ทำของพังแต่ยังมานั่งทำตาแป๋ว จะดุอยู่แล้วแต่พอเห็นหน้าเจ้าหมาเจ้าแมวก็โกรธไม่ลง
The MATTER ชวนคนรักสัตว์เลี้ยง 8 คนร่วมแชร์วีรกรรมหมาแมว ว่าครั้งไหนที่คุณไม่มีวันลืมลง แล้ววีรกรรมสัตว์เลี้ยงคุณล่ะ ครั้งไหนแสบ เศร้า เหงา ซึ้งสุด
1. นิตยศิริ ศิริชัย
อาชีพ : เจ้าของร้านอาหาร
“ตอนนี้เรามีหมา 2 ตัว ชื่อเบลกับน้ำตาล ‘เบล’ เป็นหมาตัวแรก เป็นผู้หญิง สีน้ำตาล ‘น้ำตาล’ เป็นหมาตัวที่สองเป็นผู้ชาย สีขาวแซมดำ น้ำตาลนี่เป็นหมากินเก่งมากกกก น้ำตาลมักจะแย่งอาหารเบล เราเลยเอาอาหารเบลวางไว้บนโต๊ะกาแฟ ส่วนอาหารน้ำตาลจะอยู่บนพื้น ทีนี้ตอนให้อาหารเสร็จ พอหันไปอีกที น้ำตาลกินของตัวเองเสร็จแล้ว นางมีความพยายามไปกินอาหารเบลอีก ที่ตลกคือท่าทางการขโมยอาหารเป็นท่ายากมาก มีความยืดตัวสุดตัว ขาหน้าอยู่บนโต๊ะกาแฟ ขาหลังอยู่บนโซฟา พาดซะเป็นสะพานเลย”
2. นิศากร แก่นมีผล
อาชีพ : ฟรีแลนซ์
“มานี มีนาเป็นหมาบีเกิ้ลที่ไฮเปอร์และพลังงานเยอะมาก ต้องพาไปวิ่งหรือว่ายน้ำเพื่อสลายพลัง มีอยู่วันนึงก็พาทั้งคู่ไปวิ่งตอนเย็นปกติคิดว่าเหนื่อยแล้วแน่ๆ ก็พากันเข้าบ้านแล้วเราก็นั่งทำงานไปเรื่อยๆ เค้าก็เงียบมาก ปกติต้องเล่นต้องแหย่กัน เราก็นึกในใจว่าดีจังสงสัยวันนี้วิ่งเยอะ หมาๆ คงเหนื่อยสลบไปแล้ว ปรากฏว่าพอหันหลังกลับไป ช็อกเลยค่ะ! ภาพที่เจอคือของเกลื่อนห้อง ตุ๊กตาไส้แตก ตาหลุด กระจัดกระจายเต็มห้อง สองเด็กเอาของเล่นมาเทกระจาดเต็มไปหมด คืองานแม่ก็เยอะอยู่แล้วไหมลูก ทำไมทำกับแม่แบบนี้…”
3. พิลันดา รัตนอมรเลิศ
อาชีพ : โปรดิวเซอร์
“ตอนไข่หวานยังเด็กเราชอบหาอะไรมาให้มันลองกิน หนึ่งในนั้นคือขนมแมวเลีย ซึ่งป้อนแมวตัวไหนมันก็จะเลียอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ตอนแรกอีไข่ก็วิ่งเข้ามาเหมือนแมวตัวอื่นแหละ แต่ปรากฏว่าวิ่งเข้ามางับกลางซองจ้าาาา ไม่รอเลียทีละนิดแบบแมวตัวอื่น ตะกละมาก กัดจนทะลุแล้วทะลุอีก ขนมเลอะซองไปหมด เราไม่อยากให้มันเลอะ เลยพยายามเอานิ้วปาดหนมที่ล้นออกมา จังหวะนั้นมันงับเข้าที่นิ้วเรา โกรธมาก เลือดซิบ หลังจากนั้นไม่อยากจะป้อนอะไรอีไข่อีกเลย TT”
4. กมลพรรณ อมรเมฆินทร์
อาชีพ : นักศึกษา
“โห วีกรรมเยอะมาก ช่วยกันพังเก้าอี้ในบ้าน พังศาลเจ้าตี่จู่เอี๊ยะ ขึ้นไปขโมยตุ๊กตาจากบนห้องนอนลงมาซ่อนในซอกที่ตัวเองชอบซุก วันไหนนอนตื่นสายหน่อยจะมีหมามาเปิดประตูห้องแล้วกระโจนขึ้นมาบนเตียง ย้ำว่ากระโจน แล้วก็ย่ำๆ เราจนกว่าเราจะตื่น ที่จำไม่ลืมเลยคือมีวันนึงกลับบ้านดึก สักตีสามได้มั้ง นั่งอยู่เงียบๆ คนเดียวในบ้าน แล้วก็มีเสียงเหมือนคนหายใจเข้าแรงๆ อยู่ใกล้ๆ ฟืด ฟืด ฟืด กลัวมากคิดว่าโดนผีหลอกในบ้านตัวเอง เล่าให้คนในบ้านฟังทุกคนก็กลัว จนมีวันนึงเห็นกับตาว่าบนชั้นสองที่พื้นจะมีรูอยู่ตรงมุมห้อง หมาชอบเอาจมูกไปซุกมุมนั้นแล้วดมแรงๆ เหมือนอยากรู้ว่าในรูมีอะไร แต่รูนั้นมันทะลุกับชั้นล่างไง สรุปคือวันนั้นไม่ได้โดนผีหลอกแต่โดนหมาหลอก”
5. สุริยัน ดวงมูล
อาชีพ : ผู้ช่วยนายสัตวแพทย์ กรมปศุสัตว
“เคยตรวจกระเป๋าผู้โดยสารครับ ครั้งแรกๆที่ทำงานกับ ‘ฝรั่ง’ ครูฝึกบอกฝรั่งเก่ง ผมมั่นใจมาก แต่พอเปิดมาเป็นแค่รองเท้า ผมนี่หน้าเสียเลย อายมาก ผู้โดยสารก็หัวเราะใส่ ผมเลยพาเดินกลับมาเก็บในกรง ระหว่างทาง ฝรั่งหยุดที่กระเป๋าใบนึง ลากยังไงก็ไม่ไป นอนหมอบ มองหน้า ขอขนม เลยตัดสินใจ เอาวะ ขอผู้โดยสารคนนั้นเปิดกระเป๋าดู เจอไก่สดกับเนื้อวัวดิบ เป็นของห้ามนำเข้ามา ทำให้ผมต้องเปิดใจใหม่ว่าเราต้องเชื่อในสุนัขของเรา เราผิดเองที่ไม่เข้าใจการสื่อของเขา บางทีเขาอาจจะแค่สงสัย แต่ไม่ได้บอกว่ามีของต้องห้าม ทุกวันนี้ผมเลยสนิทกับฝรั่งมาก เพราะอยู่ด้วยกันตลอด และศึกษาน้องให้มากขึ้น”
6. รินรดา เกรียงวัฒนศิริ
อาชีพ : นักศึกษา
“ตอนนั้นโปรเจกต์งานสมัยปี 2 เพิ่งปรินต์งานมาเพื่อใช้ส่งพรุ่งนี้ ก็เอางานวางไว้บนพื้น เจ้าคุ้กกี้มาเดินรอบๆ กระดาษวนไปวนมาทำท่าจะฉี่ พอบอกว่า อย่าฉี่นะ มันฉี่ใส่เลยทันที สรุปวันนั้นก็ต้องออกไปหาที่ปรินต์งานใหม่ตอนกลางคืน”
7. ปิยากร วัฒนาศรีโรจน์
อาชีพ : พนักงานบริษัท (เลขา)
“อาตู เป็นชิวาวาสีขาว มี character มึนๆ และไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราเลี้ยงอาตูและแมวอีก 2 ตัวด้วยกัน ซึ่งอาตูจะชอบไปกวนและแหย่แมวสองตัวนั้น มีอยู่วันนึง อาตูจะกระโดดใส่แมวตัวนึง แต่พลาดโดนเค้าตบหน้าซะก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้อาตูเสียความมั่นใจไปสองสามวัน นั่งมองกระจกและทำหน้าเศร้า และนอนหมดอาลัยตายอยาก คิ้วขมวดจนต่องปลอบกันยกใหญ่ หลังจากวันนั้นอาตูก็ไม่เคยไปกวนแมวตัวไหนอีกเลย
และด้วยความที่เรากับอาตูอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เลยทำให้เราค่อนข้างรู้สึกถึงกันและกันพอสมควร มีอยู่วันนึง เราเป็นไข้ไม่สบายเลยนอนซมอยู่บนเตียง อาตูอยู่เฝ้าไข้เราไม่ห่างและเท้าข้างนึงอยู่บนตัวเราตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเวลานอนอาตูจะแยกไปนอนปลายเท้า ไม่ชอบนอนใกล้ๆ เหมือนเค้ารับรู้ได้ว่าเราไม่สบายแล้วคอยดูแล”
8. ประวีณา ฟังเร็ว
อาชีพ : ฟรีแลนซ์กราฟิกดีไซเนอร์ จากสาวปาร์ตี้ค่ำไหนนอนนั่น กลายเป็นนั่งเช็ดขี้แมวเต้นอยู่บ้านนอก
“คือตอนที่ไปเอาแมวมาเลี้ยงเพราะเลิกกับแฟนแบบถาวรตลอดกาล แล้วโทษตัวเองตลอดว่าเราไม่ดีพอ ดูแลใครไม่ได้ จังหวะนั้นเพื่อนเอาแมวมาให้พอดีเพราะไม่มีที่ปล่อย บอกว่าสก๊อตติสแท้เราก็เออๆ น่ารักแน่ ตอนไปรับโห สภาพนึกว่ากอลั่ม พุงโล ตัวลีบ หัวโต แมวป่วยมาก นางไม่มีภูมิคุ้มกันเลย ต้องป้อนภูมิใส่สลิงให้ทุกวัน ก็มีกลัวทำตายอยู่แต่ก็สงสารเลยเอามาเลี้ยง ตั้งแต่เลี้ยงทิงก้าทิงก้า (ทุกคนเรียกอีผี) ไม่กล้าไปไหนเลย ต้องกลับบ้านตรงเวลาเพื่อมาป้อนภูมิ ถ้าไม่ตรงเวลาเดี๋ยวดื้อยาอีก ตอนนี้ย้ายกลับต่างจังหวัดด้วย เวลามีงานต้องเข้ามาข้างคืนในกรุงก็ต้องฝากพ่อป้อนยาให้
ตอนนั้นจำได้ทิ้งไปวันแรกกลับมานางป่วยแทบตาย ก็กลัวๆ ว่าเหตุผลที่นางเป็นแบบนี้เพราะเราไม่อยู่ใช่ไหม แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนั้น จนมีอีกครั้งให้ต้องทิ้งไปวันนึง กลับมาก็เป็นแบบเดิมอีก ชัดเลย ไม่กล้าทิ้งไปไหนอีกเลย และไม่ค่อยรับงานที่ต้องออกนอกบ้าน วอนลูกค้าส่งงานทางเน็ต เพราะกลายเป็นคนสิงบ้าน จนเพื่อนบอกว่าฆ่าแมวมันซะมันถึงจะออกมา 5555″