ในช่วงเวลาที่มืดมิด การมีใครสักคนช่วยส่องแสงสว่างให้เรามองเห็นลู่ทางมากขึ้น ก็คงจะรู้สึกดีไม่ใช่น้อย หรือแม้กระทั่งการที่เราเองได้กลายเป็นแสงสว่างให้กับใครสักคน ช่วยให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลาอันโหดร้ายไปได้ ก็คงจะรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก
หรือจะเรียกได้ว่าเป็น ‘Saving Grace’ คนที่ยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือ มารับฟัง มาปลอบใจ จนเราไม่รู้จะตอบแทนความรักและความใจดีของเขายังไงให้เพียงพอ
ซึ่งสถานการณ์โรคระบาดตอนนี้ ก็ได้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะระดับเล็ก หรือใหญ่ และสิ่งเยียวยาจิตใจก็ค่อยๆ ลดน้อยลงทุกที ความสุขที่เคยมีก็ถูกจำกัดด้วยคำว่าการกักตัว เคอร์ฟิว เว้นระยะห่าง หรือปิดให้บริการ
จนในที่สุด ‘Kodaline’ วงอัลเทอร์เนทีฟร็อคสัญชาติไอแลนด์ ก็ได้ปล่อยอัลบั้มใหม่ ‘One Day At A Time’ ออกมา ท่ามกลางความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวง เพื่อหวังว่าจะเป็น saving grace แก่คนฟัง ให้ ‘ค่อยๆ’ จัดการปัญหาทีละเรื่อง และใช้ชีวิตอย่างค่อยเป็นค่อยไปเหมือนชื่ออัลบั้ม จนกว่าเหตุการณ์ร้ายๆ เหล่านี้จะผ่านพ้น
The MATTER ได้พูดคุยกับมือกลองของวง วินนี่ เมย์ (Vinny May) ผ่านอีเมล ถึงที่มาที่ไปของอัลบั้มใหม่ การทำเพลงในช่วงสถานการณ์โรคระบาด และความคลาดเคลื่อนของแพลนต่างๆ ที่เคยวางไว้ จนออกมาเป็นอัลบั้มเพลงที่เป็นสิ่งเยียวยาจิตใจให้กับใครหลายๆ คนที่กำลังรู้สึกเหงา เศร้า และหว่าเว้จากเรื่องร้ายๆ ที่เพิ่งเผชิญ
ธีมของอัลบั้ม ‘One Day At A Time’ เป็นยังไง ทำไมถึงเลือกใช้ชื่อนี้?
อัลบั้มนี้เต็มไปด้วย ‘พลังบวก’ กับ ‘ความหวัง’ ครับ สำหรับพวกเรา เพลงแต่ละเพลงเป็นตัวแทนของอารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน และสิ่งที่พวกเราได้ก้าวผ่านมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผมว่าคนที่ได้ฟังเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม คงจะเข้าใจว่าแต่ละเพลงเกี่ยวกับการรับมือกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต โดยที่ไม่รู้สึกท่วมท้นจนเกินไป
อย่างเพลง Sometimes ก็สื่อถึงการที่บางครั้งเราอาจจะหลงทางบ้าง ทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่สุดท้ายเราจะผ่านไปได้ เพราะทุกๆ วันเรามีโอกาสในการต่อสู้เสมอ หรือเพลง Whenever You Are ก็คือเพลงที่ปลอบคนสำคัญ ไม่ว่าโลกนี้จะใจร้ายกับเขาแค่ไหน ก็ยังมีเราอยู่ข้างๆ เสมอ ซึ่งพวกเรารู้สึกดีมากที่ได้เขียนเพลงเหล่านี้ขึ้นมา
มีอะไรพิเศษในอัลบั้มนี้บ้างมั้ย?
เหมือนกับอัลบั้มที่ผ่านมา ก็คือมีแค่พวกเรา 4 คนในสตูดิโอที่ดับลิน เพราะงั้นเพลงทุกเพลงก็เลยมาจากอารมณ์ร่วมของพวกเรา นี่แหละคือสิ่งที่พิเศษ
พูดถึงเพลงใหม่กันบ้าง ‘Saving Grace’ ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน? เกี่ยวกับช่วงเวลาที่ยากลำบากของใครสักคนหรือเปล่า?
เพลงนี้เกี่ยวกับคนพิเศษในชีวิตที่คอยอยู่ข้างๆ และช่วยเหลือเวลาเราผ่านเรื่องแย่หรือดี หรือใครบางคนที่เรามองหาเวลาต้องการกำลังใจ หรือความมั่นใจ เป็นความรักแบบที่ไม่มีเงื่อนไข อย่างของผมก็คงเป็นครอบครัว ภรรยา และเพื่อนๆ เพราะพวกเขาอยู่ข้างๆ ให้ผมได้พึ่งพิงเสมอไม่ว่าจะเรื่องไหน และผมคิดว่าทุกคนควรมีใครสักคนที่เรียกว่าเป็น saving grace ของตัวเองได้
“เมื่อไหร่ที่คุณยอมแพ้กับทุกสิ่ง
หรือเหนื่อยกับความคาดหวัง
ฉันจะอยู่ตรงนั้นข้างๆ คุณ”
Saving Grace – Kodaline
มีเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มที่อยากแนะนำมั้ย?
ผมอยากแนะนำทุกเพลงเลย เพราะแต่ละเพลงมีความพิเศษของมันซ่อนอยู่ แล้วมันก็คงจะออกมาเป็นเพลงๆ นั้นไม่ได้ หากพวกเราไม่ได้ใส่ความรัก หรือความเชื่อลงไป ก็เลยอยากให้ทุกคนได้สัมผัสกับสิ่งที่เราตั้งใจจะสื่อผ่านเพลงทุกเพลง
พูดถึงการทำอัลบั้มใหม่ สถานการณ์โรคระบาดทำให้การทำงานของพวกคุณเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?
ไม่มีครับ เป็นเรื่องที่น่าขอบคุณมากที่พวกเราทำอัลบั้มเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ยุโรป ก่อนหน้าที่สถานการณ์จะแย่ลงแค่แป๊บเดียว ดังนั้น มันเลยพร้อมจะปล่อยให้ทุกคนได้ฟังในวันที่ 12 มิถุนายนนี้
มีแผนอะไรที่วางไว้ แต่ผิดพลาดเพราะสถานการณ์โรคระบาดหรือเปล่า?
มีครับ ก็เหมือนกับทุกๆ คนนั่นแหละที่ต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน แต่ผมว่าที่ผ่านมาพวกเราก็ได้พยายามอย่างหนัก เพื่อรักษาสิ่งต่างๆ ให้อยู่เป็นที่เป็นทางมากที่สุด ที่ชัดๆ เลยก็คือพวกเราก็มีการเปลี่ยนแผนโปรโมตอัลบั้ม เนื่องจากเดินทางไปสถานีวิทยุ หรือรายการโทรทัศน์ไม่ได้ หลายๆ อย่างเลยย้ายไปอยู่ใน live session บนอินสตาแกรม หรือเฟซบุ๊กแทน แล้วการสัมภาษณ์ก็จะเปลี่ยนมาอยู่บนโปรแกรม Zoom ซึ่งเราก็ต้องใช้เวลาคุ้นชินกับมันนิดนึง
คิดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีหรือแย่ในการปล่อยอัลบั้มใหม่?
จริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นใครในอุตสาหกรรมเพลง สำหรับพวกเรามันเป็นการตัดสินใจที่คิดว่าถูกต้องแล้ว เพราะพวกเราปล่อยเพลงออกมาก่อนหน้านี้ 2 เพลงแล้ว เลยรู้สึกว่าไม่ควรหยุด หรือถอยกลับตอนนี้ แล้วช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ผู้คนก็ติดอยู่ในบ้าน นั่งเสพสื่อไปวันๆ ดังนั้น พวกเราจึงอยากปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ ให้พวกเขาได้ฟังแก้เบื่อ บวกกับพวกเราไม่ได้ทำเพลงใหม่มาสักพักแล้ว ก็เลยตื่นเต้นที่จะปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน
เศร้ามั้ยที่ปล่อยอัลบั้มออกมา แต่ไม่มีโอกาสได้ออกทัวร์หรือเห็นผลตอบรับจากแฟน?
ที่สุดเลยครับ เพราะช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ ตอนที่พวกเราเล่นดนตรีสด แล้วก็ได้ยินเสียงเพลงของแฟนๆ ร้องตามไปด้วย มันคงจะดีที่ได้เห็นปฏิกิริยาของพวกเขาว่าเป็นยังไง มีความสุขมั้ย ยิ้มได้หรือเปล่า ซึ่งตอนนี้มันเศร้ามากๆ เลยที่พวกเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แต่เวลานี้พวกเราก็ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ก็หวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติเร็วๆ นี้ เพราะพวกเราอยากเจอแฟนๆ แทบแย่แล้ว
“ตอนที่โลกเริ่มอยู่ยากขึ้น
ฉันจะไปในที่ที่คุณอยู่
วิ่งผ่านความมืดมิด
ไปยังที่ที่คุณอยู่”
Whenever You Are – Kodaline
แล้วหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นล่ะ อยากทำอะไรกันบ้าง?
พวกเราจะทัวร์ให้ตายกันไปข้างนึงเลย พอจบทัวร์ก็ทำเพลงใหม่ออกมาเรื่อยๆ ทันทีที่สมาชิกกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันที่สตูดิโอ
ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้คนจะต้องการสิ่งที่เป็น ‘Saving Grace’ ให้กับพวกเขา ขณะที่กำลังผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก พวกคุณหวังว่าเพลงและอัลบั้มใหม่ของพวกคุณจะช่วยพวกเขาได้ยังไงบ้าง?
นั่นเป็นความใฝ่ฝันและเป้าหมายของพวกเราเลยครับ ผมหวังว่าเสียงเพลงและดนตรีของพวกเราจะช่วยทุกคนให้ทุกคนผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้ หรือมีความหวังในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด เพราะเสียงเพลงก็ช่วยชีวิตพวกเราไว้หลายครั้งเช่นกัน และคงจะดีมากถ้าได้ยินจากปากแฟนๆ ว่าเพลงเหล่านี้ได้ช่วยให้พวกเขาผ่านช่วงเวลาที่อกหัก หรือกลายเป็นเพลงรักในงานแต่งของใครสักคนได้ มันคงจะน่าเหลือเชื่อมากๆ เลย