นต้องอ่านเพียงรวดเดียวจบ สามารถค่อยๆ อ่านไปทีละชนิดได้ โดยในแต่ละชนิดจะถูกเล่าไว้ประมาณ 4-5 หน้ากระดาษหนังสือ และท้ายที่สุดหนังสือเล่มนี้จะสะท้อนกลับมาให้เราได้รู้ว่า นี่ไม่ใช่หนังสือสารานุกรมที่บอกวิธีการดูแลดอกไม้จริงๆ แต่เป็นวิธีการดูแลความรู้สึกของตัวเราเองมากกว่า
AMARIN HOW-TO (B46)
ใช้คลื่นพลังบวกดึงดูดพลังสุข (Good Vibes Good Life) เขียนโดย: Vex King, แปลโดย: กิษรา รัตนาภิรัต คุโด
แนะนำโดย: Naiin Team
กฎแรงดึงดูดที่สามารถทำให้เรามีแรงจูงใจ เช่น เมื่อเรามีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ หรือมีปัญหาใดๆ หนังสือจะบอกเราว่าปัญหาต่างๆ มีทางออก เพียงแค่เราคิดบวกเข้าไว้ อะไรที่มีความสุขก็ทำต่อไป ถ้าไม่ได้เดือดร้อนใคร แค่สุขใจตัวเองก็ทำสิ่งต่างๆ ได้แล้ว โดยสามารถอ่านคู่กับหนังสือชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์ ได้ด้วย
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วทำให้เรามี Positive Thinking กับการใช้ชีวิต เป็นหนังสือไกด์บุ๊กที่ทำให้เรานำไปปรับใช้ในชีวิตด้านต่างๆ เพราะช่วยเสริมให้เรามีความสุขต่อตัวเองและผู้อื่น ทั้งยังช่วยทำให้เราเปลี่ยนความคิดมามองโลกในด้านดีมากยิ่งขึ้นด้วย
GYPZY (F16)
เปิดตำนานปีศาจไอยคุปต์ (Egyptian Demonology) เขียนโดย: ณัฐพล เดชขจร
แนะนำโดย: Gypzy Team
ชวนย้อนดูเรื่องภูตผีปีศาจของอียิปต์ ที่แต่เดิมเรามักรู้จักกันดีแค่ในเรื่องของเทพเจ้าจากตำราประวัติศาสตร์ที่สอนเรา แต่เรากลับไม่เคยรู้เลยว่าอียิปต์มีปีศาจหรือภูตผีแบบใดอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นปีศาจพยาธิ หรืออะไรคือพรายน้ำท่ามกลางพื้นที่แห้งแล้งในอียิปต์ และผู้เขียนก็ยังเป็นแฟนคลับอียิปต์ตัวยง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลในเล่มนี้มีความน่าเชื่อถือ
หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่แนะนำสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เพราะราคาไม่ได้สูงมากนัก เป็นเล่มที่อ่านแล้วเนื้อหาไม่หนักมากจนเกินไป และยังเป็นการเปิดตำนานพาเราไปรู้จักภูตผีปีศาจของอียิปต์ ทำให้รู้สึกสนุกเมื่อได้อ่าน สามารถคิดตามและจินตนาการต่อได้ง่าย
LILY HOUSE (M32)
งาน x คู่หู : การ์ตูนรวมเรื่องสั้นแนวยูริ เขียนและวาดโดย: Nomiya Rion, Pyaa และ Inui Ayu
แนะนำโดย: Executive Director
การ์ตูนยูริของนักวาดญี่ปุ่นทั้งหมด 3 คน เป็นการรวมเรื่องสั้นทั้งหมด 3 เรื่องเกี่ยวกับวัยทำงาน ที่จะพาเราไปดูชีวิตประจำวันของคนในออฟฟิศ ด้วยความ Slice of Life ที่เราสามารถเจอหรืออาจมีประสบการณ์ร่วม เช่น หัวหน้าจู้จี้ ลูกค้าขี้บ่น
เป็นหนึ่งในหนังสือออกใหม่สำหรับงานนี้ เหมาะแก่คนที่มีงบจำกัด และด้วยความที่อ่านง่าย อ่านสบาย ใครก็ตามที่อยากลองเริ่มอ่านงานยูริ สามารถลองชิมลางจากเรื่องนี้ก่อนได้ เพราะมีความสนุก สั้นๆ และอ่านจบได้โดยไม่ต้องใช้เวลามาก
HERMIT (Q14)
ถูกใจนายติดอ่างที่รัก เล่ม 1 เขียนและวาดโดย: แผ่นทองสีดำ
แนะนำโดย: Editorial Staff
เรื่องราวเกี่ยวกับหนุ่มออฟฟิศ ซึ่งฝ่ายหนึ่งมีบุคลิกค่อนข้างไม่ตรงกับสแตนดาร์ดของสังคม เพราะติดอ่าง พูดจาตะกุกตะกัก เก็บเนื้อเก็บตัว และไม่ค่อยกล้าพูดกล้าคุยกับผู้อื่น จนได้มาเจอกับอีกฝ่ายหนึ่งที่มีบุคลิกสุดโต่ง ดังนั้นเรื่องนี้จึงพาเราไปเห็นคนสองคนที่มีบุคลิกคนละขั้วที่ได้มารู้จักกันผ่านแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง
แรกเริ่มสำนักพิมพ์ Hermit ทำนิยายวายมาก่อนจะทำงานคอมมิค ซึ่งหนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนึ่งในงานคอมมิคไทย ซึ่งแม้ตอนนี้งานคอมมิคฝั่งเกาหลีจะบุกตลาดมาในทุกๆ เว็บ และเรื่องราวก็ทำไปสุด ดังนั้นเราอยากให้พื้นที่แก่นิยายวายไทยและคอมมิคไทย ให้โอกาสแก่สายผลิตคนไทย เพื่อทำให้ทุกคนได้เห็นว่า เราก็มีดีและยังไม่ถูกมองเห็นอยู่
แน่นอนว่ายังมีหนังสืออีกมากมายหลายพันเล่มจากสำนักพิมพ์อื่นๆ รอให้ทุกคนได้รู้จักและจับจองเป็นเจ้าของอยู่ที่งานในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ใครมีเวลาว่าง เราขอชวนให้แวะไปเดินเล่นที่งานกันได้นะ บางครั้งเราอาจจะได้รู้จักหนังสือเล่มอื่นๆ ได้เจอหนังสือเล่มในฝันที่ตามหา ทั้งยังได้ลดราคา พร้อมกับได้ของแถมกลับบ้านไปอีกด้วย