หลังจากห่างหายไป 3 ปี ในที่สุดพวกเขาก็คัมแบ็คแบบสม ‘สักสี’ ตามชื่อ ‘Tattoo Color’ วงป๊อปที่อยู่ในใจใครหลายคนตลอดกาล ไม่ว่าจะเพลงเร็ว หรือเพลงช้า ทั้ง ‘ฟ้า’ ‘ฝากที’ ‘ขาหมู’ ‘ซินเดอเรลล่า’ ‘เธอไม่อาจเอารักไปจากหัวใจ’ ‘รถไฟ’ ‘เผด็จเกิร์ล’ ที่ ‘เปิดเพลงไหน เปิดเมื่อไหร่ ก็ยังสวยงาม’
และล่าสุด พวกเขาก็ได้หยิบเอาภาษาถิ่นอย่าง ‘ภาษาอีสาน’ มาผสมผสานในเนื้อร้อง จนเกิดเป็นความแปลกใหม่ เรียกว่า ‘ป๊อปอีสาน’ ผ่านบทเพลงชื่อ ‘เซาเถอะ’ ที่รับประกันได้ว่าไม่จำเป็นต้องเกิดภาคอีสานก็ฟังรู้เรื่อง และถึงแม้จะเป็นอัลบั้มที่ 6 แต่พวกเขาก็ยังคงเอกลักษณ์ความสนุกสนานแบบแทททูคัลเลอร์เอาไว้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่เหมือนใคร เพราะเพียงแค่อินโทรขึ้นก็จำได้แม่นว่า นี่แหละ! แทททูคัลเลอร์ล่ะ!
เอ้า เว่าก็เว่าเถาะ มื้อนี้ The MATTER กะเลยเซิญอ้ายๆ 4 คน ทั้งอ้ายดิม (หรินทร์ สุธรรมจรัส – ร้องนำ) อ้ายตง (เอกชัย โชติรุ่งโรจน์ – กลอง) อ้ายรัฐ (รัฐ พิฆาตไพรี – กีตาร์) และอ้ายจั๊มพ์ (ธนบดี ธีรพงศ์ภักดี – เบส) มานั่งเว่ากันที่บริษัทว่าชีวิตที่ผ่านมาเป็นจั้งได๋ แล้วอัลบั้มต่อไปสิม่วนคักม่วนแหน่แท้ๆ บ่ เซิญติดตามกันได้ในบทสัมภาษณ์ข้างล่างเลยเด้อ
(แปล : อะ จะว่าก็ว่าเถอะ วันนี้ The MATTER เลยเชิญทั้ง 4 คนมานั่งคุยกันที่บริษัทว่า ชีวิตที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง แล้วอัลบั้มต่อไปจะสนุกจริงมั้ย เชิญติดตามกันได้ในบทสัมภาษณ์เลย)
(คำเตือน : บทสัมภาษณ์นี้อาจมีคำหยาบเยอะหน่อย เพราะพูดคุยภาษามิตรภาพเนอะ)
The MATTER : จากอัลบั้มล่าสุด ‘สัตว์จริง’ จนมาถึงตอนนี้ หายไปทำอะไรกันมาบ้าง
ตง : ทัวร์คอนเสิร์ตยาวเลยครับ พออัลบั้มที่แล้วออก เราก็ทัวร์คอนเสิร์ตมาจนถึงปีที่แล้ว จากนั้นก็วางแผนทำอัลบั้มใหม่ในปีนี้ พอปล่อยเพลงปั๊บก็ติดโควิดเลย
The MATTER : พอปล่อยเพลงออกมาช่วง COVID-19 พบเจอกับความลำบากยังไงบ้าง
ตง : ไม่มีที่ให้เล่น ไม่ได้เจอแฟนเพลง ไม่ได้เล่นสดให้พวกเขาดูครับ คือเราเตรียมโชว์ไว้เยอะเลย
ดิม : ด้วยความที่เพลงใหม่เป็นเพลงเร็ว ความสนุกสนานของเพลงเร็วก็คือต้องมีคนเต้น แต่พอคนไปอยู่ที่หน้าจอ เราก็คิดถึง อย่างซิงเกิ้ลที่เพิ่งปล่อยก็เป็นเพลงเร็วทั้งคู่ ทุกคนเลยคิดถึงแฟนเพลง คิดถึงการเต้นอะไรพวกนี้มากกว่า ส่วนเรื่องรายได้มันหายไปอยู่ละ แต่เราก็พยายามจะไลฟ์ พยายามจะเจอแฟนๆ ทางเพจแทน
The MATTER : อัลบั้มนี้ตั้งใจวางคอนเซ็ปต์ไว้ว่ายังไง แล้วใครทำหน้าที่อะไรบ้าง
รัฐ : เป็นอัลบั้มที่เราเริ่มเพลงด้วยกันทั้งหมดเลย ขึ้นเพลงด้วยกัน ทั้งเนื้อร้องและทำนอง นั่งหาเมโลดี้ด้วยกัน 4 คน
ดิม : เป็นชุดแรกที่ร่วมมือกันทำ 4 คน ทุกพยางค์ ทุกเมโลดี้ ปกติชุดเก่าๆ จะเป็นรัฐแต่งเนื้อเพลงและเรียบเรียงคร่าวๆ ในหัว แล้วมาเจอกันที่ห้องซ้อม แต่อัลบั้มนี้เรียบเรียงเนื้อร้องและทำนองพร้อมกันเลยทุกคำ ก็จะเป็นชุดที่สนุกสนานขึ้นมาเยอะเลย
The MATTER : เห็นปล่อยออกมา 2 เพลงแล้ว ทั้ง ‘ร้อนของ’ และ ‘เซาเถอะ’ ซึ่งเป็นเพลงจังหวะสนุกทั้งคู่ เพลงต่อๆ ไปจะมีเพลงเศร้า หรือเพลงอกหักให้ได้ฟังหรือเปล่า
ดิม : เพลงช้ามีอยู่แล้วครับ แต่จะเป็นเพลงเศร้า เพลงอกหักมั้ย เดี๋ยวรอดู แต่ชุดแรกๆ ที่เราปล่อยไปจะเป็นเพลงเร็วซะส่วนมาก เพราะวางแผนไว้ว่าอยากได้เพลงเร็ว ที่ผ่านมาเพลงช้ามีเยอะแล้ว
The MATTER : พูดถึงที่มาของเพลง ‘เซาเถอะ’ หน่อย ทำไมต้องเซาเถอะ แปลว่าอะไร มีที่มายังไง
รัฐ : อย่างที่บอกว่าเพลงนี้เราขึ้นกัน 4 คน แล้วเราอยากได้เพลงที่สนุก ก็เลยนึกถึงจังหวะหลักที่เป็นเสียงปรบมือ แปะ แปะ แปะ ขึ้นจากสิ่งนี้ก่อน แล้วก็มาดูว่าจะเป็นเมโลดี้แบบไหน จากนั้นผมก็นึกถึงภาพคนในโบสถ์คนดำ ที่ร้องเพลงแล้วปรบมือ แล้วเพลงในโบสถ์ก็จะมีเพลงแนวกอสเปลที่โต้ตอบกัน เราเลยคิดถึงเมโลดี้แบบนี้ มันก็ไปกับเสียงปรบมือได้ แล้วก็ยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้
จากนั้นก็เลยคิดต่อว่า ถ้าเมโลดี้เป็นแบบนี้ เนื้อจะต้องเป็นแบบไหน ดิมเลยพูดขึ้นมาว่า แม่อยากให้ทำเพลงภาษาอีสานบ้าง เพราะเราเป็นคนขอนแก่น ซึ่งใจเราก็คิดเรื่องนี้เหมือนกัน มันก็ดูเหมาะดีนะ เรามองว่ามันก็สนุกๆ จังหวะเพลงที่โต้ตอบก็สนุกละ ใส่ความเป็นอีสานเข้าไปก็น่าจะสนุกปะวะ ก็เลยมาหาคำกัน
ก่อนจะได้คำว่าเซาเถอะ ก็มีคำว่า ‘เสี่ยวมึงบ่’ (อารมณ์ประมาณว่า ฉันเพื่อนเล่นแกหรอ) ‘เป็นจั้งได๋’ มีเยอะมาก ก็เลยออกมาพักข้างนอกก่อนแป๊บนึง ก็เลยมีคำนึงผุดขึ้นมา เป็นคำที่ดูสบายๆ ที่เราชอบใช้แซวกัน นั่นก็คือ ‘เซา’ ที่แปลว่า พอ/พัก สมมติดิมกินเหล้าเยอะ ก็บอกว่า ดิม เซาได้ก็เซาเด้อ เพลาๆ บ้าง เลยกลายเป็น พอเซาก็เซา พอทำไปทำมา ฟังดูเหมือนคนภาคอื่นน่าจะฟังเป็นคำว่า เศร้า ได้เหมือนกัน ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ไป
จั๊มพ์ : คนไม่รู้ฟังเป็น เศร้าเถอะ ก็ได้นะ
The MATTER : นอกจากใช้ภาษาอีสาน ในพาร์ทดนตรีใส่ความเป็นอีสานเข้าไปด้วยหรือเปล่า
รัฐ : ก็ใส่ความเป็นแทททูคัลเลอร์เข้าไป ดิสโก้เอย ท่อนตอนท้ายที่ไดรฟ์ขึ้นหน่อย แล้วก็มีโซโล่ ใส่พิณเข้าไป ก็เลยมีทั้งเสียงปรบมือแล้วก็ความอีสาน
จั๊มพ์ : จริงๆ เสียงเป็นกีตาร์ ที่มี accent คล้ายๆ พิณ
รัฐ : ฝึกนานมาก เพราะเราก็ไม่เคยชินกับอะไรแบบนี้หรอก
ตง : จ้ะ จ้ะ
The MATTER : แต่เราก็โตที่ขอนแก่น อยู่ในวงการเพลงมานาน ทำไมเพิ่งจะเริ่มทำเพลงที่มีภาษาอีสานล่ะ
รัฐ : มันหาจุดลงตัวไม่ได้ ตอนที่เราเขียนเพลงนี้ขึ้นมา ก็สนุกกับมันมากๆ แต่ก็ต้องวางกรอบตัวเองว่า เราจะไม่ให้มันเป็นเพลงอีสานแบบลูกทุ่ง หยิบความอีสานมาทั้งดุ้น หรือพูดถึงความที่เราเป็นอีสานผู้ต้อยต่ำ เจ้าก็เลยไม่มัก ฮักกันบ่ได้ดอก อะไรอย่างเงี้ย เราอยากให้มันร่าเริงกว่านั้น
ตง : อีสานแม่งเจ๋งเว้ยยย
รัฐ : เราก็เลยผสมคำไทยกับคำอีสาน ให้มันดูสนุกๆ
The MATTER : เห็นใน MV มีเอาเนื้อเพลงไปแปลเป็นภาษาอื่นด้วย ร้องเป็นภาษาอื่นได้มั้ย
รัฐ : ไม่ได้ครับ คือ…
ดิม : ได้หมดครับ ได้ทุกภาษา จะเอาภาษาอะไรได้หมดเลย
The MATTER : เกาหลี
ดิม : เอสปรานาเตร
รัฐ : เวนิส
ดิม : อิสปรานาเตรเตร่
รัฐ : ญี่ปุ่น
ดิม : จูชวงนีจี
รัฐ : จีนไม่ใช่เหรอ
ดิม : โทษนะ จีนพ่อมึง กูพูดไม่ได้ซักคำ ไอ้เหี้_
รัฐ : เออ ฟังไม่ออก แต่ไปเถียงว่าเป็นภาษาจีน
ตง : เห้ย ฟังออกๆ ได้เป็นสำเนียง
รัฐ : ในวิดีโอเราต้องมีการแปลภาษาอีสานเป็นภาษาไทยอยู่แล้ว อย่างท่อน พอเซาก็เซา แปลว่า พอก็พอ แต่ส่วนที่เป็นภาษาไทย จะแปลว่าอะไรดี ก็เลยใส่ภาษาอื่นเข้าไป
The MATTER : ภาษาอีสานมีประโยคแปลกๆ ฮิตๆ เยอะเนอะ อย่างช่วงนี้คนชอบพูดคำว่า ‘อย่าหาทำ’
จั๊มพ์ : แล้วมันแปลว่าอะไรอะ ปกติไม่พูดอีสาน
ดิม : แปลว่า อย่าไปหาเฮ็ด หาหน่อไม้ดีกว่า
รัฐ : คนละเห็ด!
จั๊มพ์ : นึกว่าอย่าใช้หำคิด อะไรแบบนั้นอะ
ดิม : ทำไมมันแปลแบบนั้นได้วะ อ๋อ อย่าหาทำ อย่าหำทา
จั๊มพ์ : เออ
The MATTER : แล้วเพลงเซาเถอะมีท่าเต้นมั้ย
ดิม : เรามีชาเลนจ์ให้เต้น แต่ไม่มีท่ามาสเตอร์
รัฐ : จะมีที่ตงเต้นให้ดูเฉยๆ แต่ไม่ใช่ท่าประจำของเพลง ไม่ได้แบบ เลิฟวิ่ง ยู ทู มัช อะไรแบบนี้
ดิม : ใครที่เต้นเก่ง ใครที่สร้างสรรค์ ใครที่ตลก ก็สมัคร Tik Tok มาชาเลนจ์กัน
The MATTER : สรุปตงได้รางวัล
ดิม : ใช่ เพราะไม่มีใครสมัครเลย
The MATTER : กลับมาพูดถึงความอีสานอีกนิดนึง ในฐานะที่เป็นคนขอนแก่น ขายจังหวัดนี้นิดนึงว่ามีเสน่ห์ยังไง
จั๊มพ์ : บ้านผมอยู่ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมก็เลยชอบบรรยากาศในนั้น เพราะมันเป็นมหาลัยที่เป็นป่า พื้นที่ของต้นไม้เยอะ ร่มเย็น สบาย ยิ่งตอนหน้าหนาว ขับมอไซค์ใส่ พรวดดดดด โฮกกกกกกกก เป็นความเย็นที่กรุงเทพไม่มีทางได้เจอ
ดิม : คุณรัฐชอบอะไรที่ขอนแก่นครับ เหล้า?
รัฐ : เหล้ามันมีทั้งโลก สองสามพันปีเขาก็มี ขุดไหเขาก็เจอ…ผมชอบไหของขอนแก่น ไอสั_ ไม่ใช่ เคลิ้มเลย
ทุกคน : 5555555555
รัฐ : ผมว่าผู้หญิงขอนแก่นสวย
ตง : วงเล็บด้วยนะครับว่ารัฐพูด
รัฐ : อาจจะเป็นเพราะผมเกิดที่ขอนแก่น แล้วไปโตที่ลำปาง สาวเหนือก็สวยแหละ ก็ขาวๆ หมวยๆ แต่พอกลับมาขอนแก่น ผมตัดสินใจแล้วว่าสาวขอนแก่น…
ตง : มีความหลากหลายทางพันธุกรรมมากกว่า
รัฐ : กูคิดถึงชื่อต้นไม้เลย
ทุกคน : 5555555555
รัฐ : คนอีสานมีผสมนู่นผสมนี่เยอะ ไทย จีน ลาว เวียดนาม ผมว่าดูมีมิติดี
ดิม : ผมชอบอาหารครับ อาหารบ้านเราถูกปากที่สุดละ เวลากลับขอนแก่นทีก็คือ ร้านอาหารเต็มไปหมด
ตง : ไปไม่หมดด้วยแหละ เยอะเกิน
ดิม : ไม่ต้องเสือ_
ทุกคน : 5555555555
ตง : อะไรวะ
The MATTER : แล้วมีเมนูที่ชอบเป็นพิเศษมั้ย
ดิม : ลาบเป็ดจ่าบาวครับ
รัฐ : แต่เค้ามาจากอุดรหรือเปล่า
ดิม : ทำไมอะครับ มีมุกอะไร
ทุกคน : 5555555555
ตง : ผมชอบบรรยากาศและผู้คน
ดิม : อะ ครับ คำถามต่อไปเลยครับ
ทุกคน : 5555555555
รัฐ : คนนึงชอบบรรยากาศ คนนึงชอบคน อันนี้เอาทั้งบรรยากาศและคนเลยหรอ
ตง : ไม่ ผมชอบอัธยาศัยของผู้คนที่นี่ น่ารักๆ เค้าเรียกว่า ไปที่ไหนก็มีแต่คนต้อนรับ
ดิม : ถูกใจร้านไหน เขาก็เรียกมึงหมดแหละ (ทำท่าโบกๆ)
ตง : ไปกับพวกมึงนั่นแหละ เอ้อ แล้วก็ร้านยำหน้าโรงเรียนขอนแก่นวิทยายนด้วย
The MATTER : ถามเกี่ยวกับการแต่งเพลงในยุคนี้ การจะแต่งเพลงให้ฮิตติดหูคนฟังมันยากมั้ย
รัฐ : ผมว่ายากนะ
ดิม : มึงจะเล่นใช่มั้ย
รัฐ : อะ กูไม่เล่นละ
ดิม : ปกติการเขียนเพลง บางทีก็ต้องใช้กระดาษหรือไอแพด สมมติถ้าจะเขียนให้ถูกหูคนฟัง ก็เนี่ย (ยกมือทาบหูรัฐ) มันไม่มีพื้นที่
รัฐ : แต่วิธีทำให้เพลงให้ติดหู ถ้ามีเทปมันก็ติดได้
The MATTER : …………….
รัฐ : แต่อย่าทำเพลงให้ขัดหูนะ
จั๊มพ์ : ขัดยังไงวะ 5555555555
ดิม : คืออย่างงี้ (กว่าจะเข้าเรื่อง) ต้นทุนของแทททูคัลเลอร์เนี่ย พวกเราชอบเพลงคล้ายๆ กันอยู่แล้ว พอทำเพลงออกมา ถ้าฟังแล้วชอบ เราก็เลยคิดว่าน่าจะอยู่ในมาตรฐานที่คนอื่นก็ชอบด้วย ไม่รู้เหมือนกัน มันก็เป็นเพลงป๊อปอยู่แล้ว
รัฐ : เราทำเพลงในหมวดหมู่ป๊อปอยู่แล้ว หรือจะมองเป็นอินดี้ป๊อปก็ได้ แต่ตอนเราขึ้นเพลง เราไม่เคยคิดว่าจะต้องทำอย่างงั้นอย่างงี้
ตง : คิดแค่ว่า มาทำเพลงให้สนุกกันเถอะ
รัฐ : สนุกกันเอง แต่ก็อยู่บนขอบเขตของความพอดี หรือเป็นอะไรที่เป็นแทททูคัลเลอร์ ไม่ได้ทำแบบ EDM หรือโครมคราม ก็เป็นเพลงที่เราชอบ เราก็เลยไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องทำให้เป็นเพลงฮิตยุคนี้ ต้องมีนั่งตีโจทย์เพื่อทำตาม แต่เราก็ฟังเพลงฮิตเพื่อความสุขของเราเอง แล้วก็ศึกษาด้วย เรื่องดนตรี หรือวิธีคิดของคนยุคนี้ ก็เอามาใช้ในการทำงานบางส่วน แต่หลักๆ ก็เอาสนุกเรา แล้วเราแฮปปี้
ดิม : เอาสนุก เอาเพราะเราไว้ก่อน เพราะค่ายก็ค่อนข้างให้ขอบเขตเรากว้างอยู่ ทำให้เรากล้ามากขึ้น ด้วยความที่เรามีเพลงติดตลาดเยอะแล้ว ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ มาทำเพลงไม่ติดตลาดนะ แต่แค่ถ้าอยากทำเพลงเร็ว ก็ทำ
The MATTER : แล้วคิดว่าอะไรที่ทำให้เพลงของแทททูคัลเลอร์ดัง และคนฟังจำได้
รัฐ : น่าจะเพราะครับ
ดิม : เพราะอะไรครับ
รัฐ : เพลงเพราะไง
ดิม : ถ้าเป็นเมโลดี้ คนฟังน่าจะจำได้ เพราะเมโลดี้เป็นลายเซ็น จำง่าย
รัฐ : เพลงเพราะ ลายกีตาร์เพราะ
ตง : ไม่หรอก เพลงที่เราทำ เราชอบมัน แล้วบังเอิญว่าคนอื่นก็ชอบด้วย
The MATTER : คิดว่าตอนนี้อินดี้ขึ้นด้วยหรือเปล่า
รัฐ : ใช่ครับ จริงๆ มันเป็นความตั้งใจของเราด้วย เพราะตอนนี้มีวงป๊อปเยอะมาก เราก็เลยไม่อยากไปทับไลน์กับเขา แล้วมันก็มีอีกหลายแบบที่เราชอบ ถ้าเกิดเราไม่ทำ ก็คงไม่มีใครทำ แต่เราก็ยังมีความรับผิดชอบต่อสังคมอยู่
ตง : ไม่กะเลวกะลาด
รัฐ : ก็ซุกซน กวนตีน แต่อยู่ในขอบเขต
The MATTER : เคยได้ยินเพลงเก่าๆ ของตัวเองตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านเหล้ามั้ย รู้สึกยังไง
รัฐ : เคยครับ แล้วก็คิดในใจว่า ช้าชิบหายเลย เพราะตอนเราเล่น เราเล่นเร็วมาก
The MATTER : อยากกลับไปแก้ไขเพลงอะไรมั้ย
ตง : ไม่ครับ
รัฐ : รู้ว่ากลับไปแก้ไม่ได้ งั้นขอตอบว่าอยากไว้ก่อน
ตง : งั้นอยากแก้เพลง ฟ้า ครับ กลองมันไม่คมเท่าไหร่
จั๊มพ์ : ผมนึกถึงอัลบั้มตรงแนว ตรงแนว มีหลายเพลงที่อยากปรับแก้ เช่น เรือสำราญ คนสวย
รัฐ : ถ้าอยากแก้ เราก็มีโอกาสได้แก้บ้าง อย่างตอนเล่นสด เราก็ไม่ได้เล่นเหมือนในแผ่นซีดีหรอก ก็จะมีปรับนู่นปรับนี่ตลอด แต่ที่เจอตอนปรับคือเพลง คืนนี้สบาย รู้สึกคอร์ดมันเยอะไป
จั๊มพ์ : ขยันไง
รัฐ : คือใส่นู่นใส่นี่เยอะ คิดว่าดูเจ๋งไง แต่พอมาฟังดู มันแค่นี้เอง ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ หรืออย่างเพลงซินเดอเรลล่า เราก็เล่นตามแผ่นซีดีอยู่พักนึง แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นหมอลำ เป็นคันทรี่
จั๊มพ์ : ทุกวันนี้เป็นเวอร์ชั่นอะไรไม่รู้ งงๆ
ดิม : ถ้าเป็นผม ผมอยากเปลี่ยนมือกลอง
ตง : ………….
รัฐ : เราพูดได้หรอครับ
จั๊มพ์ : ถ้าไม่มีมือกลองก็จะได้หาร 3
ตง : ………….
The MATTER : แทททูคัลเลอร์เป็นวงที่ไม่มีการเปลี่ยนสมาชิกเดิมเลย…
รัฐ : ผลประโยชน์ครับ ถ้าผมรวยผมก็ไม่ทำแล้ว
ทุกคน : 5555555555
ดิม : ด้วยความที่มันคบกันมาตั้งแต่ม.4 ความเป็นเพื่อนมันแน่นมาก มันเปลี่ยนหรือเพิ่มไม่ค่อยได้หรอกครับ ทะเลาะกันแป๊บเดียวก็คุยกันแล้ว จริงๆ เราไม่มีเลขตายตัวหรอกครับ ถ้าความชอบไม่ตรงกันเราก็คงแตกไปนานแล้ว ก็อย่างที่บอก เราประสานกันด้วยมิตรภาพ แล้วเราก็อยากใช้ดนตรีเป็นอาชีพเลี้ยงตัวได้ แม้จะแก่เฒ่าไปแล้ว อย่างพี่ๆ พาราด็อกซ์ ที่มีงานอยู่ตลอด มีความเป็นเพื่อนกันอยู่ตลอด เลยไม่ค่อยมีเรื่องอะไรมาบาดหมางใจกันได้
จั๊มพ์ : คือเรามีกัน 4 คนแบบนี้ ถ้าให้ใครเข้ามาเพิ่มก็คงไม่รอด
ดิม : ใช่ อย่างเงี้ย ไอคว_ย (ด่าตง) ก็ไม่โกรธ
The MATTER : ไม่โกรธใช่มั้ย
ตง : ไม่โกรธคำ โกรธกลิ่น
The MATTER : อยู่ในวงการเพลงมา 10 กว่าปีแล้ว เราวางจุดยืนของตัวเองไว้ยังไง อยากให้คนจำแทททูคัลเลอร์แบบไหน
รัฐ : เราไม่ได้กำหนดแต่แรก เราแค่อยากจะทำเป็นอาชีพ เราไม่ได้คิดว่าเราจะต้องเป็นวงที่เก่งที่สุดในวงการ เราแค่อยากทำมันเป็นอาชีพได้
ดิม : ทำมาหากินได้
ตง : อยากให้คำว่านักดนตรีอาชีพเป็นนักดนตรีอาชีพจริงๆ
จั๊มพ์ : ให้คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ก็พอแล้ว
รัฐ : ที่เหลือเราทำงานกันเป็นอัลบั้ม เราก็มานะบากบั่นไปทีละอัลบั้ม
The MATTER : แสดงว่ายังไม่ตัดสินใจว่าเส้นทางดนตรีจะจบลงตรงไหน
ดิม : ไม่ได้คิดครับว่าจะจบตรงไหน
จั๊มพ์ : ไม่มีวาง
ตง : ไม่มีจุดจบครับ
รัฐ : มีคนไปสัมภาษณ์ พอล แม็กคาร์ตนีย์ ว่าไม่คิดจะเกษียณบ้างเหรอ เขาตอบแบบนี้นะ แปลเป็นไทยว่า จะให้ผมหยุดหรอ
ดิม : จา ใฮ พม หยุด รอ
รัฐ : อันนั้นเขาแปล เขาไม่ได้พูดภาษาไทย! แต่ผมก็คิดว่าผมจะหยุดทำไม ในเมื่อผมชอบเล่นดนตรี
ดิม : พม ฉอบ เลน ดน ตรี
จั๊มพ์ : พอแล้ววว!
รัฐ : ก็ยังทำงานได้ ยังเล่นได้อยู่
ตง : มันเหมือนเป็นงานที่ เกษียณคือไรวะ มันไม่เหมือนอาชีพอื่น
ดิม : เกษียณคือ 60 ปีไง ไอคว_ย
ทุกคน : 5555555555
The MATTER : ขำกันมามากพอแล้ว ทีนี้โปรโมทอัลบั้มกันบ้าง
จั๊มพ์ : เรือนแพชุดที่ 6 นะครับ เป็นอัลบั้มที่โคตรปั่น โคตรมันส์ โคตรดี ของแม่งโคตรดี รอติดตามไปเรื่อยๆ เพราะแม่งโคตรดี
ดิม : ตอนนี้แทททูก็มีการตอบเพจ ทำคอนเทนต์ไวรัลเยอะแยะไปหมด สามารถเข้ามาพูดคุย มาเล่น มาคอมเมนต์กันได้ครับ
สัมภาษณ์ไปก็ขำไป ขำจนปวดแข้ว เอ้ย ปวดฟัน ยังไงก็ฝากติดตามอัลบั้มใหม่ของวงป๊อปในตำนานวงนี้ เพราะบอกเลยว่าเป็นอัลบั้มที่ ‘โคตรหาทำ’ แล้วก็หวังว่าเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เราจะได้พบกับเพลงสนุกๆ และมุกตลกของพวกเขาบนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่เร็วๆ นี้