เมื่อการเล่นเกมออนไลน์ยุคนี้เป็นมากกว่างานอดิเรกที่ต่างไปจากเดิม จึงไม่แปลกเลยที่ช่วงนี้จะได้ยินคำว่า ‘GameFi’ บ้าง ‘play-to-earn’ บ้าง ซึ่งมาพร้อมกับการพูดถึงเรื่อง DeFi, คริปโตเคอร์เรนซี, และ NFT ด้วย
The MATTER อยากพามาทำความรู้จักตัวอย่างเกมบล็อกเชนหลากสไตล์ เพื่อให้เข้าใจว่าจริงๆ แล้ว GameFi ที่กลายเป็นที่กล่าวถึงมาสักพักนั้นคืออะไรกันแน่ เกี่ยวข้องกับแวดวงการเงินกระจายศูนย์อย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกับเกมออนไลน์แบบเดิมที่เรารู้จักแค่ไหน แล้วเกมบล็อกเชนที่ว่านั้นมีเกมไหนบ้าง
GameFi คือ การรวมกันของคำว่า ‘gaming’ และ ‘DeFi’ เป็นจุดร่วมระหว่างเกมบล็อกเชนและองค์ประกอบของระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ GameFi เป็นรูปแบบหนึ่งของการปูพื้นฐานสำหรับคนที่อาจจะไม่รู้จักกับเทคโนโลยีคริปโตเคอร์เรนซีมาก่อน ให้ได้ไปรู้จักกับโลกการเงินดิจิทัลในรูปแบบวิดีโอเกม
ที่สำคัญ GameFi ยังรวมเอาองค์ประกอบของ DeFi และ NFT เข้าไว้ด้วยกัน เกิดเป็นโมเดลการเล่นเกมที่ต่างไปจากเดิมอย่าง play-to-earn (P2E) การเล่นเกมออนไลน์แบบดั้งเดิมจะเน้นกระตุ้นให้ผู้เล่นจ่ายเงินซื้อไอเทมหรือเพื่อปลดล็อกไอเท็มหรือสิทธิพิเศษที่ดีกว่าและเหนือกว่าฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะมีทั้งใช้จ่ายเพื่อความสวยงาม เช่น สกิน ชุดเครื่องแต่งกาย และการจ่ายเพื่อมีความสามรถและไอเท็มที่เทพกว่าไปเลย หรือที่คนมักเรียกกันว่า pay-to-win
ในขณะที่ play-to-earn จะให้ไอเทม เหรียญดิจิทัล (token) หรือของที่มีมูลค่าทางการเงินแก่ผู้เล่น เพื่อนำไปใช้พัฒนาหรือสร้างการอัพเกรดบางอย่างตลอดการเล่นเกม หรือบางกรณีเราอาจสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านั้นได้
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและเข้าใจแนวคิด play-to-earn ของ GameFi ลองมาดู 5 เกมบล็อกเชนต่อไปนี้กัน
Axie Infinity
ใครคุ้นเคยกับโปเกมอน Axie Infinity ก็น่าจะเป็นเกมที่ทำความรู้จักได้ไม่ยาก ตัวเกมถือได้ว่าต้นแบบของการเล่นเกมแบบ play-to-earn ที่ประสบความสำเร็จ ตัวเกมว่าด้วยการฟักไข่และเลี้ยงเจ้ามอนสเตอร์หลากสายพันธุ์ ก่อนจะนำมาต่อสู้กันทั้งในแบบผจญภัยและเอาชนะผู้เล่นอื่น โดยมอนสเตอร์ในเกมนี้เรียกว่า Axies ถูกแทนให้เป็นโทเคน NFT มีค่าสถานะและความสามรถแตกต่างกันไป นี่เองที่ทำให้ผู้เล่นสามารถเลี้ยงมอนสเตอร์ในเกมได้ รวมทั้งนำโทเคนที่ได้ไปซื้อ-ขายต่อ
โทเคน : Axie Infinity Shards (AXS) และ Smooth Love Potion (SLP)
บล็อกเชน : Ethereum
The Sandbox
เดิมที The Sandbox เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2012 ซึ่งถูกปล่อยออกมาในรูปแบบเกมสมาร์ทโฟนภายใต้สตูดิโอ Pixowl ต่อมา Animoca ตั้งใจนำมาเปิดตัวใหม่อีกครั้งในรูปแบบเกม metaverse และ NFT ภายในปลายปีนี้ แน่นอนว่า The Sandbox เวอร์ชันล่าสุดจะเป็นเกมแนวโลกเสมือนที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสร้าง เป็นเจ้าของ หรือแม้แต่ทำรายได้จากการสร้างสิ่งต่างๆ ภายในโลก The Sandboxที่สำคัญ ผู้เล่นยังเป็นเจ้าของที่ดินดิจิทัลในเกมได้ผ่านการซื้อขายด้วยโทเคน
โทเคน : SAND
บล็อกเชน : Ethereum
CryptoBlades
เกมสวมบทบาทหรือแนว RPG ที่เลียนแบบเกมดั้งเดิมอย่าง Skyrim หรือ Dark Souls ผู้เล่นสามารถเล่นได้บนหน้าเว็บไซต์ เนื้อเรื่องของเกมจะเน้นทำภารกิจ เช่น การต่อสู้กับมอนสเตอร์ แข่งขันกับตัวละครในเกมที่เข้ามาโจมตีเพื่อเก็บโทเคน โดยผู้เล่นสามารถสร้างอาวุธที่สยบฝ่ายตรงข้ามหรือบูสต์พลังเพิ่มขึ้นได้ ที่สำคัญ ไอเทมเหล่านี้นำมาเทรดในตลาดได้ด้วย
โทเคน : CryptoBlades ( SKILL )
บล็อกเชน : Binance Smart Chain
Splinterlands
เกมการ์ดดิจิทัล NFT ตัวเกมเป็นแนวเกมต่อสู้แบบ 1-1 ซึ่งจะสุ่มตัวละครที่เราต้องแข่งขันด้วยมาให้ ผู้เล่นสามารถสร้างคอลเลกชั่นการ์ดสะสมหลากหลายแบบ รวมทั้งนำการ์ดนั้นไปใช้ต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น โดยการ์ดแต่ละใบจะแทน NFT ซึ่งนำไปเทรดหรือแลกเปลี่ยนในตลาดเปิดได้
โทเคน : Dark Energy Crystals(DEC) และ Splintershards (SPS)
บล็อกเชน : Hive
Alien Worlds
เกมวิดีโอที่จำลองเอาลักษณะเศรษฐกิจโลกมาอยู่ในรูปแบบเกมโทเคน มีพื้นฐานมาจากโลก metaverse และ NFT เน้นให้ผู้เล่นทำภารกิจขุดโทเคนประจำเกมอย่าง TLM โดยเราจะสวมบทบาทเป็นนักผจญภัยในปี ค.ศ.2055 ซึ่งเป็นโลก metaverse ที่ต้องทำธุรกรรมทุกอย่างผ่านการใช้โทเคน NFT นับเป็นเกมแรกที่มีผู้เล่นมากกว่า 100,000 ราย เหตุผลอาจเป็นเพราะ Alien Worlds เปิดให้เล่นได้ฟรี รวมทั้งยังเป็นเกมที่เล่นได้หลายบล็อกเชน ซึ่งต่างจากเกมอื่นที่ได้เล่นบนบล็อกเชนใดบล็อกเชนหนึ่งเท่านั้น
โทเคน : Trilium (TLM)
บล็อกเชน : WAX, Ethereum, หรือ Binance Smart Chain
อ้างอิงข้อมูลจาก