เหล่าสัตว์นานาชนิดที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบนุ่มละมุน ทั้งรูปร่างและสีสัน ทำให้เราอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนุกไปพร้อมๆ กับเหล่าน้อนๆ ในภาพนั้น ผลงานสุดคิ้วท์จาก ‘wild so serious’ หรือ พลอย-พลอยศิริ รังคดิลก ที่ปกติแล้วจะวาดเส้นสายลายน่ารักแบบนี้ในแบรนด์แฮนด์เมดของตัวเอง อย่าง Need a New Needle ที่เจ้าตัวทุ่มเทกับมันมานานถึง 7 ปี
แต่ผลงาน NFT สีสันสดใสที่เราได้เห็นนี้ เดิมทีเป็นเพียงงานอดิเรกของพลอยเท่านั้น จากการวาดรูปเล่นเพื่อเยียวยาจิตใจ แบบไม่ต้องยึดติดว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน เราเลยได้เห็นการใช้สีสันแบบไร้ข้อจำกัด ในคอลเล็กชั่น Wild Art Museum งานพาโรดี้ผลงานดังของศิลปินในเวอร์ชั่นสัตว์ บน opensea และภาพสนุกๆ ชิ้นใหญ่บน foundation
สีสันและความสดใสเหล่านี้ยิ่งทำให้เราอยากรู้จักตัวตนของศิลปิน เลยอยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ ‘พลอย-wild so serious’ ศิลปินเจ้าของผลงาน NFT ที่ให้สีสันนำทาง
เวลาผลิตผลงานออกมาสักชิ้น ส่วนมากได้แรงบันดาลใจหรือเริ่มต้นคิดคอนเซ็ปต์ จากอะไรบ้าง?
จริงๆ เราแค่อยากวาดรูปเล่น แบบถอดสมองไปเลย ต้องเล่าก่อนว่า ชื่อ wild so serious เริ่มมาจากตอนที่แบรนด์ที่กำลังทำอยู่ปัจจุบันเนี่ย ตอนปี 2018 เรารู้สึก burnout สุดๆ หมดพลัง เลยไปเปิดอินสตาแกรมแยก เอาไว้วาดรูปเล่นแบบไม่คิดอะไรเลย แล้วพวกสัตว์เพี้ยนๆ มันตลก มันฮีลใจเราในเวลาแบบนั้น เลยเอาไว้วาดรูปสัตว์เพี้ยนๆ วาดเล่น อย่าไปซีเรียส คอนเซ็ปต์ชื่อมันเป็นแบบนั้นค่ะ เล่นเสียงจากที่โจ๊กเกอร์ชอบพูด why so serious? ในพาร์ตวาดรูปของเราคือปล่อยฟรีให้ตัวเองไปเลย อยากวาดอะไรก็วาด
งานสีค่อนข้างสดใสมากเลย ทำไมถึงเลือกใช้สีสันแนวนี้มาถ่ายทอดลงในผลงานของเรา?
งานเราวาดใน procreate ทั้งหมดเลยค่ะ เราชอบอะไรที่มันเด็กๆ บอลลูน สีเยอะๆ ถ้าไปดูแบรนด์เสื้อผ้าที่ทำก็สีเยอะๆ เหมือนกันค่ะ แค่ปรับให้พาสเทลขึ้นให้ใส่ง่าย คือชอบนั้นแหละ มันสนุกดี บางคนชอบร่างภาพให้เสร็จก่อนค่อยลงสี เราแค่ร่างคร่าวๆแล้วลงสีก่อน ได้เจอโครงสีที่ชอบแล้วค่อยไปวาดต่อ มันอุ่นใจกว่า จริงๆเราคิดสีก่อนคิดว่าจะวาดอะไรอีก ฮ่าๆ อย่างใน foundation เราเพิ่งทำสีเหลืองไป เราเริ่มคิดแล้ว ชิ้นต่อไปสีชมพูดีกว่า สีฟ้ามีแล้ว อยากให้ภาพรวมทั้งหมดมันบาลานซ์กัน
ในขั้นตอนการวาด ที่เล่าว่า มักจะร่างเพียงคร่าวๆ แล้วลงสีไว้ก่อน พอทำแบบนี้แล้วมันทำให้วาดยากขึ้นมั้ย หรือค่อนข้างถนัดกับวิธีนี้มากกว่า?
ไม่ยากนะคะแล้วแต่คนถนัด มันเหมือนทำ background ให้เสร็จไปเลย แล้วค่อยมาเริ่มใส่คาแรกเตอร์ทีหลัง อาจจะสนุกที่ได้ improvise ด้วย เห็นฉากแล้วอยากวาดอะไรก็เติมไปค่ะ
ในงานมีสีสันค่อนข้างมากเลย แล้วคิดว่าสีไหนที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้ดีที่สุด?
สีนีออนทั้งหมดเลยค่ะ อะไรที่แสบตาชอบหมดเลย
อย่างในตอนที่เบิร์นเอาต์ การวาดรูปที่ดูเหมือนเป็นงานอดิเรกธรรมดานี้ มันช่วยเยียวยาเราได้ยังไงบ้าง?
ช่วงเบิร์นเอาต์เป็นช่วงที่เราทำสิ่งเดิมซ้ำๆ มา 4 ปีแล้วยังรู้สึกไม่ไปไหน มันอยู่ที่เดิมเลย ไม่ได้รู้สึกอยากเลิกปักผ้านะคะ ชอบมาก แค่หมดแรงอยากพัก จริงๆ พลอยเรียนศิลปะ แต่มาทำภาพพิมพ์ พอจบก็แทบไม่ได้วาดรูปจริงจังเลย วาดแค่เพื่อเอามาปักอะไรแบบนั้น ช่วงนั้นอยากทำไรที่ไม่ใช่เพื่อเงินไปเลย ได้วาดเล่นเยอะขึ้น พอได้พักก็ดีขึ้นไปเอง เอาจริงช่วงนี้วาดรูปเยอะกว่าสมัยเรียนอีกค่ะ (หัวเราะ) แล้วรู้สึกสนุกมาก
อยู่ดีๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ชอบวาดรูปว่ะ คนเปลี่ยนไปตลอด เราตอนเรียนกับเราตอนนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
ตอนวาดปล่อยตามสัญชาตญาณแล้วมันออกมาหมดเลย อะไรที่เราทำขรึมๆ เอาไว้ ไม่ใช่เลย จริงๆ ชอบสนุก แค่อยากไร้สาระไปวันๆ อีกอย่างพอมาทำ NFT เรารู้เลยว่าอะไรที่ใช้กับการทำแบรนด์ เรามาปรับใช้กับ NFT ได้เยอะเลย ช่วงเบิร์นเอาต์ที่เราผ่านมามันไม่ได้หายไปไหน เอามาใช้ประโยชน์ได้ สกิลแม่ค้ามันส่งเสริมกับ NFT มากๆ อย่างช่วงขายไม่ได้บางคนจะนอยด์ไปเลย เราพอมีภูมิคุ้มกันมาบ้าง มันมีอะไรหลายๆ อย่างมาประกอบกัน ไม่ใช่งานเราไม่ดีอย่างเดียว
อย่าปล่อยให้ใจเราไปเล่นกับตลาดเกินไป เราจะทำได้ไม่นานแล้วเบิร์นเอาต์ได้อีก
คิดว่าทำไมงานเราถึงเป็นที่ชื่นชอบและขายได้ราคาดีด้วย?
สำหรับเรา เราไม่รู้สึกว่าเราขายดีขนาดนั้นนะ กลางๆ มันมีช่วงที่เงียบ และช่วงที่ขายได้เหมือนทุกคน ช่วงที่ขายไม่ได้เค้าแค่ไม่ได้บอก ขายได้ก็เอามาอวดกัน ส่วนตัวเราคิดว่า community มีส่วนสำคัญมากๆ คนที่งานคล้ายๆกันก็มักจะดึงดูดกัน เป็น NFT ยิ่งง่ายเลย เราเห็นอยู่แล้วว่างานเค้าเป็นแบบไหน ของเราเห็นสีก็รู้เลยคนนี้เป็นเพื่อนกันได้ มันรู้สึกถึงกัน คือ collector เค้าจะมีความชอบส่วนตัวของเค้าชัดอยู่แล้ว เราแค่คอยช่วยๆ ดันกัน รีทวีตกัน ให้เค้าเห็นงานที่เราชอบด้วย เพื่อนก็ช่วยเรารีด้วย เพิ่มโอกาสให้กัน
แล้วอย่างตอนตัดสินใจลงตลาด NFT มองเห็นอะไรในตลาดนี้บ้าง?
ตอนแรกไม่มีความคิดที่จะทำเลยนะคะ ได้ยินมาตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่เรารู้สึกว่าเราวาดรูปไม่เก่ง แค่ชอบวาดเล่น คงไม่สนุกหรอก จนเกิดอุบัติเหตุเล่นสเก็ตล้มกระดูกหน้าแข้งหักเข้าเฝือกไป 3 เดือนกว่า งานที่ทำโปรเจ็กต์พับไปเลย ผ่านไปสักพักเริ่มนอยด์ เลยได้มาวาดรูปเล่นอีก พอเพื่อนรอบข้างเริ่มทำกันหมด เลยอยากลองด้วย ตอนแรกคิดว่าจะเอางานปักมาทำด้วยนะ ไปปรึกษาพี่ปอม 3land พี่ปอมพูดถึง wild so serious ที่เราเอาไว้วาดเล่น เราก็เออใช่ มาทางนี้ดีกว่า ก็สนุกเหมือนกัน
ส่วนตัวเรามองว่านี่คืออนาคตเลยค่ะ NFT Art เป็นแค่ส่วนนึงที่จะขับเคลื่อน โลกเรามาทางนี้ ลองคิดดูเล่นๆ ว่าถ้าได้ซื้อบัตรคอนเสิร์ตเป็น NFT เทรดต่อได้อีก มี Utility อะไรต่างๆว่ากันไป รองรับ Metaverse ด้วย ค่ายอาจจะได้เป็น Royalty Fee แบบเนี้ย ถ้าวันนึงตลาดเห็นผลประโยชน์ตรงนี้เมื่อไหร่มันจะใหญ่ขึ้นอีก แค่คิดก็สนุก เราเห็นความเป็นไปได้เยอะมาก ยิ่งพวกโปรเจค dao นี่ตื่นเต้นมาก ถึงยังไม่มีเงินพอซื้อก็เถอะ
กระแสตอบรับในตลาด NFT เป็นไงบ้าง?
เราว่าเริ่มเห็นตลาด NFT ในเชนอื่นๆ มากขึ้นแล้วนะคะ ก่อนหน้าคนอยู่แต่บนเชน ETH หรือ XTZ ของ HEN ตอนนี้เริ่มมีเชนอื่นๆ มาแบ่งตลาดแล้ว เรามองว่า NFT จะทำให้คนที่ไม่ได้สนใจคริปโตฯ เริ่มหันมาสนใจเลยด้วยเพราะจะซื้อ NFT มันต้องใช้เหรียญ แล้วจะอยากหาข้อมูลเพิ่มไปเอง เรามองว่ามันจะใหญ่ขึ้นอีกค่ะ เพิ่งเริ่มเอง ต้องดูกันยาวๆ เรายังชื่นชอบใน ETH อยู่ แต่ระหว่างนี้อะไรน่าสนใจก็เก็บข้อมูลไปด้วยค่ะ
ช่วงเวลาเบิร์นเอาต์ที่หลายคนต้องเจอ เมื่อได้รับการเยียวยา สิ่งนั้นจึงกลายมาเป็นทางออกที่แสนใจดีกับตัวเอง อย่างพลอยที่ปล่อยให้ตัวเองได้กลับมาวาดรูปตามใจ ใช้สีสันแบบไร้ข้อจำกัด เลยทำให้เกิดเป็นผลงานในชื่อ wild so serious ขึ้นมา และด้วยสกิลการขายที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ยิ่งทำให้พลอยสามารถหยิบจับงานอดิเรกที่มีในมือนั้น ขยับขยายมาเป็นงานอดิเรกที่ขายได้บนโลก NFT อีกด้วย
หากใครอยากติดตามผลงานเพิ่มเติม สามารถตามไปได้ที่ Wild So Serious 🐾 NFT | Twitter , Wild So Serious (@wildsoserious) | Foundation, Wild Art Museum – Collection | OpenSea, wildsoserious (henext.xyz)
cover by Kodchakorn Thammachart