เดี๋ยวก็กัดเล็บ เดี๋ยวก็ดึงผม จนตอนนี้เล็บกุด หัวโกร๋นหมดแล้ว
ตอนกำลังทำกิจกรรมอื่น พร้อมคิดเรื่องราวมากมายในหัว ถ้ามือดันว่างไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมเหล่านั้นไปด้วย ก็ต้องมีอยู่กันไม่สุข ยกขึ้นมาล้วงแคะแกะเกาส่วนต่างๆ ของร่างกายไปโดยอัตโนมัติ แล้วยิ่งส่วนไหนที่สามารถดึงหรือแกะออกมาได้ อย่างเช่น เล็บ ผม และสิว ก็ยิ่งแกะยิ่งแงะ ยั้งมือแทบไม่ทัน
เชื่อว่าหลายคนอาจมีพฤติกรรมลักษณะนี้ติดตัว บางทีเราก็ไม่ได้สังเกตหรอก ว่าเราเผลอทำมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็เล่นเอาเล็บแหว่ง ผมร่วงกองเต็มพื้นไปหมด หรือบางคนก็อาจทำไปโดยรู้ตัว แต่พอเริ่มแกะสักทีสองที ร่างกายมันก็ออโต้ทำไปเรื่อยๆ แล้ว
พฤติกรรมแบบนี้ มีชื่อเรียกเฉพาะว่า Body-Focused Repetitive Behaviors สำหรับหลายคน มันก็อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่แกะเการ่างกายนิดหน่อยเอง จะเป็นอะไรไป ทว่าพฤติกรรมเล็กน้อยที่เรามักมองข้ามเหล่านี้นี่แหละ อาจสร้างผลกระทบต่อตัวเรามากกว่าที่คิด

Body-Focused Repetitive Behavior คืออะไร?
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักพฤติกรรมนี้กันก่อนดีกว่า ว่ามันคืออะไร เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด แล้วพฤติกรรมแบบไหนที่เข้าข่ายว่าเราเป็น Body-Focused Repetitive Behavior บ้าง
Body-Focused Repetitive Behavior หรือ BFRBs ยังไม่มีชื่อเรียกภาษาไทย แต่หากแปลตรงตัว ก็อาจได้ความหมายประมาณว่า พฤติกรรมที่เราทำซ้ำๆ ย้ำๆ บนร่างกาย ซึ่งกลุ่มพฤติกรรมที่เข้าข่ายว่าเป็น BFRBs มักเกี่ยวข้องกับการกัด ดึง หยิบ หรือแกะ ส่วนใดส่วนหนึ่งของอวัยวะ เช่น ผม เล็บ ฟัน และริมฝีปาก โดยเราอาจทำลงไปทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้
หลายพฤติกรรมที่ถูกจัดอยู่ในประเภทของ Body-Focused Repetitive Behavior ยังมีชื่อเรียกเฉพาะเจาะจงของตนเองด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Dermatillomania (โรคแกะผิวหนัง), Trichotillomania (โรคดึงผม), Onychotillomania (โรคชอบกัดเล็บ) หรือกระทั่ง Crepitus (คนที่ชอบดึงข้อนิ้วให้มีเสียงก๊อบแก๊บ) เป็นต้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น BFRBs เป็นพฤติกรรมที่มักเกิดจากความเครียดหรือความวิตกกังวลเป็นสาเหตุหลัก แถมยังควบคุมได้ค่อนข้างยาก และบางครั้งตัวเราก็อาจปล่อยตัวปล่อยใจไปกับพฤติกรรมเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว เพราะมันสามารถช่วยบรรเทาความเครียดได้ทันทีทันใด
หลายคนอาจคิด แค่เราชอบกัดหรือแกะส่วนต่างๆ ของร่างกายมันจะอันตรายได้อย่างไร แต่พฤติกรรมเล็กน้อยที่เรามักมองข้ามนี้ สามารถสร้างผลกระทบกับตัวเราเองได้ งานศึกษาเกี่ยวกับ Body-Focused Repetitive Behavior ของ ดีนนา บริดจ์ นาเจรา (Deanna Bridge Najera) จาก Journal of the American Academy ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรม BFRBs อาจนำไปสู่การบาดเจ็บของร่างกายของเราเอง ยิ่งเราไม่ระมัดระวัง และปล่อยให้มันเป็นความเคยชิน มันอาจนำไปสู่การบาดเจ็บอย่างรุนแรง ตัวอย่างเช่น บางคนที่ชอบกัดเล็บ ก็อาจทำให้เล็บผิดรูป หรือรุนแรงจนถึงขั้นเลือดสะสมใต้เล็บ กลายเป็นจุดสีม่วงดำ และเลือดออกได้
นอกจากนี้ หากเรามีพฤติกรรม BFRBs และทำมันจนติดเป็นนิสัย ก็อาจทำให้เราเสียบุคลิกได้ด้วย ลองนึกภาพ เวลาเรากำลังประชุมหรือคุยธุระสำคัญกับผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วดันรู้สึกประหม่าหรือวิตกกังวล จนต้องยกเล็บขึ้นมาขบคลายเครียด ก็อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองเราไม่ดี หรือติดภาพลักษณ์นี้ของเราไปเลยก็ได้

แล้วเราจะแก้พฤติกรรมเหล่านี้ได้ยังไง?
แม้พฤติกรรมแบบ BFRBs อาจไม่ได้อันตรายถึงชีวิต หากแต่มันสามารถสร้างความอันตรายต่อร่างกายของเราได้ไม่ทางใดทางใดก็ทางหนึ่ง และมันคงจะดีกว่า ถ้าเราสามารถคลายเครียดได้ โดยไม่ต้องทำร้ายร่างกายตัวเอง
แคทเธอรีน แอนน์ ฟิลิปส์ (Katharine Anne Phillips) และ แดน เจ. สตีน (Dan J. Stein) ศาสตราจารย์ทางการแพทย์ จาก Weill Cornell Medical College และ University of Cape Town ได้แนะนำวิธีแก้พฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านี้ แถมยังเป็นวิธีที่เราสามารถทำได้ด้วยตนเองด้วย
พยายามตระหนักรู้ถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่
เราต้องพยายามที่จะรู้ตัวว่า เรากำลังรู้สึกอย่างไรและทำอะไรอยู่ โดยสามารถเริ่มได้ด้วยการทำความเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง พร้อมจับสังเกตพฤติกรรมของตัวเอง เพราะยิ่งเรารู้ถึงต้นสายปลายเหตุ ว่าเรามีพฤติกรรมแบบนี้จากเหตุใด ก็ยิ่งทำให้เราตระหนักและหาทางจัดการได้ง่ายมากขึ้น
หักห้ามใจตัวเองให้ได้
เมื่อเรารู้ตัวว่ากำลังมีพฤติกรรม BFRBs เราต้องรู้จักที่จะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำให้ได้ แม้จะเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะหลายคนก็อาจทำมันจนติดเป็นนิสัย ถึงอย่างนั้น เราก็ต้องเชื่อว่าเราจะหยุดมันได้ และค่อยๆ เรียนรู้ที่จะยั้งตัวเองไม่ให้ไปสร้างความอันตรายต่อร่างกายตนเอง
ฝึกทำอย่างอื่นแทน
เมื่อเรารู้แล้วว่า เรามักทำพฤติกรรมแบบไหน เมื่อเราต้องเผชิญกับความเครียดหรือความวิตกกังวล อาจลองมองหากิจกรรมอย่างอื่นมาทำทดแทนพฤติกรรม BFRBs เพื่อให้ร่างกายปรับตัว เช่น ถ้าเราชอบกัดเล็บ ก็อาจลองนั่งทับมือตัวเองเอาไว้ หรือกำมือเอาไว้เวลาจะยกขึ้นไปกัด
ให้คนรอบข้างช่วงเตือน
หลายครั้งเราก็อาจทำพฤติกรรม BFRBs ลงไปโดยที่เราไม่ทันได้สังเกตตัวเอง การมีเพื่อนหรือคนรอบตัวที่สนิทคอยช่วยสังเกตและคอยห้ามเราด้วยอีกแรง ก็อาจช่วยสร้างความตระหนักให้แก่เราในอีกทางหนึ่งเช่นกัน เพราะบางทีคนรอบตัวเราก็อาจมองเห็นในสิ่งที่เราไม่เห็นก็ได้
หาอะไรมาป้องกัน ไม่ให้เราเผลอทำมัน
ลองมองหาสิ่งของอะไรสักอย่างรอบตัว มาช่วยป้องกันเราไม่ให้แสดงพฤติกรรม BFRBs ก็สามารถช่วยได้ อย่างเช่น ใส่ถุงมือสำหรับป้องกันการกัดเล็บ ส่วมหมวกเพื่อป้องกันการดึงผม หรือเคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อไม่ให้เราเผลอกัดปากตัวเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเราลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้แล้วไม่ดีขึ้น หรือรู้สึกว่าตัวเองมีพฤติกรรมที่รุนแรงเกินไป ก็อาจลองไปพบจิตแพทย์ เพื่อดำเนินการรักษาตามวิธีทางการแพทย์ดู ก็อาจได้รับการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพกันมากขึ้นได้
ความเครียดและความวิตกกังวล ถือเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่มนุษย์ต้องเผชิญ ถ้าเราสามารถจัดการกับมันได้ โดยที่ไม่ต้องทำร้ายตัวเอง ก็อาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า
อ้างอิงจาก
communityhealth.mayoclinic.org