คุณอาจเคยฟังเพลง Endless Rain ที่หน้ากากอีกาดำร้องในรายการ The Mask Singer
คุณอาจเคยอ่านบทความที่เล่าเรื่องนักร้องนำของวง ออกจากวงไปเนื่องจากถูกลัทธิประหลาดล้างสมอง
คุณอาจเคยได้ข่าวเพื่อนของคุณบึ่งรถเสี่ยงน้ำท่วมเพื่อเข้าไปดูคอนเสิร์ตที่มาจัดเมื่อปี 2011
คุณอาจได้รับรู้เรื่องราวของ hide สมาชิกของวงที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรในช่วงกลางยุค 1990
รวมไปถึงคุณอาจเคยได้ยินเพลง ‘เธอไม่เคยตาย’ มาก่อนด้วย
ไม่ว่าจะคุณจะเคยรับรู้เรื่องราวใดๆ ข้างต้นนี้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับวงดนตรีที่ชื่อว่า X Japan
Who is X Japan
X Japan คือวงดนตรีร็อกจากญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นตัวแทน (บ้างก็ว่าถือเป็นผู้ให้กำเนิด) ของดนตรีแนว Visual Kei สไตล์ดนตรีที่สมาชิกในวงแต่งตัวด้วยสีสันฉูดฉาด ส่วนในภาคดนตรีนั้นเป็นดนตรีร็อกผสมปนเปกันกับดนตรีประเภทอื่นๆ อย่าง คลาสสิก เป็นอาทิ
สมาชิกของวงประกอบไปด้วย Yoshiki หัวหน้าวง ที่เป็นมือกลองและมือเปียโน รวมถึงเป็นผู้แต่งเพลงส่วนมากของวง Toshi นักร้องนำที่มีเสียงสูงอันเป็นเอกลักษณ์ Pata มือกีตาร์ผมยาวที่มีประสบการณ์มากเหลือ Heath มือเบสของวง และ Sugizo ที่กลายเป็นสมาชิกถาวรของ X Japan เมื่อปี 2008 ควบกับการทำหน้าที่ในวง Luna Sea
เรื่องราวต่างๆ ของวง X Japan นี้ ไม่เคยมีอะไรธรรมดาสามัญ แต่เรื่องราวส่วนใหญ่ที่ไหลเวียนผ่านสื่อต่างๆ บ้างก็เป็นข่าวลือ บ้างก็เป็นบทสัมภาษณ์ที่ไม่ได้เจาะลึกเรื่องราวอะไรมากนัก เพราะในหลายๆ ครั้งเองที่สมาชิกวงเลือกที่จะพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตเพียงเล็กน้อย ไม่หยิบมันมาพูดมากนัก
จนกระทั่งมีข่าวออกมาว่าจะมีภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับวงนี้ออกมาฉายให้เราได้รับชมกัน ซึ่งก็เป็นโชคดีที่กระแสภาพยนตร์เฉพาะทางอย่างภาพยนตร์สารคดีนั้นได้รับความนิยมในบ้านเราอยู่ไม่น้อย และทาง Documentary Club ก็ได้นำภาพยนตร์ We AreX เราคือ X เข้ามาฉายในประเทศไทย ทั้งยังเปิดรอบพรีเมียร์พิเศษสำหรับแฟนๆ ไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งสมาชิก The MATTER (ทั้งที่เป็นติ่งมานานและที่ไม่ได้เป็นติ่ง) ก็ได้เข้ารับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
เราจะมาบอกเล่าว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้พาเราไปรู้จักวงดนตรีดังวงนี้มากขึ้นแค่ไหน
Into the ” Psychedelic Violence Crime Of Visual Shock”
เมื่อครั้งที่ X Japan เปิดตัวในวงการเพลงอินดี้ประเทศญี่ปุ่น พวกเขาโปรโมตตัวเองด้วยคำว่า ‘Psychedelic Violence Crime Of Visual Shock’ (แปลได้ราวๆ ว่า ภาพวิชวลอันน่าตื่นตะลึงของอาชญากรรมความรุนแรงหลอนจิตประสาท) ด้วยเหตุผลที่ทางวงแต่งตัวในรูปแบบสุดขั้วทั้งเสื้อผ้าหน้าผม การเล่นดนตรีที่ดุดันแต่หวานซึ้ง รวมถึงหน้าปก CD หรือ MV ของพวกเขาที่จะมีสีสันแปลกตาเหมือนกับคนเกิดอาการประสาทหลอน
ซึ่งตัวภาพยนตร์ We Are X ก็ทำการพาเราเข้าสู่โลกที่ว่าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการนำเอาภาพคอนเสิร์ตที่ Madison Square Garden ของวง X Japan เมื่อปี 2014 มาเป็นการอินโทรก่อนจะนำเอาสไตล์กับภาพสไตล์รุนแรงแบบที่ X Japan เคยใช้มาบอกกับคนดูว่า ประวัติศาสตร์ของวงนั้นมีอะไรมากกว่าผู้ชาย 5-6 คนมารวมตัวกันเล่นดนตรีกันอย่างแน่นอน
ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเมื่อภาพยนตร์เล่าเรื่องแล้ว ต่อให้เรื่องที่ดูธรรมดาๆ อย่างการไปหาหมอของ Yoshiki หัวหน้าวงที่ควบตำแหน่งมือกลองกับมือเปียโนนั้น ในวูบแรก คนดูจะได้เห็นถึงตัวตนที่สุภาพและอ่อนโยนเวลาพูดคุย แต่เมื่อเจาะลึกลงไปถึงอาการบาดเจ็บของเขาแล้วกลับเห็นได้ว่า เขาใช้ชีวิตห้ำหั่นเพียงใดเพื่อแลกมากับการแสดงผลงานให้ทุกคนได้จดจำ
ในหลายๆ ฉาก ที่ผู้กำกับได้สัมภาษณ์ Yoshiki เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต อย่างเรื่องความตายของพ่อเขา ความตายของ hide มือกีตาร์คนสำคัญ ไปจนถึงเรื่องราวในช่วงที่วง X Japan ต้องยุบตัวลง ด้วยปัญหาที่เราได้ยินครั้งแรกก็ชวนให้หัวเราะ แต่เมื่อลงรายละเอียดลงไปก็ทำให้เห็นได้ว่า พวกเขาผ่านความบ้าคลั่งมาสมกับฉายาของวงจริงๆ
แม้ว่าจะบ้าคลั่ง แต่อีกมุมหนึ่งของภาพยนตร์ก็สะท้อนให้เห็นตลอดว่า ความคลั่งอันรุนแรงของ X Japan นี้เกิดขึ้นจากแผลในใจจำนวนมากที่สมาชิกแต่ละคนเคยได้รับมา จนทำให้พวกเขาเห็นคุณค่าของชีวิต ไม่คิดถอดใจไม่ว่าจะต้องเจอเรื่องใดก็ตาม เหมือนกับตัววงที่ผ่านดราม่าจำนวนมากมานับตั้งแต่ก่อตั้ง แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งจนสามารถมาแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลกได้เหมือนที่เคยฝันไว้ในตอนหนุ่ม ๆ
ตัวภาพยนตร์ก็ไม่ได้เทเรื่องราวไปที่ Yoshiki เพียงคนเดียวเท่านั้น We Are X ยังพาเราไปสำรวจถึงสมาชิกคนอื่นๆ ในวง หรือ ‘สมาชิกครอบครัว’ ตามที่ Yoshiki กล่าวไว้
ทั้งนักร้องนำอย่าง Toshi ที่เป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ X Japan ต้องยุบวงมาครั้งหนึ่ง เขาบอกเล่าทั้งเรื่องที่ทำให้เขาต้องจากไป กับเหตุผลที่เขากลับมา รวมถึงการมาพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ที่เขามีมาแต่เก่าก่อนกับ Yoshiki หัวหน้าวง หรือ hide มือกีตาร์ที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1997 ก็ปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เกือบทั้งเรื่องแม้ว่าจะเป็นในฐานะฟุตเทจ หรือจากคำบอกเล่าของคนอื่นๆ ว่าชายผู้นี้มีความสำคัญขนาดไหนกับวงดนตรีนี้ จะน่าเสียดายเล็กน้อยก็คงจะเป็นที่ตัวหนังแวะเวียนให้เราชมเรื่องของ Heath มือเบสกับ Sugizo มือกีตาร์คนใหม่ของวงน้อยไปเสียหน่อย
เนื้อหาส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ ทำการดำเนินเรื่องจากมุมมองของคนที่ไม่รู้จัก X Japan มาก่อน ทำให้คนที่ไม่รู้จักวงนี้มาก่อนเลยก็สามารถรับชมได้โดยง่าย มิหนำซ้ำคำถามหลายๆ คำถามที่ปรากฏขึ้นในช่วงต้นของภาพยนตร์ที่ถามแบบคนไม่รู้อะไรเลย ก็มีคำตอบมาให้รับทราบกันเกือบทั้งหมด และถ้าดูในฐานะติ่งของ X Japan ก็ต้องบอกได้เลยว่า ภาพยนตร์ตอบสนองแฟนคลับที่ติดตามมายาวนาน ด้วยบทสัมภาษณ์หลายส่วนที่สมาชิกวงไม่เคยพูดแบบนี้ออกสื่ออื่นเท่าใดนัก (อาทิเช่น ใครเป็น ‘ขุ่นแม่’ ของวง X Japan) เพราะฉะนั้นถ้ามีคนหัวเราะให้กับหลายๆ ฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้ อยากให้คุณเดาไว้ล่วงหน้าเลยว่า คุณกำลังเจอแฟนคลับของวงนี้ในการชมภาพยนตร์รอบนั้น
We Are X
ภาพยนตร์จบลงด้วยส่วนหนึ่งจากคอนเสิร์ตของวง X Japan ที่ออกแสดงที่ Madison Square Garden ซึ่งจะสอดคล้องกับฉากเริ่มต้นของเรื่อง เราเชื่อว่าทุกท่านที่รับชมภาพยนตร์จะรับรู้ถึงความแตกต่างของภาพคอนเสิร์ตในตอนแรกกับตอนจบด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน เนื่องจากในตอนนี้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของวง ซึ่งเป็นการเล่าจากปากของสมาชิกวงทุกคนแล้ว และเหมือนว่าคนดูทุกคนสนิทกับวงนี้มากยิ่งขึ้น และทำให้เข้าใจได้ว่าทำไมแฟนๆ ถึงคลั่งไคล้พวกเขานัก บางคนแม้ว่าจะเข้าสู่วัยมีลูกกันแล้วก็ตาม ก็ยังตื่นตี 5 เพื่อมารอซื้อตั๋วรอบพรีเมียร์
นั่นก็คงเพราะทุกสิ่งที่สมาชิกของ X Japan ทำลงไปนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการสื่อสารกลับมาว่า ไม่ว่าคุณจะวัยไหน ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ หากคุณเป็นแฟนเพลงแล้วละก็ ทุกคนล้วนแล้วคือ ‘ชาว X’ เหมือนกัน