Xavier Dolan คือผู้กำกับชาวแคนาเดียน-ฝรั่งเศส ที่เกิดเมื่อปี 1989 นั่นคือมีอายุเพียง 28 ปีเท่านั้น แต่หนังของเขากลับได้รับการยอมรับเทียบขั้นได้กับผู้กำกับรุ่นเก๋าคนอื่นๆ แถมได้ผงาดในเวทีคานส์ตั้งแต่หนังเรื่องแรกเมื่ออายุ 20 ปี นับเป็นผู้กำกับวัยรุ่นมาแรงที่ทำหนังสวยแถมเป็นที่พูดถึงไปเสียทุกเรื่อง และเวลาตลอด 8 ปีในวงการ เขาก็มีความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดกับเทศกาลหนังเมืองคานส์อย่างแน่นแฟ้นทีเดียว
โดแลนเริ่มต้นอาชีพจากการเป็นดาราเด็ก แต่ด้วยใจรักทางการกำกับ เขาจึงอยากสร้างหนังของตัวเองขึ้นมาบ้าง พร้อมมีเป้าหมายชัดเจนตามที่เขียนไว้ในบล็อกของตัวเองว่า หนังของเขาจะต้องไปฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ให้จงได้! เขาไม่พูดเปล่าแต่ยังเริ่มเขียนบทโดยอิงจากความอินของตัวเองล้วนๆ แล้วนำไปเสนอกับค่ายหนังหลายต่อหลายค่าย สายแมสก็ลอง อินดี้ก็แล้ว ผลคือถูกปฏิเสธอย่างนิ่มนวลอยู่ตลอด
เด็กชายโดแลนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาทำการดรอปเรียนเป็นสัปดาห์เพื่อจะไปดูหนังเรื่องต่างๆ พบปะกับเหล่านักวิจารณ์และทำการบ้านเกี่ยวกับหนังเสมอๆ ทั้งยังเริ่มเก็บเงินจากงานแสดงมาทำหนังเองแบบไม่ต้องง้อใคร แล้วในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ
I Killed My Mother คือผลงานเรื่องแรกของโดแลนเมื่อปี 2009 ซึ่งเขาเขียนบทเอง กำกับเอง โปรดิวซ์เอง แล้วก็เล่นเองด้วย โดยเป็นหนังภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับวัยรุ่นอายุ 16 ซึ่งบอกเล่าว่าตัวเองรักแม่มาก แต่ไม่สามารถทนเป็นลูกชายของเธอได้
หนังเล่าความสัมพันธ์ของแม่ผู้เป็นโสดและลูกชายที่เป็นเกย์ เริ่มจากการทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ เมื่อลูกไม่พอใจแม่ที่แต่งหน้าบนรถขณะขับไปส่งเขาที่โรงเรียน จนแม่ไล่ลงจากรถให้เดินไปเอง เมื่อถึงโรงเรียนเขาได้ไปโกหกครูว่าแม่ตายแล้ว เมื่อครูจับได้จึงบอกว่า “เธอน่ะกำลังฆ่าแม่ตัวเอง รู้ไหม” เด็กหนุ่มเลยเขียนเรียงความเรื่องนั้นออกมาเสียเลย และจากจุดเริ่มต้นนั้น ความสัมพันธ์ของแม่ลูกก็เริ่มนำไปสู่เรื่องอื่นๆ จนถึงการ come out ที่เข้มข้นและส่งผลต่อความรู้สึกคนดูมากขึ้นเรื่อยๆ
I Killed My Mother กลายเป็นที่พูดถึงและได้ฉายรอบพรีเมียร์ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ใน Director’s Fortnight ผลคือได้รับการยืนปรบมือที่ยาวนาน 8 นาที พร้อมคำวิจารณ์ล้นหลามว่าเล่าความรู้สึกคนได้ลึกมาก ทั้งยังเป็นหนังต่อยหนักที่สังเกตการณ์ความจริงอย่างชาญฉลาดอีกด้วย
จากหนังนอกกระแสที่วัยรุ่นคนหนึ่งลุกขึ้นมาทำเอง จึงได้เข้าฉายถึง 12 โรงในเมื่อคิวเบค ประเทศแคนาดา และอีก 60 โรงในประเทศฝรั่งเศส แถมได้รับให้เป็น 1 ใน 10 หนังที่ดีที่สุดของแคนาดาในปีนั้นอีกด้วย
จากนั้นเขาก็ยังคงทำหนังออกมาอย่างต่อเนื่อง แสดงเองบ้างอยู่เหมือนเคย กับสไตล์และเรื่องเล่าที่ยังคงเล่นกับความสัมพันธ์ของวัยรุ่น โดยเฉพาะเพศทางเลือก ซึ่งเปลี่ยนแง่มุมไปเรื่อยๆ โดยมีจุดเด่นที่รสนิยมทางวิชวลซึ่งดีเหลือหลาย กลายเป็นหนังที่สวยตั้งแต่โลเคชั่น ซีน ยันโปสเตอร์ แต่แค่สวยอย่างเดียว อาจยังไม่พอ
หนังเรื่องหลังๆ ของเขาได้รับคำวิจารณ์ในทางลบมากขึ้นเรื่อยๆ บางเรื่องก็ทำเอาเสียงแตกแบบรักสุดหรือเกลียดสุด หรือบางเรื่องก็ทำเงินไม่ดีนัก
ล่าสุดกับเรื่อง It’s Only the End of the World ว่าด้วยการกลับมารวมญาติสุดวายป่วง โดยแฟนหนุ่มของลูกชายก็ได้มาร่วมพบปะครั้งนี้ด้วย ทั้งที่ครอบครัวยังไม่ทันรู้ว่าลูกชายตัวเองมีความชื่นชอบทางเพศแบบไหน เรื่องนี้ถูกจวกยับว่าเป็นหนังที่น่าผิดหวังที่สุดในคานส์ แม้จะมีคำวิจารณ์ด้านบวกโผล่มาให้อุ่นใจบ้าง แถมได้รับรางวัล Grand Prix อีกต่างหาก แต่โดยรวมแล้วก็ยังถือว่าอ่วมอยู่ดี
ความเผ็ดคือ ใช่ว่าโดแลนจะยอมถูกจวกอยู่ฝ่ายเดียว เขาเองก็ออกมาประกาศกร้าวว่าเขาคือเหยื่อที่ถูกบุลลี่อย่างรุนแรงในเทศกาลหนังครั้งนี้ และสิ่งนี้ก็ไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งนั้นในวงการหนัง แถมบอกอีกว่าจะไม่ส่งหนังเรื่องต่อไปของเขาอย่าง The Death and Life of John F. Donovan เข้าไปในเมืองคานส์อีกเด็ดขาด! (มาคอยดูกัน)
แล้วก็บังเอิญประจวบเหมาะที่หนังใหม่เรื่องนี้ก็พูดถึงชีวิตของนักแสดงทีวีซีรีส์ชาวอเมริกันที่เจ็บปวดอยู่ในวังวนของวงการ ซึ่งโดแลนบอกเองว่านี่คล้ายกับสิ่งที่เขาประสบพบเจอในเมืองคานส์พอดิบพอดี “แต่อย่าคิดว่านี่คือการแก้แค้นของผมเชียว เพราะผมเขียนบทเรื่องนี้มาตั้งแต่ 5 ปีก่อนโน่นแล้ว” โดแลนยืนยันอย่างนั้น
ใครที่อยากดูผลงานล่าสุดของเขาคิดว่าคงไม่ต้องรอนาน เพราะหนังเรื่องล่าสุดนี้กำลังอยู่ในช่วงโพสต์โปรดักชั่นและเริ่มมีการโปรโมทอยู่ประปราย โดยคราวนี้ได้ Kit Harington หรือจอห์น สโนวแห่งชาติมาแสดงนำ ร่วมกับ Natalie Portman และ Jessica Chastain ที่น่าจะมาทำให้เราเห็นบทบาทของพวกเขาในทางอื่นๆ กันมากขึ้น
แม้บางคนจะมองได้ว่าโดแลนเป็นผู้กำกับดาวรุ่งพุ่งแรงที่กราฟค่อยๆ แผ่วลงเรื่อยๆ แต่อย่างหนึ่งที่เราน่าจะพูดได้คือเขายังไม่ยอมแพ้กับการทำหนังในเร็วๆ นี้แน่ และที่ผ่านมา แม้ผลตอบรับจากหนังอาจทำให้เขาโกรธเกรี้ยวบ้าง แต่การเลิกทำหนัง อาจทำให้เขาโกรธเกรี้ยวยิ่งกว่า—โดแลนบอกกับ The Guardian อย่างนั้น และเราคิดว่าเราเชื่อ
อ้างอิง