เป็นกันไหม ชอบเปิดเพลงเศร้าเวลาโดนเท ไม่ใช่แค่เราที่สงสัย งานวิจัยหลายชิ้น ก็พยายามอธิบายอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมคนเรามักฟังเพลงเศร้าเวลาอกหัก ไม่ว่ากับความรักหรือกับเรื่องอื่นๆ ในชีวิต
แม้จะไม่ค่อยโอเค แต่ในทางจิตวิทยาบอกว่า ทางหนึ่งที่เราจะรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นคือ นึกถึงคนที่แย่กว่าเรา ดังนั้น ทอม ยอร์ก พาราด็อกซ์ โพลีแคท ผ่านมาเยอะ ผ่านมาหนักกว่าเรา ถึงได้แต่งเพลงเศร้าเคล้าน้ำตาแบบนั้นได้ ฟังแล้วโอเคขึ้นมั้ย ถ้ายัง เค้าก็บอกอีกว่า คนเราเนี่ยชอบฟังเพลงที่สะท้อนชีวิตในช่วงเวลานั้นๆ กันอยู่แล้ว ตอนรักกันก็ฟังเพลงกริบกริ้วหัวใจ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะฟังเพลงเศร้าเพื่อตอกย้ำให้มันช้ำลงไปอีกในช่วงเวลาที่อกหัก
นักวิทยาศาสตร์บางคนก็บอกว่า เหล่าแซดซองทั้งหลายแหล่ มันเชื่อมโยงกับฮอร์โมนโปรแลกติน สารเคมีที่ช่วยลดความโศกเศร้าได้ โคตรมหัศจรรย์ และต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีสแกนสมอง ที่ทำให้เรารู้ว่า เวลาฟังเพลงเนี่ย สมองของเราจะหลั่งสารโดปามีน สารสื่อประสาทแบบเดียวกับตอนที่เรากินอะไรอร่อยๆ หรือมีเซ็กซ์นั่นแหละ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกดีแม้จะฟังเพลงเศร้าอยู่ก็ตามอะเนอะ
เอาเป็นว่าจะเพลงอะไรก็ฟังไปเถอะค่ะซิส แต่ถ้าคีสไม่ออก บอก The MATTER จะพาไปดูว่าคนอื่นๆ เค้าฟังเพลงอะไรเพื่อเยียวยาหัวใจ พร้อมสตอรี่เศร้าๆ เคล้าน้ำตา ที่เชื่อว่าหลายคนต้องอินหลอแน่นวล
1. ชาคร ไชยปรีชา
อาชีพ : ผู้กำกับและนักวิจารณ์ภาพยนตร์
เพลง พบกันใหม่ ของ Polycat นี่แหละ ปกติจะเป็นคนมี safe zone กับเรื่องความสัมพันธ์อยู่พอสมควร แต่ถ้าถึงจุดที่มันจำเป็นต้องลงไปอยู่กับอารมณ์ไหนแล้วก็จะดันไปให้สุด เวลาอกหักก็เช่นกัน เลยเลือกเพลงนี้เพราะมันเศร้ากับเราอย่างบอกไม่ถูก อาจจะด้วยดนตรีสไตล์ 80s ด้วยมั้ง ขนาดช่วงที่ไม่อกหักฟังแล้วยังรู้สึกอกหักเลย แดเมจแรงมากกับเรา เหมาะกับการฟังเพื่อทำร้ายตัวเองตอนขับรถกลางคืนแล้วฝนพรำๆ มาก ไปให้สุด เดี๋ยวตื่นมาก็ดีขึ้น
อีกเพลงที่ใหม่หน่อยคือตอนนี้ชอบเพลง ไม่เดียงสา ของ Big Ass เนื้อเพลงมันมีวุฒิภาวะมากๆ ฟังครั้งแรกแล้วร้องไห้เฉย 555 ที่เศร้ากับเพลงนี้เพราะรู้สึกว่าในโลกความจริง มันมีน้อยคนมากที่จะมี mindset ได้แบบเพลงนี้มั้ง เพราะเราไม่เห็นด้วยเลยกับกระบวนการตามหาคนผิดหลังจบความสัมพันธ์น่ะ พอเพลงนี้บอกว่าการจบความสัมพันธ์มัน “ไม่ใช่ความผิดของใคร” นี่ปลื้มปิติมาก เลยรู้สึกเศร้าหนักไปอีกที่คิดว่าเราจะไม่เจอแบบนี้ได้ง่ายๆ ในชีวิตจริง คอนเซ็ปต์มันอุดมคติมากๆ
2. Plariex -พัชรกันย์ พิศาลสุพงศ์
อาชีพ : นักเขียนการ์ตูน
ตอน ม.ต้น อกหักครั้งแรก ฟังเพลงฤดูร้อน Paradox แล้วอินมาก ยืนมองท้องฟ้าไม่เป็นเช่นเคย ฤดูร้อนไม่มีเทออออ นั่งเปิดคอม ใส่หูฟัง ร้องไห้เล่น mv อยู่ในบ้าน
3. นพรัตน์ อุณาภาค
อาชีพ : ร้องนำ The Clock / แล้วแต่กะเพราแท้
ย้อนกลับไป สองปีกว่าแล้ว เกือบลืมไปแล้วว่าฉันเคยรักเธอมาก่อน ต้องเพลง Lost Star ( Ost. Begin Again ) คือบรรยากาศของเพลงนี้มันมีความ ‘โคตรเหงา’ อยู่ในทุกอนูของเพลงอยู่แล้ว อาจจะไม่ได้เศร้าอะไรมากมาย แต่คงเพราะหนังที่มันโดนใจ หนังเข้าโรงตอนอกหักเสียหลักหนักที่สุดในชีวิตด้วยแหละ เนื้อหาในหนังหลายส่วนใกล้เคียงกับชีวิตเราด้วย ยังเสือกไปดูหนังในโรงคนเดียว บอกเลยว่าจุกและน้ำตาไหล ไม่ว่าจะฟังกี่ครั้ง จนปัจจุบันก็ยังเป็นเพลงที่ ‘เหงา’ จับใจตลอดเวลา
อีกเพลงก็ All I Want – KODALINE 2 ปีกว่าๆ ช่วงที่เพลงนี้กำลังดังสุด ๆ เพลงแม่งโคตรอภิมหาโศก ตรงกับช่วงที่แหลกสลายพังทลายดอกฝ้ายบาน คือยอมรับเลยว่า ‘บ่อน้ำตาแตก’ จะมีประโยคบาดหัวใจ “All I want is nothing more To hear you knocking at my door ‘Cause if I could see your face once more I could die a happy man I’m sure” โห! คือโคตรหลอนเสียงเคาะประตูและเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ คิดอยู่ตลอดว่าจะเป็นเค้าที่มาเคาะห้อง เราเปิดประตูมากอดกันร้องไห้คืนดี หรือสะดุ้งตื่นทั้งคืนเพื่อมากดหน้าจอโทรศัพท์ว่าจะมีเค้าโทรหาเรารึเปล่า แต่ก็… ไม่มีเลย ทุกข์ทรมานน้ำหนักลดไป 10 โล ทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นคนไร้วิญญาณ เตร็ดเตร่ไปนอนค้างห้องคนอื่นอยู่ราว 2 เดือน ไม่กล้ากลับห้องตัวเอง กลัวเห็นภาพเก่าๆ ความทรงจำเดิมๆ แล้วทำใจไม่ได้
4. ปิยฉัตร ห้วยหงษ์ทอง
อาชีพ : secretary to managing director
Puff, The Magic Dragon เพราะชอบเพลงนี้อยู่แล้ว มันน่ารัก แต่ก็รู้สึกเศร้าอยู่ในที ปกติชอบฟังเวลาเหงาๆ เพลินๆ เรื่อยๆ ดี
5. เทียบตะวัน ลิ้มจิตรกร
อาชีพ : ครีเอทีฟ
เพลง True Love Waits ของ Radiohead เวลาฟังมันเหมือนเราฝากเอาความเศร้าไปให้ Thom Yorke ร้องแทน จะฟังตอนไหน ที่ไหน ก็รับประกันความจม
6. รักษ์บุญ จงสมชัย
อาชีพ : Airline Staff
เพลง Blue skies ของ Noah and the whale คุณสมบัติของเพลงนี้ยิ่งกว่าผงพิเศษตราร่มชูชีพ สมานแผลใจ ฆ่าเชื้อได้ชะงัด โดนผู้ชายเททีไร ก็ต้องมานั่งฟังเพลงนี้ ฟังทั้งวัน เปิดซ้ำไปซ้ำมา ปล่อยให้น้ำตาไหล ฟูมฟาย เอาความเศร้าออกมาให้หมด ถ้าจะให้ออกฤทธิ์ให้เต็มที่ ต้องฟังตอนอาบน้ำ เปิดฝักบัว แล้วนั่ง หรือ นอนราบลงไปกับพื้นห้องน้ำ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบหน้าพร้อมกับน้ำประปา ร้องไห้ออกมาดังๆ ฟังวนไปซัก 10 รอบ
ระหว่างนั้นก็นึกถึงช่วงเวลาที่เคยมีร่วมกัน นึกถึงบทสนทนา นึกถึงเพลงที่เคยฟังด้วยกัน นึกถึงสถานที่ที่เคยไปด้วยกัน นึกถึงกลิ่น นึกถึงมือสากๆ ที่เคยจับตอนข้ามถนน ตอนนี้จะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมคงยาก เพราะเขาหมดใจ เขาไม่ตอบข้อความ เขาเทเราแล้ว โอ้ยยยย เจ็บสะท้านไปทั้งร่าง รอบสุดท้าย พอถึงท่อน ’cause it’s time to leave those feelings behind เท่านั้นแหละ ความรู้สึกอยากหายดีก็เริ่มแทรกเข้ามา ความสัมพันธ์จบ แต่ยังไม่ถึงจุดจบของโลก ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป เท่านั้นแหละ ก็ลุกขึ้นปิดฝักบัว เช็ดตัว เช็ดผมให้แห้ง เข้านอน พรุ่งนี้ ไว้ตื่นมา อาบน้ำลงคอนซีลเลอร์ปิดตาบวมๆ แต่งหน้า แต่งตัวสวยๆ ออกไปข้างนอก ซื้อไอติมกิน ความทุกข์ก็พอได้บรรเทาลงบ้าง
7. ชณิฌา บุญภาณุวิจิตร
อาชีพ : นักแสดง
ปกติฟังเพลง ถ้าเธอคิดจะลืมเขา ฟังเพลงนี้ตอนวิ่งออกกำลังกาย แล้วมันจะเเค้นๆ ปนสะใจ แบบไม่เศร้า
8. คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
อาชีพ : อาจารย์พิเศษ / นักเขียน / คอลัมนิสต์
Birdy – Terrible Love จริงๆ ต้นฉบับเป็นของ The National จะดิบๆ หน่อย เหมือนคนวัยกลางคน เมาหัวทิ่มโถส้วมแล้วครวญเพลง ส่วนของ Birdy จะ emotional กว่า เหมือนเด็กสาวแรกรุ่นผู้สะเทือนใจต่อโลก เราให้ฉายาว่า Birdy ว่าสาวน้อยผู้เอาเหี้ยอะไรมาร้องก็เศร้าฉิบหายหมด เดือนกรกฎาคมก็ถ่อไปฮ่องกงเพื่อดูน้อง ไปเพื่อฟังเพลงนี้สดๆ ก็ดีมาก อึ้งทั้งฮอลล์ จับใจคนดู เป็น magic moment
ส่วนเพลงนี้ชอบเนื้อเพลง มีการอุปมา หรือความคลุมเครือบางอย่าง ให้คนฟังตีความ (ต้องยกเครดิตให้ national) เช่น It’s a terrible love And I’m walking with spiders คนก็ตีความกันไปว่า spiders คืออะไร ความรักคือแมงมุมขยุ้มหัวใจเหรอ น่ากลัวจัง หรือความรักคือมนตร์ที่ต้องสาปน่าหยะแหยง
หรือวรรคที่ร้องซ้ำๆ It takes an ocean not to break เราก็ไม่เก็ตหรอก มหาสมุทรไรของมึง แฟนๆ ก็ถกกัน ตีความว่าแดกเหล้าบ้าง ร้องไห้บ้าง แต่คำว่า ocean แม่งยิ่งใหญ่ ไอ้สัส terrible love จริงๆ เหี้ยเอ๊ย #ชีวิตก็เท่านี้