เคยเป็นไหม พออยากจะไปเที่ยวสักที่ที่หมายมั่นว่าอยากจะไปให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ดันไปเปิดดูรูปที่เพื่อนโพสต์ รีวิวในพันทิป หรือรูปถ่าย 360 องศา ก็อิ่มเอิบจนเอียน พานให้ไม่อยากไปแล้วซะอย่างนั้น
เพราะยุคสมัยนี้ การไปเที่ยวไหนสักที่เป็นเรื่องง่ายดายแบบสุดๆ ไล่ตั้งแต่แพ็คเกจตั๋วเครื่องบินราคาถูกสุดยั่วใจ จะไปไหนไกด์บุ๊กก็เต็มแผงหนังสือ หรือจะกูเกิลพันทิปก็มีคำตอบให้กับทุกคำถาม ยังไม่รวมนวัตกรรมการจองที่พักที่ไวและง่ายกว่าเก็บกระเป๋าตัวเองเสียอีก จึงไม่แปลกที่ความง่ายดายเหล่านี้ จะทำให้ความเก๋ไก๋ของทริปแต่ละคนดูซ้ำๆ กันไปซะหมด
อย่าให้การไปเที่ยวกลายเป็นเรื่องแมสๆ น่าเบื่อที่ใครๆ ก็ไปกัน เพราะยังมีการเที่ยวแบบที่เรียกว่า Local Experience หรือการเที่ยวแบบที่ได้ลงลึก สัมผัสความเป็นท้องถิ่นที่แท้จริง รับประกันความไม่เหมือนใคร ได้รับความประทับใจแสนลึกซึ้ง และที่สำคัญคือได้ประสบการณ์ที่เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร ถึงจะไปที่เดียวกันก็ตาม
ถ้ายังไม่เห็นภาพ ลองมาดูกันว่า การเที่ยวแบบลงลึกหรือ Local Experience จะเปลี่ยนทริปท่องเที่ยวธรรมดาๆ ให้กลายเป็นประสบการณ์ล้ำค่าได้อย่างไร
1. โลคอลแต่ไม่โลนลี่
หัวใจสำคัญของการเที่ยวแบบลงลึกถึงท้องถิ่นคือการเสาะหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็คงจะหาที่ไหนไม่ได้ดีไปกว่าคนพื้นถิ่นเจ้าของพื้นที่นั่นเอง การเลือกที่พักแบบโฮมสเตย์จึงตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะได้พักอาศัยในบ้านที่จัดแต่งแบบโลคอลสไตล์แท้ๆ ยังได้การต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าของบ้านประหนึ่งญาติมิตร
สิ่งสำคัญที่อยากให้ทำแล้วจะไม่พลาดประสบการณ์ดีๆ นั่นคือการทำความรู้จักกับเจ้าของบ้านหรือง่ายๆ คือตีซี้นั่นแหละ ช่องว่างของการเป็นผู้พักอาศัยจะกลายเป็นคนในครอบครัวได้ไม่ยาก แค่รู้จักถามนู่นถามนี่ ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งถ้าเป็นโฮมสเตย์ที่เป็นเจ้าของบ้านเป็นคนพื้นถิ่นแท้ๆ ไม่ได้ถูกดัดแปลงมาเพื่อการท่องเที่ยว รับประกันเลยว่า เรื่องราวความเป็นมาของท้องถิ่นนั้นๆ จะพรั่งพรูออกมาให้เราได้เก็บเกี่ยวกันอย่างไม่มีหมดทีเดียว
Local Recommended: สวรรค์บนดิน ฟาร์มสเตย์ ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฟาร์มปลูกชาสมุนไพรบวกโฮมสเตย์ที่ คุณโต-ชูเกียรติ เวสารัชชพงศ์ ต้องการรักษาคุณพ่อที่ป่วย จึงตัดสินใจย้ายจากกรุงเทพฯ มาปักหลักอยู่ที่บ้านของภรรรยาที่เชียงราย เพื่อให้สิ่งแวดล้อมดีๆ รักษาคุณพ่อให้หาย พร้อมทั้งปลูกผักและชาสมุนไพรเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นฝีมือการปลูกของคุณแม่ของคุณโต และยังเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์เล็กๆ ต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยความอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน
2. ประสบการณ์เมมแน่นในความทรงจำ
สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว หลังจากที่เราได้สนิทสนมกับคนพื้นถิ่นเป็นที่เรียบร้อย กิจกรรมแบบท้องถิ่นๆ ทั้งหลายก็จะตามมาเอง เพียงแค่รู้จักพูดคุย กล้าขอ เขาก็กล้าให้ เพราะประสบการณ์ที่จะฝังลึกอยู่ในความทรงจำ ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ถูกบันทึกด้วยกล้องใดๆ (ที่ไม่รู้จะได้เปิดดูเมื่อไร) แต่คือประสบการณ์ผ่านการลงมือทำแบบเน้นๆ เข้าไปคลุกคลีเข้าไปลุยให้เต็มที่
อยากให้ลองขออาสาเป็นผู้ช่วยพี่ป้าน้าอาคนพื้นถิ่นทั้งหลาย จะเป็นกิจกรรมเบสิกๆ อย่างการตื่นเช้ามาช่วยเจ้าของบ้านทำกับข้าว หรือถ้าย่านนั้นเป็นย่านขายของงานคราฟต์เก๋ๆ ก็ขออาสาลงมือทำมันสักหน่อย หรือถ้าเดินผ่านสวนมะพร้าวก็ขอพี่เขาสอยมาสักลูกสองลูก ประสบการณ์สุดประทับใจก็จะเมมแน่นในความทรงจำ โดยที่ไม่ต้องไปลงเวิร์คช็อปหรือทำกิจกรรมเป็นหมู่คณะร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เขาเลย
Local Recommended: ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนเก่าแก่ย่านฝั่งธนบุรี ที่มีเอกลักษณ์คือเมนูขนมสุดโลคอลที่มีจำหน่ายที่นี่เพียงแห่งเดียว นั่นคือ ขนมฝรั่งกุฎีจีน มีต้นตำรับมาจากชาวโปรตุเกสที่เคยอาศัยในย่านนี่เมื่อกว่า 200 ปีที่แล้ว ปัจจุบันหลงเหลือร้านที่ยังทำขายอยู่เพียงไม่กี่ร้าน อยากให้ลองแวะไปชิมและถามไถ่ความเป็นมาจากครอบครัวทายาทที่ยังทำขนมฝรั่งกุฎีจีนกันดู ด้วยรสชาติหวานกรอบนอกนุ่มในเพราะใช้วิธีอบด้วยเตาถ่านแบบโบราณ คงเอกลักษณ์ความอร่อยเหมือนเมื่อ 200 ปีที่แล้วไม่มีผิด
3. ทริปเดียวก็โตได้
บล็อกเกอร์สายเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การเดินทางทำให้เราเติบโต ถ้าลองถอดบทเรียนออกมาดูจะพบว่า การเที่ยวแบบลงลึกท้องถิ่นนี่แหละ คือประสบการณ์ที่ทำให้เราเติบโตได้จริงๆ เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่า รูปแบบการท่องเที่ยวแบบนี้จะไร้ซึ่งแพลนเดินทางที่แน่นอน อะไรน่าอร่อยก็แวะชิม อะไรเจ๋งก็แวะชม อะไรมันๆ ก็แวะลุยทำมันซะเลย ซึ่งแตกต่างจากทริปท่องเที่ยวแบบเป๊ะๆ ที่โฟกัสแต่สถานที่แลนด์มาร์ก ได้เก็บแต่ภาพสวยๆ แต่ไม่ได้เก็บความทรงจำดีๆ
การเที่ยวแบบลงลึกจะทำให้เราได้เกี่ยวประสบการณ์ชนิดทริปเดียวก็โตได้ เพราะระหว่างการเที่ยวเราจะต้องใช้ทั้งทักษะการเข้าสังคมที่ต้องผูกสัมพันธ์กับคนพื้นถิ่น เพื่อเก็บมิตรภาพดีๆ กลับมา ทักษะในการตัดสินใจที่ต้องใช้อยู่ตลอดเวลา เพราะแพลนเดินทางสามารถเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ อยู่ที่ความพอใจของเรา และทักษะการใช้ชีวิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ชีวิตประจำวันไม่มีทางได้ทำอะไรแบบนี้แน่นอน สรุปแล้วถ้าเที่ยวแบบนี้ได้ รับรองโตๆ มันๆ แน่นอน
Local Recommended: เกาะพิทักษ์ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร เกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ฝั่งอ่าวไทย เกิดจากชาวประมงพื้นถิ่นได้รวมตัวกันตั้งเป็นชุมชนโฮมสเตย์ จึงรับประกันได้ถึงความโลคอลในแบบชาวประมงแท้ๆ ซึ่งกิจกรรมบนเกาะก็อัดแน่นไปด้วยวิถีชีวิตของชาวบ้าน ทั้งการดำน้ำ ตกปลาไดร์หมึก ทำเครื่องมือจับสัตว์น้ำ การทำน้ำมันมะพร้าว ไปจนถึงการร่วมประเพณีทำบุญสวดกลางบ้าน (ในช่วงเดือนสิงหาคม) จนได้การยอมรับว่าเป็นชุมชนที่รักษาธรรมชาติและวิถีดั้งเดิมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ลองเปลี่ยนสถานะจากนักท่องเที่ยวเป็นนักเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ตามแบบฉบับแคมเปญของ ททท. ที่ว่า ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง เพราะการไปเที่ยวแบบ Local Experience จุดหมายปลายทางไม่ใช่สถานที่อันสวยงาม แต่คือประสบการณ์ที่ล้ำค่านั่นเอง