“ท้องฟ้าก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นมันทุกวันจนเกิดความเคยชินและเห็นเป็นสิ่งธรรมดา เพราะพระอาทิตย์ขึ้นและตกในทุกวัน แต่สำหรับเราทุกๆ วัน มันคือความพิเศษ ท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงไปตลอดตามช่วงเวลาต่างๆ เฉดสีนี้อาจมีเฉพาะแค่วันนี้ ช่วงเวลานี้ก็เป็นได้ เราเลยอยากถ่ายทอดและเก็บความรู้สึกในผลงานเซรามิก”
ท้องฟ้านั้นเปลี่ยนไปทุกวัน จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถเก็บท้องฟ้าในแต่ละวันไว้ได้มากกว่ารูปถ่าย The MATTER คุยกับ เอิร์ธ—ปพิชชา ธนสมบูรณ์ ช่างปั้นและนักออกแบบเซรามิก เจ้าของผลงานชุด ‘Every Day’ ที่แสดงถึงอารมณ์ และบรรยากาศของท้องฟ้า 30 วัน ลงในชาม 30 ใบ ด้วยเทคนิค nerkomi ที่นำดินสีต่างๆ มาทับซ้อนกันจนเกิดเป็นลวดลาย ซึ่งความพิเศษของเทคนิคนี้คือ งานแต่ละชิ้นที่ออกมา จะไม่มีชิ้นไหนเหมือนกันเลย
The MATTER : กระบวนการทำงานของคอลเลกชั่น ‘Every Day’ เป็นอย่างไร
คอลเลกชั่นนี้เป็นการท้าทายและฝึกตัวเองไปในตัว เราตั้งเป้าว่าอยากถ่ายทอดความรู้สึกของเรา และความงามของท้องฟ้า 30 วัน ลงไปในชาม 30ใบ ซึ่งสีและลวดลายของแต่ละใบ เกิดจากการจดจำสีและความรู้สึกหลังจากมองท้องฟ้าในแต่ละวัน
เราผสมดินสีต่างๆ เข้าด้วยกันใหม่ และตัดต่อดินสีด้วยเทคนิค nerikomi นำไปเผารอบแรกที่อุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส และนำมาขัดด้วยกระดาษทราย จากนั้นเคลือบชิ้นงาน และเผารอบสุดท้ายที่อุณหภูมิ 1220 องศาเซลเซียส ซึ่งในระหว่างการทำงานเราจะเห็นสีที่ผสมในเนื้อดินไม่ชัด จะมองเห็นเป็นสีดินทำให้เราต้องใช้จินตนาการในการสร้างผลงานขึ้นมามากเป็นพิเศษ
The MATTER : แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสีจะออกมาเป็นแบบที่คิดไว้
ทดลองอย่างเดียวเลยว่าใส่ผงสีในดินกี่เปอร์เซ็นต์ เมื่อเผาประมาณ 1220 องศาเซลเซียส ถึงจะออกมาเป็นเฉดสีต่างๆ ตามที่ต้องการ บางสีก็เกิดจากการทดลอง cross สีกันไปมาเกิดเป็นสีใหม่ๆ ขึ้น หรือบางทีอาจผสมสีใหม่เองตอนกำลังปั้นอยู่ตามความรู้สึกไปเลยก็มีค่ะ ซึ่งพอเป็นแบบนั้นบางครั้งอยากได้สีเดิมก็ลืมไปแล้วว่าผสมอะไรไปบ้าง
ส่วนลวดลายเกิดจากการทำฝึกบ่อยๆ และทดลองเยอะๆ อย่างเช่นการซ้อนของดินในรูปแบบนี้ จะได้ลายแบบไหน การนวดดินไปในทิศทางไหนหรือบีบดินทรงไหน จะทำให้เกิดลายการไล่สียังไง ซึ่งค่อนข้างซับซ้อนในตอนขึ้นรูปมากเพราะเราเห็นสีทุกสีเป็นสีเทาหมดเลย ต้องใช้การจำและจินตนาการเอา
The MATTER : ทำไมถึงคิดหยิบเอาท้องฟ้ามาไว้ในงานเซรามิก
เราชอบและหลงใหลในความงามของธรรมชาติอยู่แล้ว เรามองเห็นความงามของสิ่งต่างๆ สิ่งเล็กๆรอบตัว ซึ่งทั้งหมดสามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจได้เยอะมากๆ อยู่ที่มุมมองของเราต่อสิ่งนั้น ซึ่งท้องฟ้าก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นมันทุกวันจนเกิดความเคยชินและเห็นเป็นสิ่งธรรมดา เพราะพระอาทิตย์ขึ้นและตกในทุกวัน แต่สำหรับเราทุกๆ วัน มันคือความพิเศษ ท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงไปตลอดตามช่วงเวลาต่างๆ เฉดสีนี้อาจมีเฉพาะแค่วันนี้ ช่วงเวลานี้ก็เป็นได้ เราเลยอยากถ่ายทอดและเก็บความรู้สึกในผลงานเซรามิก
The MATTER : ท้องฟ้าแต่ละวันต่างกันอย่างไร แล้วช่วงเวลาไหนที่คุณชอบมากที่สุด
จริงๆ แล้วเราชอบท้องฟ้าในทุกๆ ช่วงเวลานั่นแหละ ชอบที่มันมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา ซึ่งการที่เราคาดเดาไม่ได้มันก็เป็นเสน่ห์ของธรรมชาติ
The MATTER : คุณคิดว่าสีของท้องฟ้าส่งผลต่ออารมณ์ของคนเราไหม
ส่งผลในทางอารมณ์นะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเราในตอนนั้นมากกว่า ว่าในขณะนั้นความรู้สึกเราเป็นอย่างไร คิดหรือหลงใหลกับอะไรอยู่ บางทีสิ่งที่มองอาจถูกรวมไปเป็นบริบทเดียวกันกับอารมณ์ของเราไปเลยก็ได้ สมมติถ้าเศร้าอยู่ ถึงจะมองฟ้าสีครามสดใสแค่ไหน ก็ยังเศร้าอยู่ดี แต่เราว่าการมองท้องฟ้ากว้างมันช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้นนะ
The MATTER : เสน่ห์ของงานเซรามิกคืออะไร
งานเซรามิกเกิดจากธรรมชาติ ใช้กระบวนการทำค่อนข้างหลายขั้นตอน ใช้วิทยาศาสตร์รวมเข้ากับศิลปะ เป็นความงามที่น่าค้นหามากๆ เซรามิกเกิดจากดิน ต้องใช้น้ำในการขึ้นรูป และเผาด้วยไฟ แร่ต่างๆ สามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของเคลือบ และสีในงานเซรามิก ต้องมีความใส่ใจถึงจะเกิดมาเป็นชิ้นงานหนึ่งได้
การคาดเดาไม่ได้ของการทำเซรามิกก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ทำให้เราเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและไม่คาดหวังกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เพราะในขั้นตอนการทำนั้น งานสามารถฉีก ร้าว หรือเกิดตำหนิได้ทุกขั้นตอน
บางคนอาจติดภาพเซรามิกจากเครื่องปั้นดินเผาโบราณ ซึ่งในปัจจุบันเซรามิกมีเทคโนโลยี เทคนิค และรูปแบบในการนำเสนอหลากหลายแนวทางกว่านั้น ขึ้นอยู่กับศิลปินและนักออกแบบว่าจะนำเสนอเซรามิกในรูปแบบไหนมากกว่า
The MATTER : คุณเพิ่งได้รับรางวัลดีเด่นจากงานเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติมาใช่ไหม
งานเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ เป็นการประกวดของช่างปั้น นักออกแบบ และศิลปินเซรามิกจากทั่วประเทศ ไม่จำกัดอายุ ซึ่งจะจัด 2 ปีครั้งเท่านั้น
ผลงานชุด ‘Above the Surface of the Earth’ ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทหัตถกรรม เป็นโปรเจกต์ธีสิสที่ใช้เวลาทดลองประมาณ 1 ปีเต็ม ทั้งเทคนิค รูปแบบ ฟอร์ม สี และลวดลาย ผลงานชุดนี้ถ่ายทอดความรู้สึกที่มีต่อท้องฟ้าในยามต่างๆ ลงไป ผ่านกระบวนการทำเซรามิกด้วยเทคนิค nerikomi
The MATTER : ในอนาคตจะมีคอลเลกชั่นอะไรอีกไหม
ตอนนี้เรากำลังพัฒนาแบรนด์ flowers in the vase ไปพร้อมๆ กับฝึกฝีมือตัวเองให้ดีขึ้น มีเป็นชุด tableware ที่ใช้งานได้จริง และแจกันดอกไม้ในรูปแบบการจัดต่างๆ ส่วนงานแสดง exhibition ต่อไปก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราสนใจในอนาคตค่ะ