การกลับมาของมังกรหยกฉบับภาพยนตร์ กำกับโดยฉีเคอะ (Xú Kè) ถือเป็นอีกการกลับมาของสุดยอดวรรณกรรมกำลังภายใน ถ้าเราคิดถึงมังกรหยกภาคแรก เราจะคิดถึงตัวละครหลักๆ คือก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง สองวีรบุรุษวีรสตรี ที่จริงๆ ก็ไม่ตรงตามขนบของฮีโร่เท่าไหร่ อาทิ ก๊วยเจ๋งออกไปทางไม่ค่อยฉลาด แต่เป็นผู้มีความขยันและมีคุณธรรมสูง
อันที่จริงนิยายกำลังภายในเป็นอีกหนึ่งแขนงวรรณกรรมที่มีความซับซ้อนในตัวเอง บริบทของเรื่องคือเรื่องราวการต่อสู้ภายในนิยายที่เล่าอิงกับประวัติศาสตร์มีนัยสำคัญ เช่น มังกรหยกมีฉากหลังเป็นความขัดแย้งระหว่างฮั่น กิมก๊ก (แมนจู) และการก่อตัวขึ้นของมองโกล ตัว กิมย้ง (Jīnyōng) เองก็เกี่ยวข้องกับการเมืองของจีน งานเขียนของกิมย้งมีนัยสะท้อนและวิพากษ์วิจารณ์สังคมรวมถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วย
ในแง่ความซับซ้อนของมังกรหยกหรือความเป็นนิยายกำลังภายใน นิยายกำลังภายในที่ดูเป็นความสนุกสนานของการต่อสู้อันโลดโผน ทว่าในนิยายกำลังภายในนอกจากจะแฝงมิติทางการเมืองหรือความเป็นการเมือง เช่น บริบทความขัดแย้งของกลุ่มชน หรือการเมืองประวัติศาสตร์แล้ว นิยายกำลังภายในมักตั้งคำถามกับความคิดความเชื่อ การแบ่งแยกความดีความชั่ว การให้ความสำคัญกับค่านิยมต่างๆ โดยมิติที่ซับซ้อนเหล่านั้นมักซ่อนอยู่ในค่าสำนัก หรือวิชาต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นอันเป็นจุดเด่นสำคัญของนิยายกำลังภายใน
เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของมังกรหยก จักรวาลมังกรหยกเป็นจักรวาลที่มีขนาดใหญ่ มีการอ้างอิงไปยังประวัติศาสตร์และแผ่นดินจีนรวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงอย่างไพศาล The MATTER จึงชวนย้อนดูจักรวาลค่ายสำนักสำคัญ โดยอ้างอิงจากมังกรหยดภาคแรกเป็นหลัก เพื่อเป็นการย้อนความทรงจำหรือปูพื้นฐานให้กับผู้ที่สนใจท่องยุทธภพ จาก 7 ประหลาดแห่งกังหนำ ชาวยุทธ์และอาจารย์กลุ่มแรกของก๊วยเจ๋ง สำนักช้วนจินก่าที่สัมพันธ์กับการปกป้องแผ่นดินฮั่น เกาะดอกท้อบ้านของนางเอก ค่ายสำนักของมารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ สำนักอูฐขาว และเม้งก่าจากแดนไกล
7 ประหลาดกังหนำ
วิชาสำคัญ: ไม้เท้าวชิระ ฝ่ามือเบิกขุนเขา
ต้องออกตัวว่าข้อเขียนเขียนจากผู้ชื่นชอบนิยายกิมย้ง ข้อมูลต่างๆ รวบรวมมาในฐานะนักอ่านสมัครเล่น สำหรับมังกรหยกภาคแรก ว่าด้วยการเติบโตของก๊วยเจ๋ง ความเป็นค่ายสำนักหรือความสัมพันธ์ระหว่างสำนักหรือพรรค ค่อนข้างไม่โดดเด่นเท่าภาคอื่นๆ กลุ่มชาวยุทธ์แรกที่เราได้เจอคือกลุ่ม 7 ประหลาดแห่งกังหนำ อาจารย์และผู้เลี้ยงดูดูแลก๊วยเจ๋งในพื้นที่ทะเลทรายอันแร้นแค้น
ในแง่ความเป็นชาวยุทธ์ 7 ประหลาดค่อนข้างถูกแซวว่าเป็นกลุ่มจอมยุทธ์ระดับกลางๆ ไม่ได้มีฝีมือโดดเด่นอะไร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเหล่าปรมาจารย์เท่ๆ ที่ปรากฎตัวขึ้นในภายหลังและกลายเป็นอาจารย์ที่พาก๊วยเจ๋งขึ้นสู่จุดสูงสุดของวิชาฝีมือเช่นจิวแป๊ะทง อั้งชิดกง หรือเจ้าแห่งเกาะดอกท้อ โดยในแง่ของการสอนวิชายุทธ์ 7 ประหลาดถือว่าเป็นครูฝีมือที่ไม่ค่อยดีนัก มีการสอนที่ไม่เป็นลำดับ กระจัดกระจาย ก๊วยเจ๋งเองได้พื้นฐานกำลังภายในจากเบ๊เง็ก ถึงได้มีกำลังฝีมือเป็นพื้นฐานที่ดีได้
ทว่า 7 ประหลาดแห่งกังหนำถือเป็นผู้ให้รากฐานสำคัญแก่ก๊วยเจ๋ง คือการมีคุณธรรมและความซื่อตรง เป็นผู้มีพระคุณทั้งชุบเลี้ยงดูแล และปลูกฝังคุณธรรมหลักเช่นความซื่อสัตย์ การทดแทนบุญคุณ
ช้วนจินก่า
วิชาสำคัญ: ค่ายกลดาวเหนือ
สำนักช้วนจินก่าเป็นสำนักนักพรตนิกายเต๋า ก่อตั้งโดยเฮ้งเตงเอี้ยง สำนักช้วนจิน รวมถึงศิษย์ทั้ง 7 มีร่องรอยตัวตนในประวัติศาสตร์จีน สำนักพรตมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับมองโกล ในมังกรหยกภาคแรก ศิษย์ช้วนจินทั้ง 7 มีบทบาทพอสมควร ในภาค 2 ช้วนจินที่เอี้ยก้วยไปใช้ชีวิต สำนักพรตมีภาพที่เละเทะพอสมควร เช่นมีเรื่องการอิจฉาริษยา ไปจนถึงเรื่องความสัมพันธ์กับสตรีก่อนจะถูกมองโกลกวาดล้างไป
ด้วยภาพของช้วนจินในภาค 1-2 สำนักช้วนจินนอกจากเรื่องคุณธรรมในภาคแรก และการตกต่ำลงในภาค 2 อันที่จริงสำนักช้วนจินก็เป็นอีกภาพของพื้นที่ธรรมมะที่ปนเปไปกับความเป็นปุถุชน วิชาหลักของช้วนจินค่อนข้างเป็นพื้นฐานให้กำลังตัวละครเอก ในแง่กำลังฝีมือของศิษย์อาจจะค่อนข้างไม่โดดเด่นเท่าไหร่ และออกจะคล้ายกับเจ็ดประหลาดคือเน้นการใช้พลังฝีมือร่วมกัน (รุม) ในการรับมือกับฝ่ายอธรรม วิชาที่เด่นที่สุดคือค่ายกลดาวเหนือที่ใช้ 7 นักบู๊เข้าร่วมกันรับมือหรือกดดันยอดฝีมือ
เกาะดอกท้อ
วิชาสำคัญ: กระบี่ขลุ่ยหยก ค่ายกลดอกท้อ
เกาะดอกท้อเป็นอีกหนึ่งเกาะ หรือค่ายสำนักที่มีความเท่เป็นอย่างยิ่ง และเกี่ยวข้องกับการเป็นพื้นที่ของตัวละครสีเทาๆ ตัวเกาะดอกท้อเป็นเกาะจริงที่ตั้งอยู่ในกลุ่มหมู่เกาะทะเลฝั่งตะวันออกของประเทศจีน ในเรื่องจึงเป็นชื่อฉายาของเจ้าเกาะมารบูรพา ‘อึ้งเอี้ยะซือ’ บนเกาะนอกจากจะปกคลุมไปด้วยดอกท้อสีชมพูแล้ว ตัวเกาะยังอุดมไปด้วยค่ายกลและกับดักมากมาย
ตัวอึ้งเอี้ยะซือ ได้ฉายาเป็นพรรคมาร เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน จะว่าอำมหิตก็ใช่ หรือเป็นคนที่มีความสำราญ มีเส้นทางความคิดของตัวเอง เหมือนกับการอยู่บนเกาะดอกท้อที่คล้ายกับการอยู่นอกกฎเกณฑ์ดีชั่วของชาวยุทธ์ ในแง่กำลังฝีมือก็ถือว่ามีความน่าสนใจ เป็นตัวละครที่เจ้าสำราญ มีรสนิยม แถมยังมีลูกสาวสวย เฉลียวฉลาดแต่เต็มไปด้วยเล่ห์กลคือ ‘อึ้งย้ง’
เส้าหลิน
วิชาสำคัญ: วิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น
เส้าหลินเป็นอีกสำนักที่น่าสนใจในจักรวาลโกวเล้ง ถ้าเทียบกับสำนักหรือพรรคในยุทธจักรนิยายจีน เส้าหลินนับเป็นสำนักมาตราฐานคือเส้าหลิน บู๊ตึ๊ง คุนหลุน มีหลายข้อสังเกตว่าทำไมมังกรหยกภาค 1-2 ไม่มีการกล่าวถึงเส้าหลินและสำนักหลักๆ ตามความนิยมเลย มีข้อคิดเห็นว่ากิมย้งอาจต้องการเขียนเรื่องให้แตกต่างจากเรื่องราวอื่นๆ ตัวเอกของกิมย้งมักไปเติบโตในสำนักที่ไม่ใช่สำนักมาตราฐาน กลับกัน มักกลับมาเป็นคู่ขัดแย้งกับสำนักมาตราฐานรวมถึงเส้าหลินด้วย
บทบาทของเส้าหลินมีความน่าสนใจ ในมังกรหยกภาคดาบมังกรหยก (ภาค 3) ที่เริ่มมีเส้าหลินเข้ามามีบทบาท พื้นที่เส้าหลินในฐานะสำนักที่เคร่งครัด มีเคล็ดวิชา กฎระเบียบ วิถีที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หลายครั้งเส้าหลินในฐานะสำนักที่ยิ่งใหญ่และเป็นเสาหลักกลับกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับตัวละครเอก เป็นเหมือนความขัดแย้งของกฎระเบียบและสถาบันทางสังคม กับมิติทางปัจเจกบุคคล ในเรื่องหลังๆ เช่น แปดเทพอสูรมังกรฟ้าถึงอุ้ยเสี่ยวป้อ เส้าหลินค่อยๆ มีบทบาทสำคัญและเป็นมิตรกับเรื่องราวมากขึ้น
พรรคกระยาจก
วิชาสำคัญ: ฝ่ามือพิชิตมังกร ไม้เท้าตีสุนัข
พรรคกระยาจกเป็นอีกพรรคที่มีความน่าสนใจ ในเชิงสังคมและบทบาทในนิยายกำลังภายใน ในแง่ความยิ่งใหญ่ พรรคกระยาจกถือเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด มีสมาชิกมากที่สุด มีชื่อเสียงในแง่ความมีคุณธรรมน้ำมิตร ขณะเดียวกัน การเข้าสู่พรรคกระยาจกก็คล้ายกับการสละละทิ้งตัวตน ในคราบความยากไร้ บทบาทของพรรคกระยาจกค่อนข้างสัมพันธ์กับการรักษาความสงบและความเป็นธรรมให้กับบ้านเมือง
พรรคกระยาจกมีระเบียบธรรมเนียมเคร่งครัด เช่น มีระบบผู้อาวุโสที่วัดด้วยจำนวนกระสอบที่แขวนอยู่ที่เอว ในนิยายของกิมย้งโดยเฉพาะภาคก๊วยเจ๋ง พรรคกระยาจกเป็นพรรคที่มีอิทธิพล มีกำลังฝีมือสูง วิชาสำคัญของพรรคคือฝ่ามือพิชิตมังกร และกระบวนท่าไม้เท้าชื่อไม้เท้าตีสุนัข ตัวไม้เท้าตีสุนัขเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นประมุขพรรค
สำนักอูฐขาว
วิชาสำคัญ: พลังคางคก
สำนักอูฐขาวเกี่ยวข้องกับตัวละครที่น่าสนใจคือพิษประจิม ‘อาวเอี๊ยงฮง’ ในโลกยุทธจักร เรามักให้ภาพของค่ายสำนักหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้พิษเป็นฝ่ายอธรรม ในพรรคที่เชี่ยวชาญเรื่องพิษมักเกี่ยวข้องกับพรรคที่อยู่นอกแผ่นดินจีน กรณีอาวเอี้ยงฮงอธิบายว่ามาจากภูเขาอูฐขาว ฝึกวิชาจากพื้นที่จากพื้นที่ทางตะวันตก สวมใส่เสื้อผ้าประหลาด มีผู้ติดตามบ้างก็มีดวงตาสีฟ้า ดังนั้นอาวเอี้ยงฮงจึงเป็นตัวร้ายอันดับหนึ่ง มีพลังฝีมือสูงส่งติดอันดับห้าทิศยุทธจักรมังกรหยก ใช้ไม้เท้าพิษและพลังคางคก
บทบาทตัวร้ายหรือมารสารพัดพิษแบบอาวเอี้ยงฮงกลับมีความสลับซับซ้อน เป็นอีกตัวละครที่จะรักก็รักไม่ลง เกลียดก็ไม่ลงเหมือนกัน ตัวอาวเอี้ยงฮงมีนิสัยเด่นคือชื่นชอบในวิทยายุทธ์ สุดท้ายบังคับให้ก๊วยเจ๋งเป็นศิษย์และถูกหลอกให้ฝึกคัมภีร์ย้อนกลับจนฟั่นเฟือน ตัวเฒ่าพิษในที่สุดกลับไปมีนิสัยแบบเด็ก แต่ก็ยังคลั่งไคล้การต่อสู้และฝึกวิชายุทธอยู่เสมอ
เม้งก่า
วิชาสำคัญ: วิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล
พรรคเม้งก่า บางครั้งเรียกว่าพรรคจรัส เป็นพรรคที่ค่อนข้างถูกนิยามว่าเป็นพรรคมาร เม้งก่าอ้างอิงกับความเชื่อลัทธิที่แพร่หลายอยู่ในประเทศจีนโดยเกี่ยวข้องกับกองโจรโพกผ้าเหลือง เป็นกลุ่มลัทธิที่มีบทบาทในประวัติศาสตร์ ตัวความเชื่อมีลักษณะผสมผสานการบูชาเทพเจ้า ในนิยายเชื่อมโยงกับเปอร์เซีย มีโครงสร้างพรรคที่ค่อนข้างเท่ มีระบบกองธง มีทูตซ้ายขวาสี่ผู้คุมกฎ ตัวพรรคเม้งก่าเป็นตัวแทนของคนนอก ของอธรรม ที่ในที่สุดแสดงให้เห็นว่าในอธรรม ก็อาจมีความดี มีคุณธรรมมากกว่าฝ่ายที่นิยามตัวเองว่าเป็นพรรคธรรมะ
สุสานโบราณ
วิชาสำคัญ: วิชาดรุณีหยก โซ่เงินกระดิ่งทอง
พรรคสุดท้าย เป็นพรรคที่มีบทบาทในมังกรหยกภาคสอง แต่เกี่ยวพันกับสำนักหลักต่อเนื่องจากภาคแรกคือช้วนจินก่า สำนักสุสานโบราณเป็นสำนักสตรี ตั้งอยู่ในสุสานที่มีระบบกลไกล้ำลึก ผู้ฝึกวิชาล้วนเป็นสตรีที่มีวิชาฝีมือสูง ใช้วิชายุทธที่สัมพันธ์กับความสวยงาม ความเป็นสตรี มีการใช้น้ำผึ้ง เข็มพิษ การใช้ผ้าและวิชาฝ่ามือ
สำนักสุสานโบราณถือเป็นสำนักที่ทำให้เรามองเห็นความเป็นมนุษย์ การที่สำนักพรตเช่นช้วนจินก่ายังสัมพันธ์กับความรู้สึกสามัญ ความรัก ราคะและอื่นๆ ไปจนถึงการท้าทายความคิดเรื่องความเป็นหญิงที่อ่อนแอ
อ้างอิงจาก