เคยไหมเจอเพื่อนทักว่าอ้วน ก็ไม่เท่าไหร่ อะ ยอมรับก็ได้ว่ามีหวั่นไหวบ้าง แต่ไม่เท่าโรครุมเร้าจนทำให้ต้องหันมาจริงจังกับการลดน้ำหนัก
ศาสตราจารย์ ดร. ทพญ. สิริพร ฉัตรทิพากร และทีม ได้วิจัยเรื่องพยาธิสภาพในสมองของการขาดฮอร์โมนเพศชายและอ้วนลงพุง และพบว่า การเกิดภาวะอ้วนลงพุงนั้นมีผลเสียต่อสมองและระบบประสาทอัตโนมัติ โดยทำให้การเรียนรู้และความจำเสียไป! อะไรกัน แค่โรคอื่นๆ รุมเร้ายังไม่พอ ยังจะมาเสี่ยงเรื่องสมงสมองอีกเหรอเนี่ย
The MATTER เลยเอา 8 วิธีลดน้ำหนักจาก 8 คน ที่ใช้วิธีเหล่านี้แล้วได้ผลมาฝาก มีทั้งสูตรที่ฟังดูง่ายๆ ผ่อนคลายๆ ไปจนวิธีที่เข้มข้นมากเว่อร์ แนะนำว่าเลือกใช้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองจะดีกว่านะ สู้ค่ะ!
1. ธัญญาพร พิมพ์งาม
อาชีพ : นักศึกษา
“เอาจริงๆ ออกกำลังกายเป็นแค่ส่วนหนึ่ง คุมอาหารนี่สำคัญมาก เราไม่จำเป็นต้องลดตามพวกไอดอลเกาหลี แบบนั้นโหดไปเพราะไม่กินข้าวเลย เราเน้นอาหารพวกนึ่ง ต้ม เป็นหลัก ผลไม้ก็กินได้นะแต่ไม่ใช่มะม่วงสุก หรือเงาะ กินแอปเปิ้ลเขียว หรือฝรั่ง ดีสุด เพราะอิ่มนาน แล้วก็กินโปรตีนก่อนออกกำลัง 20 นาที เดินลู่แบบใช้ความชันซัก 15-20 นาทีก่อนไปเล่นพวกเวท คาร์ดิโอ พอเวทเสดก็มาเดินลู่หรือปั่นจักรยาน 30-45 นาที จบ ลดได้ชัวร์”
2. ธนวัฒน์ เกียรติกังวานไชย
อาชีพ : Graphic Designer at Ogilvyone Worldwide, Thailand
“ตอนเริ่มลดเราไม่มีความรู้เลย รู้แต่ว่ากินน้อย ออกกำลัง คือวิ่ง แล้วก็กินอาหารน้อยลงครึ่งหนึ่งต่อมื้อ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ดี ทำให้ร่างกายโทรม และเสี่ยงตาย 555 แต่ก็ลดลงมาประมาณ 30 ‘โลนะ จาก 120 เป็น 90 กว่าๆ พอ 90 ก็ลดลงมาเรื่อยๆ เหลือราวๆ 75 ‘โล แต่เป็นการลดแบบไม่มีคุณภาพนะ วิธีเดิม พอเข้ายิม ชั่งน้ำหนักครั้งแรกไขมันราว 30% จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ละ
“ตอนหลังเข้ายิมจ้างเทรนเนอร์ เค้าให้เล่นพวกบอดี้เวท กับเวทเป็นหลัก ช่วงนี้ไม่ได้คุมอาหาร เทรนด์ได้ราว 3 เดือน น้ำหนักลดไปแค่ 5 กิโลฯ เหลือ 69 แต่ไขมันลดลงมาเหลือ 14% ตอนนั้นก็จะทรงผอมๆ กว่าตอนนี้หน่อย พอช่วงหลังก็เริ่มอยากได้หุ่นมีกล้าม ก็เริ่มเล่นเวทและกินไก่กินไข่เยอะๆ ก็มีกล้ามขึ้นมา แต่ฟอร์มหมี เพราะไขมันก็กลับมา ไปที่ราว 23%
“เดือนตุลาปี ’58 มีโอกาสคุยกับพี่ที่เป็น body builder แนะนำเรื่องการกิน เค้าก็แนะนำการทำอาหาร การคำนวณปริมาณสารอาหารที่ควรกินแต่ละวัน นี่ก็ทำตาม ได้ประมาณ 5 เดือน เห็นผล น้ำหนักลดลงจาก 82 เหลือ 75 แต่ไขมันเหลือ 16% คือเป็นการลดแป้ง เพิ่มโปรตีน กินผัก ลดโซเดียม แต่กินให้อร่อย ทำเป็นเมนูต่างๆ จะได้ไม่เบื่อ ช่วงหลังมานี้ ก็เริ่มหัดเล่น power yoga น้ำหนักไม่ลด ไขมันก็ไม่ลดเท่าไหร่ แต่เหมือนว่ารูปแบบการทำงานของกล้ามเนื้อเปลี่ยนไป เพราะตัวบางลง กล้ามเนื้อคมชัดขึ้น มีกล้ามเนื้อหน้าท้องโดยที่ไม่ต้องเล่นท้องเลย แล้วก็มีเป้าหมายใหม่คือ อยากไปเรียนเป็น personal trainer หรือพวกครูโยคะ อยากไปสอบ จะได้รับจ๊อบด้านนี้ด้วย
“สรุปเพิ่มนิดนึง 555 วิธีของเราก็คือ คุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลัง อาหารก็อย่างที่บอก ลดแป้ง เพิ่มโปรตีน กินผัก แต่ก็ไม่ต้องเว่อร์ไข่ต้มไก่ต้ม ต้องกินให้อร่อย ให้รางวัลตัวเองบ้าง ส่วนการออกกำลัง อย่ากลัวมีกล้าม กล้ามเนื้อมันจำเป็นต้องใช้พลังงานมาก ร่างกายจะเพิ่มอัตราการเบิร์น และในที่สุด อย่าเล่นมั่วๆ นอกจากไม่ได้อะไรเลยอาจทำให้บาดเจ็บ ศึกษาก่อนซักนิดนึง”
3. ณรงค์ฤทธิ์ อิทธิพลนาวากุล
อาชีพ : มือกีต้าร์วง hope the flower / เจ้าของร้านกาแฟ ageha cafe
“สำหรับวิธีการลดน้ำหนักของผมนั้นคือการลดการดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาลให้มากที่สุด เพราะส่วนตัวแล้วผมติดน้ำอัดลมมากๆ หลังๆ จะพยายามหันไปกินน้ำอัดลมที่ไม่มีน้ำตาลแทน (ซึ่งช่วยได้ในระดับนึง ถ้าเราสามารถเลิกน้ำตาลและน้ำอัดลมได้เลยจะดีกว่า) แล้วเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งตามงานวิ่งต่างๆ ฝึกซ้อมอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ถามว่าทำไมต้องวิ่งงานแข่ง ก็เพราะว่ามันทำให้เรามีจุดหมายปลายทาง แล้วเราจะมีวินัยต่อการออกกำลังกายมากขึ้น”
4. กัญญ์ชนิศา ธารณ์ธีรัตม์
อาชีพ : ธุรกิจส่วนตัว
“เวลาอ้วนขึ้นจะไม่ค่อยใส่ใจกับน้ำหนัก จะดูที่หุ่นกับไขมันเป็นหลัก เรียกว่าลดความอ้วนจะดีกว่า เราใช้วิธีลดขนมจุกจิกที่ไม่จำเป็น ลดน้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มปั่น เพราะรู้ว่าสาเหตุที่อ้วนขึ้นมาจากของพวกนี้ แต่ไม่อดแป้งกับน้ำตาลนะเพราะมันทำให้โยโย่ง่ายมาก เคยผ่านมาแล้ว น้ำหนักตีกลับมาทีเกือบ 5 ‘โล ช่วงลดจะกินข้าวแค่ 3 มื้อหลักเท่านั้น ไม่จำกัดว่ามื้อเย็นต้องกินน้อยแค่ไหน กินเท่าที่อยากกิน อิ่มก็หยุด เน้นผักผลไม้เยอะๆ ตามสไตล์ทั่วไป ดื่มน้ำเปล่ากับชาเขียวชงสดเยอะๆ ทำให้ร่างกายสดชื่น ลดความอยากกินอาหารขยะได้มาก
“ชอบไปออกกำลังกายตอนดึก เข้าฟิตเนสไปเดินลู่ วิ่งกับเดินเร็วสลับกัน มีปั่นจักรยานบ้าง ฮูลาฮูปบ้าง เต้นด้วย จะได้ไม่เบื่อ ทำวนๆ ไปประมาณ 1 ชั่วโมง ถือเป็นการคาดิโอ หลังคาดิโอเสร็จก็บอดี้เวทง่ายๆ ขากับแขนสลับวันกัน ทำ 4-5 วันต่อสัปดาห์ ส่วนตัวเป็นคนที่เนื้อเผละง่ายมาก อ้วนขึ้นยังไม่เครียดเท่าเนื้อเผละ หุ่นไม่เฟิร์ม จับตรงไหนก็นิ่มไปหมด มีอยู่ช่วงนึงติดบอดี้เวทมาก ทำทุกวันจนกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งไม่ดีเลย กล้ามเนื้อต้องได้พัก 1-2 วัน เราเน้นบอดี้เวทมากกว่าออกกำลังกาย อยากหุ่นฟิตเฟิร์มมากกว่าผอม เพราะเวลาอ้วนขึ้นนมก็ขึ้นด้วย 555
“การลดความอ้วนต้องมีวินัยมากถึงจะสำเร็จได้ หรือไม่ก็มีแรงบันดาลใจดีๆ เราชอบเซฟรูปนางแบบมาตั้งเป็นหน้าจอมือถือ หรือไม่ก็ follow คนหุ่นดีไว้เยอะๆ ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม มันช่วยได้นิดหน่อยนะ กินไก่ทอดอยู่แล้วหยิบมือถือมาเล่น ก็วางไก่เลย อิ่มทันที”
5. วีระพันธ์ ปิยวัฒน์รุ่งโรจน์
อาชีพ : เจ้าของกิจการร้านทอง
“เคล็ดลับการลดน้ำหนักอันดับแรกเลยคือ จิตใจ เราต้องมีจิตใจที่แน่วแน่ก่อนว่าเราอยากลดจริงๆ ลดไปทำไม ต้องหาแรงบันดาลใจและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเลยว่าชั้นจะเป็นแบบนี้ ส่วนตัวอยากลดเพราะเบื่อกับการเป็นคนอ้วน แล้วมันไม่เท่ห์ไม่คูล โดนเปลี่ยนสรรพนามเป็นอีอ้วน เลยตั้งเป้าหมายในใจว่าจะต้องหุ่นดีและสุขภาพดีไปด้วย ชั้นจะต้องได้เห็นร่างที่ดีที่สุดของตัวเอง และจะเป็นคนแก่ที่คูลที่สุขภาพดีดูแลตัวเองได้ไม่พึ่งลูกหลาน
“เริ่มต้นด้วยการหาข้อมูลเรื่องโภชนาการและการออกกำลังกายก่อน ก็ค้นตามกูเกิล หรือตามเฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของเหล่าเซเลบที่มักให้ข้อมูลด้านเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นคุณเมจิ, คุณฟ้าใส fitjunction, คุณกาละแมร์, Mr. Joe Wicks ฯลฯ บุคคลเหล่านี้มักมีวิดีโอให้ความรู้เรื่องอาหารการกินและออกกำลังกายพร้อมกับแรงบันดาลใจต่างอยู่เรื่อยๆ ก็เลยได้ซึมซับแล้วนำมาปรับใช้ การลดน้ำหนัก อย่างที่หลายคนบอก ออกกำลังกาย 30 การกิน 70 นั้นเป็นเรื่องจริง ถ้าออกกำลังกายเยอะแค่ไหนแล้วยังกินพังอยู่ทุกอย่างก็คือจบ และที่ลดน้ำหนักมาได้ ส่วนหลักก็น่าจะมาจากการกินนี่แหละ
“อันดับแรกเราต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อการกินก่อน เราไม่จำเป็นต้องยัดห่ากินเหมือนพรุ่งนี้จะไม่ได้กินอีก กินเท่าที่ร่างกายต้องการ ให้คิดว่าวันหลังชั้นก็กินอีกได้ จะรีบ drag อะไรเยอะแยะ อาหารการกินคือ พยายามลด หวาน มัน เค็ม แค่ลด 3 อย่างนี้ ชีวิตก็ดีแล้วบอกเลย เรื่อง ‘หวาน’ ก็ พวกน้ำตาล เลี่ยงได้คือเลี่ยง นอกจากจะอ้วนแล้ว ยังตายเร็วอีก เวลากินก๋วยเตี๋ยวเดี๋ยวนี้ก็ไม่ใส่น้ำตาลเลย น้ำอัดลม ชาเย็น น้ำหวานพวกนี้ก็ด้วย เรื่อง ‘มัน’ ก็พวกน้ำมัน ทุกวันนี้ก็พยายามเลี่ยงของทอด ทำกับข้าวก็จะไม่ใช้น้ำมัน ใช้กระทะ Korean King ทำกับข้าว แต่ถ้าบางเมนูจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำมันจริงๆ ก็จะใช้พวกน้ำมันธรรมชาติที่ไม่ผ่านกรรมวิธี เช่นน้ำมันคาโนล่าธรรมชาติ, น้ำมันมะพร้าวธรรมชาติสกัดเย็น เป็นเรื่องน่ากลัวที่พวกน้ำมันที่ขายกันเกลื่อนเมืองตอนนี้ล้วนผ่านกรรมวิธีทั้งนั้น บางเจ้าร้ายกว่าที่ติดฉลากสรรพคุณว่าดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันรำข้าวหลายๆ ยี่ห้อ มักเขียนว่าน้ำมันรำข้าว 100% แต่พอพลิกอ่านตัวหนังสือเล็กๆ ด้านหลังดีๆ จะเขียนว่า น้ำมันรำข้าวผ่านกรรมวิธี 100% หืมมมมม ตลกร้ายมากๆ
“ส่วนของ ‘เค็ม’ ก็พวกซอสปรุงรสต่างๆ พยายามลด ใส่นิดนึงให้พอได้กลิ่นได้ แต่ไม่ควรเทลงเยอะๆ เพราะโซเดียมก็เยอะตาม โรคภัยก็จะถามหา ทุกวันนี้เวลาซื้อของที่ซูเปอร์ก็เลยจะต้องพลิกอ่านส่วนผสมของกินแทบทุกอย่างจนตาเหลือก อันนี้ใส่น้ำตาลหรือเปล่า มีสารอะไรแปลกๆ ผสมมั้ย มีโซเดียมเยอะป่าว แต่เราก็มีความสุข เพราะเป็นการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ทุกวันนี้ก็ไม่กินข้าวขาวหันมากินข้าวกล้องแทน เช่น ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี่, ข้าวลืมผัว, ข้าวกล้องทับทิมชุมแพ ฯลฯ เพราะข้าวพวกนี้จะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ทำให้อิ่มได้นานกว่าข้าวขาว ทำให้เรากินได้น้อยลง ถือเป็นการลดแป้งไปในตัว
“ในระหว่างวันก็จะมี snacks ทานเล่น เป็นพวกถั่วอัลมอนด์อบแบบธรรมชาติที่ไม่ใช่อบเกลือเพราะโซเดียมเยอะ พวกนี้ก็จะมีไขมันดี คุณประโยชน์มากมาย วันละ 10-15 เม็ดพอ (บางทีก็แอบเกิน อิอิ) ตอนบ่ายก็มักจิบชาเขียวร้อน ไม่ได้กระแดะ แต่มันดีจริง ช่วยเผลาผลาญได้ ซื้อพวกผงชาเขียวนี้ได้เลยตามซูเปอร์ แล้วก็เอามาชงกับน้ำร้อน ชิลๆ จิบชายามบ่าย ใครทำงานออฟฟิศก็พกผงไปแล้วไปหาน้ำร้อนชงเอาดาบหน้าก็ได้ กินเลย มันดี บางวันก็ชอบปั่นสมูทธี่กินแทนอาหารเย็น ใส่พวกผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้วน้ำตาลไม่เยอะ โยเกิร์ตธรรมชาติน้ำตาลน้อยๆ หรือนมอัลมอนด์ chia seeds flax seeds ผง superfood ต่างๆ เอามาปั่นรวมกัน โรยกราโนล่านิดหน่อยก็โอเคเสร็จสรรพ
“เรื่องการออกกำลังกายนั้น ทำอยู่บ้านทุกอย่าง ไม่ได้ไปจิมอะไรกับเขาเลย เพราะบ้านนอก จิมยังเข้าไม่ถึง ดีหน่อยที่ต้นทุนชีวิตดี ก็เลยมีเงินซื้อลู่วิ่ง จักรยาน ม้านั่งเล่นเวท บาร์เบล ดัมเบล มาเล่นที่บ้านได้ ก็จะฝึกเล่นเองหาข้อมูลเองตามอินเทอร์เน็ต จิกหัวตัวเองแต่เช้ามายกเวทวันละส่วน หลังจากนั้นก็คาร์ดิโอโดยการเดิน-วิ่งช้าสลับเร็วบนลู่ 1 ชั่วโมง หรือปั่นจักรยานช้าสลับเร็ว 45 นาที อาทิตย์ละ 4 วัน ที่เหลือก็พัก แต่จะมีการเล่นโยคะที่บ้านในตอนเย็นด้วย โดยจ้างครูมาสอนที่บ้าน พอดีแม่รู้จักกับครูเลยรวมกลุ่มทีมแม่บ้านจัดคลาสขึ้น อาทิตย์ละ 4 วันเช่นกัน วันละ 1 ชั่วโมง โยคะก็จะดีมาก ต้องบอกว่ามีวันนี้ได้เพราะโยคะ เพราะทำให้กระชับสัดส่วน บอดี้เวทไปในตัว ช่วยในเรื่องการควบคุมลมหายใจ มีสมาธิ มีสมดุลย์ ร่างกายยืดหยุ่นได้ดี ส่งผลให้ออกกำลังกายได้ดีขึ้น แล้วก็วิ่งได้ระยะดีขึ้นด้วย เพราะเราหายใจถูกวิธี
“อาจจะดูเยอะและรู้สึกว่าทำยากไป แต่จริงๆ มันไม่ยาก แค่เราเริ่มแล้วทำติดต่อกันไปประมาณ 3 อาทิตย์แล้วเราก็ชินเอง มันก็จะกลานเป็นไลฟ์สไตล์แบบใหม่ของเราไปเลย จากที่แต่ก่อนตื่น ทำงาน กินแล้วนอน เล่นโซเชียล ถ้าเรารู้จักแบ่งเวลาดีๆ มันก็ทำได้ แล้วเราจะพบไลฟ์สไตล์แบบใหม่ๆ ที่ท้าทายแล้วชีวิตเราจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ”
6. มนพร ศรีศุทธยานนท์
อาชีพ : Designer /illustrator/ Day dreamer
“ตอนลดน้ำหนักเอาจริงๆมาจากการที่เราใส่กางเกงตัวเดิมไม่ได้อีกต่อไป เพื่อนก็แซ้วแซวว่าขาใหญ่ๆเดินไปที่ไหนก็ลำบาก อึดอัดไปหมด ณ ตอนที่น้ำหนักเยอะที่สุดก็ตระหนักว่า เออ เราควรลดล่ะ แต่เราไม่ชอบออกกำลังกายเลย เล่นกีฬาอะไรก็ไม่เป็น เลยตัดสินใจคุมน้ำหนักแทน ลดการกินลง จากปกติกิน 3 มื้อใหญ่ มื้อดึก และจุบจิบตลอดทาง เป็น สามมื้อ เน้นเช้าลดเย็น นับแคลอรี่เอา แล้วก็ชั่งน้ำหนักทุกเช้าเลย เป็นการดูความคืบหน้าและกดดันตัวเองเบาๆ เราโหลด app “My fitness first” มาด้วย มันจะช่วยจดว่า วันนี้น้ำหนักเท่าไหร่ วันนี้กินอะไรไป แคลอรี่เท่าไหร่มันก็คิดให้ บางอันแสกนแค่บาร์โค้ดมันยังรู้เลย
“แล้วก็งดเหล้าเบียร์ แอลกอฮอล์ทั้งหลาย นอนเร็ว กินอาหารคลีน (เช่นเปลี่ยนจากทอดเป็นต้ม กินแป้งไม่กัดสี) แต่ก็ยังกินหลากหลายและครบ 5 หมู่ งดจุบจิบเด็กขาด กินน้ำมะเขือเทศวันละแก้ว โชคดีที่ชอบกินจืด เลยไม่เป็นปัญหา รู้สึกร่างกายสดชื่นขึ้นและไบรท์มากค่ะ
“ลดจาก 55 เหลือ 45 ถ้าหิวดึกก็กินแอปเปิ้ลแทน แล้วแคลอรี่นับตามมวลที่ร่างกายต้องการ (BMI) พอออกมา สมมติว่าเราต้องกินให้ได้ 2000 แคลต่อวัน ถ้าอยากลดก็เหลือ 1800 แคลต่อวัน ร่างกายก็จะนำไขมันที่สะสมออกมาใช้ ก็สามารถลดได้โดยไม่ออกกำลังกายค่ะ”
7. ศีลภัทร ตั้งสุขนิรันดร
อาชีพ : freelancer
“เราผ่านตาสูตรลดน้ำหนักพอสมควรและได้ข้อสรุปว่าเราไม่ควรยึดสูตรใดๆ เป็นสรณะเลยครับ สาเหตุคือร่างกายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไหนจะปัจจัยการเข้าถึงอาหารสุขภาพในกรุงเทพฯ ที่เอื้อต่อคนมีกำลังซื้อสูง จุดเริ่มต้นของเราคือมองการลดน้ำหนักแบบตรงๆ คือ การคุม calorie intake ให้น้อยกว่า calorie outtake เพื่อบังคับให้ร่างกายเผาพลาญพลังงานสะสมออกไป การลดน้ำหนักเนี่ยมันก็มีส่วนผสมอยู่ 2 อย่างก็คือ – คุมอาหาร – ออกกำลังกาย ทีนี้มันก็มีบทความต่างๆ นานาชี้ว่า ออกกำลังกายหรือคุมอาหารเนี่ยอันไหนสำคัญกว่ากัน, ควรจริงจังกับการคุมอาหารมากแค่ไหน, ควรออกกำลังกายเวลาใด ซึ่งต้นมองว่าอ่านแล้วเป็นภาระสมองเพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าสุดท้ายตารางชีวิตของแต่ละคนคือตัวแปรสำคัญที่สุดในการลดน้ำหนักฮะ
“ตอนลดน้ำหนักใหม่ๆ นี่แทบไม่มีเวลาว่างเลย กว่าจะได้ฤกษ์ออกกำลังกายก็ปาเข้าไปเดือนที่ 2-3 แล้ว ดังนั้นจึงวางแผนการลดน้ำหนักโดยเน้นไปที่การคุมอาหาร อย่างไรก็ดี ข้อสำคัญคือ การคุมอาหาร และ การออกกำลังกาย ควรมาด้วยกัน ทีนี้ใครจะวางสัดส่วนอย่างไรก็ตามสะดวกครับ บอกก่อนเลยนะครับว่าไม่เคยมานั่งท่องตารางแคลลอรี่อาหารเลย ไอ้ค่า BMI BMR TDEE เนี่ยรู้แค่คร่าวๆ แต่ไม่เคยมานั่งคำนวนทุกค่ำเช้า ยึดหลักแค่ว่า เลี่ยงของทอดของมัน เน้นอาหารต้มๆ นึ่งๆ ลวกๆ กินพวกผักปลาไก่ งดของหวานทั้งขนมและเครื่องดื่มโดยเด็ดขาด คุมปริมาณการกินให้ไม่มาก (และไม่น้อยเกินไป) ฟังดูง่ายแถมทำจริงก็ไม่ยากครับ (อ้าว 55)
“เราเริ่มคุมน้ำหนักตอนบ่ายวันหนึ่งด้วยการต้มจับฉ่ายหม้อใหญ่ไว้กินมื้อเช้าหลายๆ วัน (เพราะหาอาหารสุขภาพตอนเช้าแถวบ้านไม่ได้และไม่มีสุนทรีย์ลุกขึ้นมาทำอาหารตอนตีสี่แต่อย่างใด) แล้วความเบื่ออาหารจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราหาเมนูสุขภาพอื่นๆ มาเติมตอนเช้าทีหลังเองครับ ส่วนมื้ออื่นๆ สามารถดัดแปลงเมนูตามร้านอาหารได้ไม่ยากครับ (สุกี้น้ำไก่, ส้มตำไม่ปรุงรสจัด, ไก่ย่าง, ปลาเผา, เอ็มเคชุดผักสุขภาพ, สลัดแยกน้ำ ฯลฯ) ส่วนการออกกำลังกายเนี่ย เริ่มจากเลือก workout ตาม YouTube เลยครับ ตอนนั้น Six Week Six-Pack ของ Jillian Michaels ดัง ก็ทำตาม ต่อมา Insanity ของ Shuan T มา ก็ลองดู ทีนี้จะ cardio อย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะต้องมีการสร้างกล้ามเนื้อมาช่วยเผาพลาญพลังงานด้วย ระหว่างนั้นมีเพื่อนบิลด์ให้ไปยิมตลอดแต่เรารู้สันดานตัวเองดีว่าถ้าสมัครคือเอาเงินไปทิ้งแน่ๆ จึงเก็บเงินซื้อดัมเบลมาเล่นเวทเบื้องต้นเองที่บ้าน
“ส่วนขั้นตอนการยกเวทมีเผยแพร่ตามอินเทอร์เน็ตไม่น้อย นอกจากนี้เรายังต้องหมั่นสำรวจความต้องการของตนเองตลอดเวลาว่า เครื่องมือออกกำลังกายชิ้นไหนจำเป็นบ้าง? จำเป็นต้องมีกล้ามเนื้อทุกมัดบนเรือนร่างมั้ย? ซื้อเครื่องมือมาแล้วจะกลายเป็นราวตากผ้าหรือเปล่า? อย่างไรก็ดี ไม่ได้ปฏิเสธการไปยิมหรือการกินคลีนแบบเข้มข้น แต่ที่เลือกลดน้ำหนักตามที่กล่าวข้างบนคือการพยายามวางแผนให้การลดน้ำหนักสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองและไม่เป็นการฝืนจนเกินไป แต่ไม่ว่าใครจะลดน้ำหนักยังไงหรือเข้มข้นแบบไหน เรามองว่าเครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือวินัยครับ ตลอดการคุมน้ำหนักร่วม 7 เดือน เรามีการวินัยหลุด (โดยตั้งใจ) อยู่ 2 ครั้ง ส่วนใครเน้นออกกำลังกายก็ควรทำสม่ำเสมอ และถ้าใครเป๊ะได้ทั้งสองอย่างก็ดีมากๆ เลย”
8. พจนารถ ทิมินกุล
อาชีพ : ล่ามภาษาญี่ปุ่น
“ตอนลดน้ำหนักแรกๆ ก็ลองผิดลองถูกไปหลายอย่าง แต่ช่วงที่ลงจริงๆ จังๆ น่าจะเป็นช่วงที่เสียตังค์จ่ายค่าฟิตเนสเป็นรายปี เหมือนบังคับตัวเองไปเลยว่าถ้าไม่ไปก็คือทิ้งเงิน แล้วอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้รู้สึกว่าน้ำหนักลดลงก็คือการสมัครลงวิ่งมาราธอน มินิมาราธอน 10 ‘โล 20 ‘โลก็ว่ากันไป แต่ 40 ‘โลนี่ไม่ไหวกลัวตายก่อน มันเหมือนการหาข้อสอบให้ตัวเอง ถ้าไม่ซ้อมก็เหมือนไม่อ่านหนังสือไปสอบ วิ่งไม่ไหวก็สอบตก เราทำงานมากว่าจะกลับถึงห้องก็ 6 โมงครึ่ง กว่าจะไปออกกำลังกายเสร็จก็ 3 ทุ่ม ถึงตอนนั้นก็ไม่อยากกินอะไรแล้ว
“บายเดอะเวย์ ด้วยความเป็นคนหน้ากว้าง น้ำหนักลงยังไงหน้าก็ยังบานอยู่ ก็ลงคอร์สสิ โบทอกซ์ 1 เมโสแฟต 3 ความงามจะมาลงที่หน้าท่านเอง
“ลงเข็มจนชิน หลังๆ นี้ไม่ค่อยวิ่งละนะ เพราะอ้วนแต่หน้าสวย พอ”