ตามปกติแแล้ว ทุกเดือนตุลาคมของแต่ละปี ก็จะเป็นช่วงสำคัญสำหรับคนรักหนังสือในประเทศไทยอยู่ไม่น้อย เพราะแทบจะทุกปีจะมีงานสัปดาห์หนังสือให้ติดตามกัน เฉกเช่นเดียวกับผู้เขียนที่จะตะลอนไปทั่วงานแล้วหยิบจับหนังสือที่น่าสนใจมาบอกเล่าป้ายยาให้ทุกท่านที่น่าจะสนใจได้ติดตามกันต่อ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี ค.ศ.2019-2021 นั้นก็เป็นห้วงเวลาที่ไวรัส COVID-19 ยังแพร่ระบาดอยู่ แถมการรับมือของทางรัฐก็ยังไม่ส่งผลดีมากพอที่จะทำให้จัดงานกิจกรรมใดๆ ได้ ตัวงานหนังสือเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2021 ทาง สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย หรือ Pubat จึงตัดสินใจให้จัดงานในรูปแบบไฮบริด ที่จะมีทั้งงานขายแบบออนไลน์ แต่ยังคงไว้ด้วยการสัมมนาที่มีเนื้อหาเข้มข้นอย่างที่เคยเกิดขึ้นในงานจริง แถมยังมาด้วนคอนเซ็ปต์ที่ติดหูและชวนน่าสนใจอยาก ‘อ่านออก เถียงได้’
เพื่อตอบรับการปรับเปลี่ยนมาเป็นงานมาจัดงานในลักษณะออนไลน์ และทดแทนบรรยากาศการเดินเตร็ดเตร่แล้วเผลอหยิบหนังสือมาแบบไม่ทันคิด เราจึงขอมโนว่า เรายังได้เดินดูแถวบูธของเหล่าสำนักพิมพ์สาย มังงะ ไลท์โนเวล แบบทิพย์ๆ แล้วหยิบยกเอาหนังสือจำนวนหนึ่งมาแนะนำให้ทุกคนที่สนใจได้ไปตามอ่านกันต่อ อย่างไรก็ตามในครั้งนี้เราขอสงวนพื้นที่ไว้ให้กับหนังสือใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงก่อนหน้าการจัดงานไม่นานก่อนนะ!
แว่บไปดูสำนักพิมพ์ Zenshu
สำนักพิมพ์ Zenshu ถือว่าทำหนังสือ มังงะ-ไลท์โนเวล หลากหลายแนว ทั้งแบบแมสจัดๆ เฉพาะตัวจ๋าๆ หรือแม้แต่งานแนว Yaoi – Yuri ก็มีเช่นกัน แถมยังมีแผ่นอนิเมะกับของสะสมให้อุดหนุนกัน ในบูธด้วย
หนังสือเด่นที่เราคิดว่าน่าสนใจก็คงไม่พ้น ‘Yoru ni Kakeru วิ่งสู่ค่ำคืน รวมนิยาย YOASOBI’ สำหรับท่านที่เห็นชื่อ YOASOBI แล้วอาจจะพอนึกออกว่านี่คือหนังสืออะไร
แต่เราขออธิบายให้ท่านที่ไม่คุ้นเคยกันก่อนว่า YOASOBI นั้นเป็น วงดนตรีที่เกิดจากการจับคู่กันของ Ayase นักแต่งเพลง-นักเขียนเพลงที่โด่งดังจากการทำเพลงด้วยโปรแกรม Vocaloid กับ Lilas Ikuta หรือที่โดนเรียกว่า ikura นักร้อง-นักแต่งเพลง และสองคนต่างเคยมีผลงานกันมาก่อนแล้ว
ที่สองคนมาจับคู่กัน เนื่องจากทำโปรเจ็กต์แต่งเพลง จากนิยายที่ชนะเลิศการแข่งขัน บนเว็บไซต์ Monogatary.com และมีแผนที่จะทำงานเป็นแค่โปรเจ็กต์สั้นๆ เท่านั้น (ซึ่งสอดคล้องกับชื่อวงที่แปลได้ว่า เที่ยวเล่นยามค่ำคืน ไม่ใช่การทำงานตอนกลางวัน) แต่เมื่อเพลง Yoru Ni Kakeru ถูกปล่อยออกมาให้รับฟัง ก็กลายเป็นว่ากระแสของเพลงนั้นโด่งดังอย่างดุเดือด จนทำให้โปรเจ็กต์ระยะสั้น กลายเป็นผลงานระยะยาวของสมาชิกวงทั้งสองคน
ดังนั้นตัวนิยายเล่มนี้ คือนิยายที่เป็นต้นเรื่องให้กับบทเพลงที่วง YOASOBI ขับร้องนั่นเอง สำหรับใครที่ฟังเพลงอย่าง Yoru ni Kakeru, Encore, Ano Yume o Nazotte หรือ Tabun แล้วอยากเข้าใจที่มาของเพลงมากขึ้น ไม่ควรมองข้ามนิยายเล่มนี้ หรือในทางกลับกันท่านที่ไม่เคยฟังเพลง อาจจะลองอ่านนิยายเหล่านี้ว่าเนื้อหาถูกนำเสนอไปหาเพลงต่างๆ ได้เช่นไร
เตร็ดเตร่ไปแถว Luckpim
โลโก้ใบโคลเวอร์ กับพนักงานในบูธที่สามารถชี้ทางให้นักอ่านเสียเงินได้รัวๆ น่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่หลายคนจดจำได้จากฝั่ง Luckpim และหนังสือของค่ายนี้ก็จะมีหลากหลาย ทั้งงานที่ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะ หรืองานสไตล์กึ่งสารคดีก็มีให้ติดตาม
เดือนตุลาคมปี ค.ศ.2021 ที่หลายคนอาจจะตึงเครียดมาเยอะแล้ว ซึ่งก็โชคดีที่ครั้งนี้เรามีหนังสือสไตล์ชวนผ่อนคลายในหัวถึงสองเรื่องให้คว้ากันครับ เรื่องแรก ‘Sakamoto Days’ ผลงานมังงะจากนิตยสาร Shonen Jump รายสัปดาห์ ที่เล่าเรื่องของ ซากาโมโตะ ทาโร่ ชายร่างตุ้ยนุ้ยดูไม่มีพิษภัยแถมยังรักครอบครัวแบบสุดๆ แต่จริงๆ แล้ว…พี่แกเป็นนักฆ่าเก่า ที่ถอนตัวไปแล้วแต่มีเหตุทำให้เขาโดนลากไปเกี่ยวพันกับนักฆ่าคนอื่นอยู่เรื่อยๆ เพื่อปกป้องครอบครัวแล้วเขาจะใช้ฝืมือที่ไม่ได้ทือลงในการรักษาชีวิตสงบสุข เรื่องย่ออาจจะดูไม่แปลกตา แต่บอกเลยว่าฉากแอ็กชั่นนั้น สนุกสนานเร้าใจตลอดเวลาเลยทีเดียว แถมมุกสไตล์ซีเรียสในเรื่องก็ทั้งชงทั้งตบอย่างจริงจัง
อีกเรื่องเหมาะมากกับผู้นิยมความชิล ความนุ่มนิ่ม อย่างมาก เพราะในการ์ตูนเรื่อง ‘คุณวายร้ายกับวันหยุดสบายๆ ของเขา’ จะจับเอาชีวิตของ นายพล ผู้เป็นหัวหน้าองค์กรร้ายที่หมายทำลายโลกอยู่ทุกวันทำงาน แต่เมื่อถึงวันหยุด เจ้าตัวจะกดปุ่ม Off จนสนิท แล้วหลีกหนีความจริงไปสวนสัตว์ ไม่ก็ไปกินไอศกรีมเพื่อช่วยเยียวยาหัวใจที่อ่อนล้า ซึ่งเราเชื่อว่างานเรื่องนี้จะทำให้หัวใจหลายคนผ่อนคลายละลายจากความเครียดรอบตัวกันนะ
รีบหยิบหนังสือด้านหน้า ก่อนเผลอใจเปย์ของสะสมมากมายที่บูธ Dexpress
เขยิบไปอีกบูธที่มักจะอยู่ใกล้ๆ Luckpim ก็คือทาง Dexpress ฝั่งหนังสือของบริษัท DEX นั่นเอง และหลายต่อหลายครั้งก็จะเห็นว่า บูธของเจ้านี้ จะมาพร้อมกับของเล่น ของสะสม จำนวนมาก วางตระหง่านเป็นฉากหลัง ส่วนตัวหนังสือนั้นจะอยู่ด้านหน้าๆ ของบูธ ประหนึ่งเป็นการประกาศว่า ถ้าหยิบแค่หนังสือมันไม่ทำให้ต่อมโอตาคุของคุณอิ่มเอม ข้างในมีของพร้อมกระตุกกระเป๋าเงินนะ
แต่ช้าก่อนเราตั้งใจมาคว้าหนังสือกันเท่านั้น ตามสไตล์ของ Dexpress ก็จะมีหนังสืออุลตร้าแมนกับมาสค์ไรเดอร์ แล้วก็กันดั้ม เด่นๆ อยู่หลายเล่ม ในขณะเดียวกันก็จะมีหนังสือที่มักจะมี Mix Media ควบกันอยู่หลายเรื่อง ซึ่งในงานนี้ก็มีสองเล่มที่เข้าข่ายหลังนั้นด้วย
เล่มแรกที่เล็งไว้ก็คือ ‘คดีฆาตกรรมคฤหาสน์สิบมุม’ มังงะที่ดัดแปลงมาจากนิยายแนวรหัสคดีของอาจารย์ ยูกิโตะ อายาสึจิ (Yukito Ayatsuji) (ในประเทศไทยเคยถูกตีพิมพ์ด้วยชื่อ คดีฆาตกรรมบ้านสิบเหลี่ยม) และได้ผู้วาดมังงะเรื่อง Another กลับมาทำหน้าที่เป็นวาดภาพให้อีกครั้ง ดังนั้นมังงะเรื่องนี้มีความเข้มข้นทั้งฝั่งเนื้อเรื่อง และงานภาพก็ออกมางดงาม ทำให้คดีฆาตกรรมที่ลึกลับดูน่าติดตามยิ่งขึ้น
อีกเรื่องหนึ่งคือ ‘ฮันซาวะ นาโอกิ -เฉือนคมกลธนาคาร-‘ ที่หลายท่านน่าจะคุ้นชื่อตัวละครเอกอยู่ เพราะมังงะเป็นการดัดแปลงมาจาก นิยายชุด ฮันซาวะ นาโอกิ นั่นเอง (ตัวนิยายเล่มไทยก็มีการตีพิมพ์ในชื่อ ฮันซาวะ นาโอกิ จอมอหังการ) เท่าที่ตามอ่านรีวิวจากฝั่งประเทศญี่ปุ่น ฉบับมังงะจะถูกกล่าวว่าอ่านแล้วย่อยง่ายขึ้น แม้ว่าเรื่องราวจะเกี่ยวข้องกับการเงินในอนาคต กับเรื่องราวของโลกธุรกิจก็ตาม
โต๋เต๋รอบๆ NED
มายังบูธ NED ที่มักจะอยู่ห่างไกลจากเพื่อนๆ ร่วมวงการเจ้าอื่นอยู่นิดหน่อย แต่คนรักการ์ตูนก็เดินตะลุยไปหากันทุกครั้ง ในช่วงสองสามปีก่อนหน้านี้ ได้มีความเปลี่ยนแปลงในด้านโครงสร้างภายในของทาง NED จึงทำให้การออกหนังสือดูแผ่วไประยะหนึ่ง แต่ในปี ค.ศ.2021 นี้ ทาง NED ได้ประกาศสิทธิ์หนังสือที่น่าสนใจออกมาหลายเล่ม ทั้งตัวเรื่องเก่าที่กลับมาในรูปแบบสำหรับนักสะสม และเรื่องใหม่ๆ ทั้งจากนักเขียนนักวาดที่คุ้นเคย และงานใหม่ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อย
สำหรับช่วงนี้ ก็ต้องขอหยิบ ‘DEATH NOTE Short Stories’ ที่ในเล่ม เป็นเรื่องสั้นในจักรวาล Death Note เมื่อ คิระ คนใหม่ปรากฏตัวขึ้น โลกจะรับมือกับนักฆ่าลึกลับอย่างไร นอกจากนี้จะมีผลงานเรื่องสั้นที่เป็นต้นแบบก่อนที่อาจารย์ ทาเคชิ โอบาตะ (Takeshi Obata) กับ อาจารย์ ทสึงูมิ โอบะ (Tsugumi Ohba) จะเขียน Death Note ภาคหลัก กับมุมแก๊กจากเรื่องนี้ให้ติดตามกันในเล่มเดียว ใครคิดถึงบรรยกาศของมังงะเรื่องนี้ที่สร้างกระแสไปทั่วโลก ก็ไประลึกความหลังกับเรื่องราวเพิ่มเติมได้เลย
อีกเรื่องที่น่าสนใจก็คือ ผลงานเรื่อง ‘Trillion Game เกมชีวิต พิชิตล้านล้าน’ ที่ได้อาจารย์ เรียวอิจิ อิเคงามิ (Ryoichi Ikegami) นักวาดมังงะรุ่นใหญ่เจ้าของผลงานอย่าง Sanctuary กับ Crying Freeman มาจับคู่กับอาจารย์ ริอิจิโร่ อินางากิ (Riichiro Inagaki) ผู้แต่งเรื่องของ Eyeshield 21 กับ Dr. Stone หลังจากที่ทั้งสองท่านเคยร่วมงานกันมาครั้งหนึ่ง ในผลงานเรื่องสั้นตอนเดียวจบ
แต่ในผลงานเรื่องยาวกลับเป็นงานที่น่าสนใจกว่าเก่าเพราะมันเป็นเรื่องราว การจับคู่ของสองคู่หู ฮารุ ชายหนุ่มมากความสามารถเข้าสังคมที่บอกว่าตนเอง เป็น ‘ผู้เห็นแก่ตัวที่สุดในโลก’ กับ กาคุ โปรแกรมเมอร์ผู้มีความจริงจังและมีฝีมือเหนือชั้น ทั้งสองจับมือกันทำธุรกิจจากศูนย์และหาทางคว้าเงิน หนึ่งล้านล้านดอลลาร์ (ตามชื่อเรื่อง) เพื่อคว้าทุกสิ่งและเอาชนะนายทุนที่มีในตลาดก่อนหน้านี้
หลายคนอาจจะคิดว่า อาจารย์อิเคงามิก็เขียนงานที่มีตัวเอกสองคนสองสไตล์มาเยอะแล้ว แต่ต้องบอกเลยว่า งานเรื่องนี้จะแตกต่างไปไม่น้อยทีเดียวเพราะเรื่องราวส่วนใหญ่คือเรื่องราวของบริษัท Start-Up ในยุค 4.0 ที่ต้องสู้กับเจ้าพ่อธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้พร้อมจะเลียนแบบงานของแบรนด์เล็ก พอจะพูดได้ว่าผลงานเรื่องนี้ อาจารย์ Riichiro ได้ดึงด้านที่ทันสมัยของอาจารย์อิเคงามิไม่ใช่แค่ด้านท้องเรื่องเท่านั้น แต่ยังมีด้านงานภาพ ที่จริงๆ อาจารย์ Ikegami ก็เคยวาดสไตล์โมเอะ ใส่อารมณ์เยอะๆ อยู่บ้างแล้ว (ในการวาดรับเชิญ) มาใช้งานในมังงะเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่เหลือก็ลุ้นว่าทั้งสำนักพิมพ์และนักวาด (อาจารย์อิเคงามิเข้าสู่วัย 77 ปี ไปแล้วในปี ค.ศ.2021 นี้) จะสามารถดันเรื่องนี้ออกมาจนจบได้นะ
หลงทางนิดหน่อยก่อนเจอ Bongkoch
ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานหนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ หรือที่เมืองทองธานี เรามักจะหลงทางกันพอสมควรกว่าจะเจอบูธของทางบงกช แต่ที่มั่นใจได้แน่นอนคือ บูธสำนักพิมพ์ที่มีโลโก้ดอกบัวแห่งนี้ อัดแน่นไปด้วยหนังสือการ์ตูนและไลท์โนเวล รวมไปถึงหัวหนังสือย่อย BLY ที่เน้นผลงานแนว Yaoi / Boy Love จำนวนมากอยู่ด้านในบูธ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เป้าหมายที่เราอยากได้ในบูธนี้ก็คือ มังงะแนว Yaoi เรื่อง ‘Blanc’ ของอาจารย์ Nakamura Asumiko ที่มีจุดเด่นเป็นปกสีขาวเด่น สอดคล้องกับชื่อเรื่องนั่นเอง
Blanc นั้น จริงๆ แล้วเป็นบทหนึ่งของซีรีส์ขนาดยาวที่ใช้ชื่อว่า Doukyusei / Classamate (เพื่อนร่วมชั้น) และถูกเขียนแยกย่อยเป็นภาคๆ ตามช่วงเวลาที่ทั้งสองคนเริ่มคบหากันในฐานะเพื่อนก่อนจะเปลี่ยมาเป็นคนรัก แน่นอนว่าถ้าหากได้ติดตามผลงานมาตั้งแต่เริ่มต้น ก็จะเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครเอกสองตัวอย่าง คุซาคาเบะ ฮิคารุ กับ ซาโจ ริฮิโตะ นับตั้งแต่ได้พบกันในโรงเรียนมัธยม ก่อนจะสานสัมพันธ์จนถึงจุดที่ทั้งสองคนอยากจะแต่งงานกัน
แล้วก็เป็นในฝั่ง Blanc นี่เองที่จะเป็นช่วงที่สองคนตั้งใจจะแต่งงานกัน แต่ช่วงเวลาก่อนแต่งนั้นหลายคนมักจะเจอบททดสอบครั้งใหญ่ เช่นเดียวกับ ฮิคารุ กับ ริฮิโตะ ที่ถูกทดสอบจากเรื่องราวรอบตัว ทั้งจากสังคมและครอบครัว และหลายครั้งช่วงเวลานี้นี่ล่ะที่จะวัดใจคนที่อยู่ข้างๆ เรานั้นจะฟันฝ่าเรื่องราวเหล่านั้นไปด้วยกันอย่างไร
และถ้าสนใจจะติดตามเรื่องราวของสองตัวละครเอก ทางบงกชก็จัดทำมังงะภาคก่อนหน้าไว้แล้ว ถ้าสนใจติดตามเรื่องราวทั้งหมดก็ควรเหมาๆ เลยล่ะ!
บูธไม่ใหญ่ แต่หนังสือแน่นต้อง Animag
สำหรับ Animag เป็นสำนักพิมพ์ที่จัดทำนิยายหรือไลท์โนเวลเป็นสัดส่วนที่เยอะกว่าหนังสือแนวอื่นอย่างชัดเจน แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ทำมังงะเลย แค่ทำออกมาจำนวนน้อยกว่า ดังนั้นเมื่อ Animag หยิบจับมังงะมาทำก็แปลว่ามีอะไรน่าสนใจแน่นอน
เช่นเดียวกันกับเรื่อง ‘พาลาดิน ยอดอัศวินจากแดนไกล’ ฉบับมังงะที่ทาง Animag เพิ่งเปิดตัวไม่นานนัก กับเรื่องราวของ วิลเลียม เด็กหนุ่มที่มีครอบครัวผิดแปลกจากคนทั่วไป เพราะผู้ปกครองของเขาคือ นักรบโครงกระดูก, มัมมี่หญิง และวิญญาณจอมเวท แต่ทั้งสามก็เลี้ยงดูกับฝึกฝนวิลเลียมจนกลายเป็นนักรบที่มความเก่งกล้า อย่างไรก็ตามวิลเลียมมีความลับหนึ่งที่เขาไม่ได้เปิดเผยกับใคร นั่นก็คือแท้จริงแล้วเขาเป็นชายที่มีความทรงจำของชาติก่อนอยู่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงยอมรับชีวิตใหม่และฝึกฝนตนเองอย่างตั้งใจ เพื่อปกป้องคนสำคัญของพวกเขา
ดูเผินๆ งานเรื่องนี้อาจจะเป็นการตามเทรนด์แนว อิเซไค หรือกลับชาติมาเกิดใหม่ แต่จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่การค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ของตัวเองกับผู้คนเสียมากกว่า และจุดนี้ล่ะที่ทำให้ผลงานเรื่องนี้มีความโดดเด่นและมีตัวตนไม่แพ้ผลงานดังเรื่องอื่นๆ เลย
บรรยากาศญี่ปุ่นจัดเต็มที่ Phoenix
เห็นโลโก้วิหคเพลิง กับบูธที่ตั้งใจทำบรรยกาศให้ญี่ปุ่นสุดๆ ก็รู้ทันทีว่า นี่มันต้องเป็นบูธของ Phoenix หรือ คาโดคาวะ อมรินทร์ นั่นเอง และตามวิสัยของค่ายนี้ก็จะวางขายหนังสือในช่วงที่จะมีอนิเมะฉายอยู่บ่อยครั้ง
เช่นเดียวกับครั้งนี้ ที่พวกเขาเปิดตัว มังงะเรื่อง ‘มิเอรุโกะจัง ใครว่าหนูเห็นผี’ มังงะที่เล่าเรื่องของ มิโกะจัง สาวน้อยที่มีพลังพิเศษทำให้เธอเห็นผีได้ แต่เจ้าตัวพย๊ายามพยายามทำตัวปกติ เพราะเธอพอจะนึกออกว่าเหล่าผีนั้นเหมือนจะต้องการอะไร เรื่องราวสุดหรรษาแต่เต็มไปด้วยความสยองขวัญจึงเริ่มต้นขึ้นซะงั้น
ส่วนใครที่เล็งแพ็คพิเศษอื่นๆ จากค่ายนี้ก็อย่ารอช้ากันนะ เพราะเราเห็นแฟนคลับบุกมารอซื้อแพ็คเหล่านั้นอย่างดุเดือดเสมอ!
เข้าคิวสักพักแถว Siam Inter Comics
ท้ายสุด แต่อาจจะไม่สุดท้าย ก็คือการแวะไปดูบูธของสยามอินเตอร์คอมิกส์ที่มักจะมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดหากเทียบกับบูธที่ขายหนังสือกลุ่มเดียวกัน
เล่มแรก หมุดหมายสำคัญของวงการมังงะทั้งโลกเลย กับ ‘One Piece เล่ม 100’ ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความโด่งดังของเหล่ากลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่เดินทางมาไกลขนาดนี้ นอกจากนั้น ตัวรวมเล่มที่ 99, 100 และ 101 จะสามารถนำเอาปกมาต่อกันเป็นภาพขนาดใหญ่ได้ด้วย
อีกเล่มหนึ่งที่เป็นงานใหม่และอยากจะแนะนำจากบูธนี้ ถือเป็นหนังสือที่ท้าทายคนอ่านการ์ตูนกันเล็ก กับผลงานเรื่อง ‘Chi No Wadachi สายเลือดวิปริต’ มังงะที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของ แม่ กับ ลูก ที่ภายนอกแล้ว ดูเป็นคู่ที่สนิทสนมกัน จนบางคนอาจจะบอกกล่าวว่า ผู้เป็นแม่นั้นอาจจะปกป้องลูกมากเกินไปหน่อย แต่ในความทรงจำแรกของลูกที่จดจำเรื่องแม่ได้ กลับเป็นการที่ทั้งสองคนลูบไล้ไปบนศพของแมว และไม่นานนักเด็กชายก็ได้พบว่าแม่ของตนอาจจะยอมก่อเหตุร้ายแรงด้วยสีหน้านิ่งเฉย เพื่อไม่ให้ลูกชายต้องโดนดูถูก พร้อมกับคำถามที่ชวนให้คิดว่า การกระทำของผู้เป็นแม่นั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของความรัก หรือนั่นเป็นอารมณ์แบบอื่นที่น่าสะพรึงกลัวกว่านั้น
อาจารย์ ชูโซ โอชิมิ (Shuuzou Oshimi) เป็นนักเขียนที่มักจะจับเอาเรื่องราวที่ไม่ยากและเข้าใจได้ง่าย มาบิดแล้วให้ดูอีกมุมหนึ่ง อย่างที่เห็นได้จากผลงานก่อนหน้าอย่าง รักโรคจิต (Aku No Hana) และในสายเลือดวิปริตนั้นมีการขยี้เรื่องราวด้วยจังวะภาพ ที่แม้จะช้า แต่ก็มั่นคงในการบิดหัวใจผู้อ่าน แม้ว่าเรื่องราวอาจจะเดินหน้าไม่มากนัก แต่มันก็ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเหมือนตัวเอกที่ต้องมีความรู้สึกหน่วงหนักในใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าผลงานนี้อาจจะเหมาะกับนักอ่านผู้ใหญ่มากกว่า แต่นี่ก็ถือเป็นผลงานที่ท้าทายประสบการณ์ของผู้อ่านการ์ตูนไม่มากก็น้อย
ทั้งหมดนี้ ที่เห็นหายไปบางสำนักพิมพ์ก็มีเหตุมาจากในตอนนี้ บางสำนักพิมพ์ที่ละไว้ไม่ได้ประกาศเรื่องใหม่ออกมา และถ้าหากเราเอารายชื่อของหนังสือเล่มต่อ มารวมกันทริปงานหนังสือทิพย์ครั้งนี้ ก็เกรงว่าจำนวนบรรทัดจะยาวเกินไปคล้ายคนแบกหนักสือจนหนักในงานจริงนั่นเอง และถ้ามีหนังสือแนวมังงะ-ไลท์โนเวล เรื่องไหนน่าสนใจ ก็มาแนะนำกันในส่วนช่องคอมเมนท์กันได้นะ
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจาก
YouTube Channel: Eak SummerSnow
YouTube Channel: AVA Japan