ช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจได้เห็นโพสต์แปลกตาบนนิวส์ฟีด ในโพสต์นั้นบรรจุด้วยช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ หลายสีเรียงต่อกัน ราวกับจะเป็นโค้ดลับอะไรบางอย่าง แต่ก็เหมือนจะไม่ใช่ แอบอ่านคอมเมนต์แล้วก็พอจะจับใจความได้ว่ามันเป็นเกมทายคำ ที่กำลังฮิตติดลมบนอยู่ในขณะนี้ แต่เจ้าเกมทายคำนี้ก็ไม่ใช่เกมแรกหรือมีอะไรแปลกใหม่เสียหน่อย ทำไมมันถึงโกไวรัลขนาดนี้ แต่ละคนที่เล่นก็ไม่มีท่าทีจะหยุดเล่นได้
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเจ้าเกมทายคำ Wordle นี้กันก่อน มันคือเกมทายคำ ออกจะคล้ายๆ อักษรไขว้อยู่เสียหน่อย ตรงที่เราต้องหาคำที่มีตัวอักษรพอดีใส่ลงไปในช่องว่างนั้น ซึ่งมีแค่ 5 ช่อง นั่นหมายความว่า ทุกคำที่เราจะทายนั้นมีอักษรแค่ 5 ตัวเท่านั้น แต่ไม่มีความหมายหรือคำใบ้ใดๆ ในตอนเริ่ม เราก็ต้องเดาสุ่มใส่สักคำ (ที่มีความหมาย) ลงไปในช่องว่างนั้น พอใส่ปุ๊บ กด ENTER แต่ละตัวอักษรที่เราใส่ไปตอนแรก ก็จะเปลี่ยนสีไปตามเงื่อนไขดังนี้
สีเขียว ตัวอักษรถูก ตำแหน่งถูก
สีเหลือง ตัวอักษรถูก ตำแหน่งไม่ถูก
สีดำ ไม่ถูกทั้งตัวอักษรและตำแหน่ง
เท่ากับว่าเราจะได้คำใบ้มาเรื่อยๆ ว่า ครั้งต่อไปเราควรจะวางตัวอักษรไว้จุดไหนบ้าง ทีนี้ ในหนึ่งวันเราจะทายได้แค่วันละคำ และทายได้คำละหกครั้ง และเมื่อเราทายครบทั้งหกครั้ง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร จะทายคำได้ถูกต้องหรือจะถูกครึ่งๆ กลางๆ ก็สามารถแชร์ผลลัพธ์ของเราได้เหมือนกัน แล้วก็ออกมาเป็นโพสต์แบบที่เราเห็น
โดยเกมนี้ ปรากฏตัวครั้งแรกให้ชาวโลกได้รู้จักบน The New York Times สร้างโดยฝีมือของ จอช วาร์เดิล (Josh Wardle) วิศวกรซอฟต์แวร์ ที่สร้างเกมนี้ขึ้นมาขำๆ กะจะเอาไว้เล่นเองกับแฟนนั่นแหละ เล่นไปเล่นมามันสนุกจนหยุดไม่อยู่ เกมนี้กลายมาเป็นกิจกรรมที่ครอบครัวของเขาชื่นชอบเอามากๆ จนเขาตัดสินใจที่จะปล่อยเกมชื่อ Wordle ที่ล้อไปกับนามสกุล Wardle ของเขาออกสู่สายตาชาวโลก
ในสัปดาห์แรก ต้นเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2021 เกมนี้มีผู้เล่นเพียง 90 คนเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเพียงสองสัปดาห์ จำนวนผู้เล่นก็มากขึ้นแบบก้าวกระโดด อยู่ที่ 300,000 คน แต่สำหรับในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา The Guardian รายงานจำนวนผู้เล่นอยู่ที่ 2 ล้านคน ใช่แล้ว มันฮิตขนาดนั้นเลยล่ะ
แล้วทำไมมันถึงไวรัลได้ขนาดนี้?
เราได้เห็นโพสต์ผลลัพธ์ของ Wordle ในทุกวัน เห็นบ่อยเข้าก็ลองเล่นเองดูเสียหน่อย ว่าทำไมคนถึงได้นิยมชมชอบเจ้าเกมทายคำนี้นักนะ จากที่ลองเล่นขำๆ กลายเป็นเข้าร่วม แม้เกมนี้มันจะมีความเรียบง่ายในตัวสูงเอามากๆ แต่ทำไมถึงโกไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ขนาดนี้กัน มาฟังความเห็นเรื่องนี้จาก ลี แชมเบอส์ (Lee Chambers) นักจิตวิทยา
โดยเขาได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กับเว็บไซต์ Insider ไว้ว่า ที่เกม Wordle มันดึงดูดผู้เล่นขนาดนี้ นั่นก็เพราะมันเป็นเกมที่เรียบง่ายอย่างมาก เราเพียงเข้าเว็บบราวเซอร์ ไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชั่น ไม่ต้องทำอะไรยุ่งยาก ก็สามารถเข้าไปเล่นเกมนี้ได้ พร้อมกับเพจของเกมที่มีเพียงพื้นหลังสีดำ ไม่มี pop-up โฆษณา หรืออะไรที่รบกวนสายตาเรา ให้เราจดจ่ออยู่กับการเลือกตัวอักษรต่อไปเท่านั้น
ด้วยเกมนี้ให้เราทายคำได้เพียงหนึ่งคำต่อวันเท่านั้น มันทำให้เราใจจดจ่อรอวันต่อไป ที่จะได้เล่นเกมนี้อีกครั้ง เหมือนกับว่าเรารออยู่ตลอดเวลาจนกว่าจะได้มาทายคำรอบใหม่นั่นเอง
รวมถึงการแชร์ผลลัพธ์ของเกม ที่มันสามารถเป็นที่จดจำได้ตั้งแต่แรกเห็น หลังจากนี้ หากใครเห็นโพสต์ช่องสี่เหลี่ยมหลากสีเรียงกัน เราก็จะจดจำได้แล้วว่าเขาคนนั้นกำลังเล่นเกม Wordle อยู่ การแชร์ผลลัพธ์ด้วยอีโมจิ จึงเป็นไม้ตายสำคัญที่ทำให้เกมนี้โกไวรัล อย่างแรก มันดึงดูดให้คนอื่นที่ยังไม่ได้ลองเล่นเกมเกิดความสงสัย และอยากจะลองเล่นเกมยอดฮิตนี้บ้าง
ต่อมา การแชร์ผลลัพธ์นั้นทำให้เรารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเกม ไม่ว่าเราจะทายถูกมากน้อยแค่ไหนก็เถอะ และสุดท้าย มันคือการสร้างชุมชนของผู้เล่น เมื่อเราไปเห็นผลลัพธ์ของผู้เล่นอื่นๆ เราก็จะเข้าใจว่าเขาทายถูกได้มากน้อยแค่ไหน เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยน จนกลายเป็นเครือข่ายของชาว Wordle นั่นเอง
แชมเบอส์กล่าวอีกว่า เกมนี้จึงเชื่อมโยงผู้เล่นไว้ด้วยกัน เพราะในแต่ละวัน ทุกคนที่เล่นเกมนี้ จะได้คำปริศนาคำเดียวกัน พูดง่ายๆ ก็คือคำปริศนาประจำวัน ทีนี้ การแก้ปัญหาร่วมกัน ไม่ว่าจะหมายถึงงานจริงจังหรือเกม puzzle ก็ตาม มันทำให้คนที่แก้ปัญหาด้วยกันนั้น มีความเชื่อมโยงกันบางอย่าง เหมือนได้ฝ่าฟันอุปสรรคเดียวกัน (แม้จะไม่ได้นั่งเล่นด้วยกัน แต่ก็ทายคำเดียวกันอยู่)
ทำไมแค่เกมทายคำจึงทำให้เราติดขนาดนี้?
ผู้เล่นส่วนใหญ่ต่างพูดถึงเกมนี้เป็นเสียงเดียวกันว่า ติดหนึบจนเลิกไม่ได้ อยากให้ถึงวันใหม่ไวๆ เพราะอยากจะได้คำปริศนาคำใหม่แล้ว เกมนี้ไม่ใช่เกมทายคำเกมแรกของโลก ไม่ใช่เกมใหม่ที่ให้ความตื่นเต้น หรือหวาอะไร แต่ทำไมผู้เล่นถึงมีความต้องการอยากจะเล่นมันซ้ำๆ ขนาดนี้ด้วยนะ เรารู้เหตุผลกันไปแล้วว่าทำไมมันถึงไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ต แต่เราก็อยากจะรู้อีกว่า ทำไมแค่เล่นเกมทายคำมันถึงทำให้เราติดหนึบได้ขนาดนี้
แชมเบอส์คนเดิม ได้ให้เหตุผลไว้ว่า เกมนี้มันไปกระตุ้นความคิดของเราในด้านภาษาและการใช้เหตุผล และนั่นนำไปสู่การหลั่งโดพามีน โดยเฉพาะในตอนที่ทายถูก ยิ่งทายถูกเรายิ่งมีความสุขกับโดพามีนที่หลั่งออกมา เมื่อนำเกมนี้ไปเล่นกับคู่รัก เพื่อน ครอบครัว หรือชาว Wordle รอบโลก ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่ากำลังฝ่าฟันสิ่งเดียวกันอยู่ จนมีประสบการณ์ร่วมกัน
รวมถึงเรื่องของ Timing เกมส่วนใหญ่ มักจะปล่อยให้ผู้เล่น เล่นได้อย่างอิสระ ถ้าไหวก็ตะลุยต่อจนถึงด่านสุดท้าย เราเลยได้เห็นการเล่นเกมเนื้อเรื่องจบภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือตะลุยด่านต่างๆ ในเวลาไม่กี่วัน หรือแม้แต่ puzzle ธรรมดา ที่สามารถแก้ปริศนาทั้งหมดได้ถ้าหากเราไปต่อไหว แต่ Wordle มีการจำกัดคำต่อวัน ต่อให้เราสนุกกับมันและพร้อมจะไปต่อแค่ไหน แต่เกมก็ไม่มีคำอื่นๆ ให้เราได้ทายนอกจากจะรอถึงวันพรุ่งนี้ จึงเป็นเหมือนการใช้เหยื่อล่อให้เราสนุกไปกับมัน และตั้งตาคอยอย่างใจจดจ่อ จนมีแต่เรื่อง Wordle ในหัวอยู่เสมอ
จากเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงไม่แปลกเลยที่เกมทายคำแสนเรียบง่ายนี้จะกลายมาเป็นเกมยอดฮิต ที่รวมเอาผู้คนทั้งโลกเชื่อมไว้ด้วยกัน ด้วยคำเพียงหนึ่งคำเท่านั้น
อ้างอิงข้อมูลจาก