ซีรีส์ว่าด้วยไอดอลหรือวงการเคป๊อปมีสร้างออกมาอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะ Dream High (2011), Imitation (2021) หรือ Idol: The Coup (2021) เนื้อหามักเกี่ยวกับการทำตามความฝันเพื่อเป็นไอดอล หรือไม่ก็การต่อสู้ดิ้นรนในวงการ หากแต่ KPop Demon Hunters (2025) แอนิเมชั่นที่เพิ่งออนแอร์ทางเน็ตฟลิกซ์เมื่อมิถุนายน 2025 กลับให้รสชาติที่ต่างออกไป มันมีส่วนผสมของทั้งแอ็กชั่น คอเมดี้ แฟนตาซี ไปจนถึงมิวสิคัล
KPop Demon Hunters ว่าด้วยไอดอลสามสาววง ‘Huntrix’ (ซึ่งที่จริงเขียนแบบเก๋ๆ ว่า HUNTR/X) ฉากหน้าคือเกิร์ลกรุ๊ปตัวท็อปของวงการ ทว่าพวกเธอมีอีกโฉมหน้าคือนักล่าปิศาจ ต้องคอยฟาดฟันกับเหล่าปิศาจผู้มาดูดกินวิญญาณของมนุษย์ ตำนานเล่าว่านักล่าสาวรุ่นแล้วรุ่นเล่าต่อสู้กับปิศาจมาหลายร้อยปี แต่แล้วเหล่าปิศาจก็รู้จักปรับตัว ด้วยการแฝงตัวเป็นบอยกรุ๊ปนาม Saja Boys เพื่อใช้เสน่ห์ล่อลวงวิญญาณของผู้คน
แม็กกี้ คัง (Maggie Kang) หนึ่งในผู้กำกับของเรื่อง เกิดที่เกาหลีก่อนจะย้ายมาใช้ชีวิตที่โตรอนโต้ แคนาดา เธอให้สัมภาษณ์ว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้คือจดหมายรักถึงวงการเคป๊อปและรากเหง้าเกาหลีของเธอ แม็กกี้อินกับเรื่องปิศาจวิทยา (demonology) มาก ซึ่งมันคือประเด็นที่เจอได้บ่อยในซีรีส์เกาหลี อาทิ The Uncanny Counter (2020-2023), Hellbound (2021) หรือ Revenant (2023) แต่มันยังส่งผลดีต่องานด้านภาพที่ตระการตา เล่นกับสไตล์หวือหวาหรือสีฉูดฉาดได้เต็มที่ ซึ่งผู้รับผิดชอบด้านงานสร้างคือ Sony Pictures Animation เจ้าของผลงานดังอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse (2018) และ Spider-Man: Across the Spider-Verse (2023) แม้ว่าการเคลื่อนไหวบางช่วงอาจดูไม่ลื่นไหล แต่พวกฉากต่อสู้ทำได้น่าตื่นตาตื่นในจนกลบรอยแผลต่างๆ ได้
ส่วนเนื่อหาเกี่ยวกับเคป๊อปนั้น ถ้าเป็นแฟนเพลงเกาหลีน่าจะดูสนุกเป็นพิเศษ มีฉากเกี่ยวกับวัฒนธรรมเคป๊อปมากมาย ไม่ว่าจะแดนซ์ชาเลนจ์, ชนะถ้วยรายการเพลง, งานแฟนไซน์, การชิป (จับคู่) ศิลปิน รวมถึงฉากคอนเสิร์ตสุดอลังการพร้อมไฟแท่ง นอกจากนั้นยังล้อภาพจำจากซีรีส์เกาหลี ฉากประเภทพระเอกนางเอกเจอกันครั้งแรกด้วยการเดินชนกัน ซึ่งมีเกร็ดว่าเป็นการล้อฉากจากซีรีส์ Business Proposal (2022) นำแสดงโดยอันฮโยซอบ (Ahn HyoSeop) ซึ่งก็เป็นคนพากย์เสียงพระเอกของเรื่องนี้นั่นแหละ
ที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษคือการออกแบบวงบอยกรุ๊ป Saja Boys ให้มีลักษณะตาม ‘ไอดอลอุดมคติ’ แบบเคป๊อปทุกประการ ไม่ว่าจะผิวขาวเนียน คิ้วคมกริบ กล้ามซิกแพ็ค และขาดไม่ได้กับจมูกโด่งเป็นสัน แต่ตลกร้ายที่ว่า Saja Boys คือร่างปลอมของปิศาจ ไม่ใช่มนุษย์จริงๆ อันนี้ไม่รู้ว่าผู้สร้างเขาซ่อนสารอะไรไว้หรือเปล่า
ส่วนฝั่งสาวๆ วง Huntrix หรือตัวละครอื่นๆ แม้จะหน้าตาออกไปทางแอนิเมชั่นฝั่งตะวันตก (ประมาณ Pixar) ที่เราคุ้นชิน แต่ผู้กำกับคังเล่าว่าเธอพยายามสอดแทรกความเป็นเกาหลีลงไปด้วย ไม่ว่าจะการแสดงสีหน้า สายตา หรือแม้จะพูดภาษาอังกฤษทั้งเรื่อง เธอก็พยายามให้รูปทรงของปากและการออกเสียงเป็นแบบคนเกาหลี (แต่ผู้ชมชาวไทยอาจจะไม่เก็ทถึงตรงนี้เท่าไร)
ด้วยความเป็นมิวสิคัล ไม้เด็ดของ KPop Demon Hunters ก็คือเพลง ซึ่งมีบรรดาคนดังมากมายมาร่วมแต่งเพลง ที่เรารู้จักดีคือ เท็ดดี้ ปาร์ค (Teddy Park) แห่ง Black Label หรือ Takedown หนึ่งในเพลงหลักของหนังก็มีเวอร์ชั่นที่ร้องโดย จีฮโย (Jihyo), จองยอน (Jeongyeon) และแชยอง (Chaeyoung) วง Twice ซึ่งเพลงโดยรวมจะออกไปทางตะวันตกมากกว่าเคป๊อปจ๋าๆ แต่ก็ไพเราะและติดหูใช้ได้ อย่างไรก็ดี ที่ผู้เขียนประทับใจคือแต่ละเพลงสามารถ ‘เล่า’ ถึงสารที่ต้องการสื่อ รวมไปถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร
เช่นว่า เพลง Soda Pop ของ Saja Boys เป็นเพลงตามขนบของเคป๊อปที่แต่งขึ้นมาให้ฟังครั้งเดียวก็ติดหูและจะเป็นไวรัลแน่นอน แต่ถ้าอ่านความระหว่างบรรทัด มันคือบทเพลงล่อลวงของเหล่าปิศาจ เพราะจุดประสงค์ของ Saja Boys คือการสูบวิญญาณของมนุษย์ หรือในช่วงท้ายจะมีเพลง Your Idol ซึ่งสื่อชัดเจนถึงการลุ่มหลงในศิลปินอย่างหน้ามืดตามัว อย่างที่ท่อนฮุคของเพลงร้องว่า “มอบความปรารถนาของเธอให้กับฉัน ให้ฉันเป็นดวงดาวนำทางของเธอ”
ส่วนเพลงของวง Huntrix จะมีฉากเด่นที่วงร้องเพลง Golden ว่าด้วยการร่วมแรงร่วมใจกัน (“นี่คือช่วงเวลาของเรา เราจะเปล่งประกายไปด้วยกัน เป็นสีทองอันเจิดจ้า”) แต่แล้วด้วยแผนการร้ายของปิศาจ วง Huntrix ถูกบังคับให้เปลี่ยนไปร้องเพลง Takedown ที่ว่าด้วยการทำลายล้างอีกฝ่าย แต่แล้วนางเอกก็เริ่มคิดได้ว่ากวาดล้างเหล่าปิศาจให้สิ้นซากอาจไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง นอกจากนั้นทั้งนางเอก (นักล่าปิศาจ) และพระเอก (ปิศาจ) ต่างมีปมในใจร่วมกัน คือพวกเขาต้องการลบล้างบางสิ่งของตัวเอง
บทสรุปแสนงดงามมาถึงในเพลง What It Sounds Like อันเป็นฉากไคลแม็กซ์ เมื่อนางเอกตระหนักได้ว่าการลบบาดแผลไม่ใช่ทางออก หากแต่เป็นการอยู่ร่วมกับมัน (“เราแหลกสลายเป็นเศษล้านชิ้น เรามิอาจถอยกลับไปได้ หากตอนนี้ฉันมองเห็นความงดงามในเศษแก้วเหล่านั้น”) นอกจากนั้นผู้สร้างยังสอดแทรกสัญญะอย่างชาญฉลาด หนึ่งในภารกิจของวง Huntrix คือการรวบรวมแรงเชียร์จากแฟนคลับเพื่อสร้าง ‘ฮอนมุนสีทอง’ หรือกำแพงป้องกันโลกจากปิศาจ แต่สุดท้ายนางเอกเรียนรู้ว่าสีทองนั้นเป็นเพียงอุดมคติที่เธอถูกสั่งสอนมา เมื่อเธอเลือกหนทางที่ต่างออกไป ฮอนมุนก็กลายเป็นสีรุ้ง สอดรับกับธีมความหลากหลายของแต่ละปัจเจกบุคคล
อีกประเด็นน่าขบคิดของ KPop Demon Hunters คือ ‘พลังของแฟนคลับ’ ซึ่งถูกเปรียบเปรยในหนังว่ามีพลังมหาศาล แต่หากถูกปิศาจนำไปใช้ในทางที่ผิด มันจะกลายเป็นพลังงานอันชั่วร้าย ไม่มีการเฉลยแน่ชัดว่ากวีมา (ปิศาจบอสใหญ่) คือใคร หรือมีที่มาอย่างไร แต่ดูจากพฤติกรรมชอบใช้ประโยชน์จากศิลปินหรือปั่นหัวแฟนคลับ ก็ตีความได้ไม่ยากว่ากวีมานี่หมายถึงใคร กลุ่มใด องค์กรใด และเป็นเรื่องสำคัญทีเดียวที่เราต้องมองให้ออกว่าใครคือปิศาจตัวจริง