เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นค้าปลีกเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ค้าปลีกลดลงอยู่ที่ 16.4% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 16 เดือน นอกจากนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น รวมทั้งมาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวส์นั้น ส่งผลกระทบต่อกิจการต่างๆ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2.7 แสนล้านบาท อาจส่งผลต่อการเลิกจ้างงานและทำให้ธุรกิจค้าปลีกฟื้นตัวล่าช้า
ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดค้าปลีกไทยหลายรายก็ได้รับผลกระทบไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น เดอะ มอลล์ กรุ๊ป ที่วางแผนขยายสาขากูร์เมต์สำหรับตีตลาดค้าปลีกประเภทซูเปอร์มาร์เก็ต หรือ CPALL ที่ประสบภาวะกำไรหุ้นค้าปลีกร่วงลงมาถึง 25% จากการที่ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ถูกสั่งปิดช่วง 20.00 น. – 04.00 น.
หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2556 ธุรกิจค้าปลีกไทยถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะกิจการแต่ละประเภทเติบโตเป็นอย่างมาก แม้ในปีถัดมาจะไม่ได้มียอดการเติบโตที่พุ่งขึ้นมาเทียบเท่ากับปีนั้น หากแต่ยังอยู่ในระดับที่ทำให้เห็นลู่ทางต่อยอดโอกาสทางธุรกิจได้เรื่อยๆ ซึ่งแตกต่างจากช่วงเวลานี้เป็นอย่างมาก
ลองมาย้อนดูกันว่าห้าปีที่ผ่านมาจนถึงช่วงปีที่แล้วที่เกิดการระบาดโควิด กิจการค้าปลีกไทยแต่ละประเภทมีการเติบโตเป็นอย่างไร หลังจากประสบวิกฤตโควิดมีการเติบโตถดถอยลงไปเท่าไหร่ แล้วกิจการประเภทไหนได้รับผลกระทบมากที่สุด
ห้างสรรพสินค้า
ถือเป็นกิจการที่ได้รับผลกระทบรุนแรงสุดในบรรดาธุรกิจค้าปลีกทั้งหมด โดยช่วงปีที่ผ่านมา ห้างสรรพสินค้าประสบภาวะถดถอยจากการแพร่ระบาด ส่งผลให้สูญเสียยอดขายจากการถูกสั่งปิดชั่วคราวตามมาตรการรัฐ แม้ว่าจะมีโอกาสกลับมาเปิดบ้างในบางช่วงที่มีการผ่อนคลายมาตรการ ผู้คนก็ยังไม่กล้ากลับมาเดินกันเท่าไหร่ เพราะกลัวติดโรคจากการอยู่ในสถานที่ปิดและมีคนเยอะ
หากย้อนกลับไปก่อนหน้าเกิดการแพร่ระบาด มีการไหลเวียนของการลงทุนตลอดและต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี โดยเฉพาะในช่วงปี พ.ศ.2555-2556 ซึ่งเป็นช่วงที่ศูนย์การค้าค่อนข้างบูม ส่งผลให้เกิดการซื้อขายที่ดินและก่อสร้างอสังหาฯ ต่างๆ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ที่สำคัญ ห้างสรรพสินค้าเชนก็ขยายตัวรวดเร็วทั้งในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของประเทศและในจังหวัดท่องเที่ยว
ถึงอย่างนั้น เมื่อปี พ.ศ.2563 ผู้เล่นรายใหญ่อย่างเครือเซ็นทรัล เดอะมอลล์ และโรบินสัน ต้องถูกสั่งปิดในช่วงไตรมาสสองทั้งที่อยู่ในช่วงขยายสาขาก่อนหน้านั้น รวมทั้งประกาศปิดศูนย์การค้าอิเซตัน ทางออกของบรรดาผู้ประกอบการจึงต้องปรับโมเดลธุรกิจและเปลี่ยนมาอยู่ช่องทางออนไลน์ แม้ว่าการปรับทิศทางไปอยู่ออนไลน์จะมียอดขายเพิ่มขึ้นมามาก แต่ก็นับเป็นอัตราการเติบโตไม่เกิน 10% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งไม่ได้ช่วยชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปจากการถูกปิดหน้าร้านจริง
Discount Stores/Hypermarket/Supercenter
นับเป็นกิจการค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบในระดับที่พอรับได้ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะประสบปัญหาคนกักตุนสินค้าช่วงที่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด แต่ก็ยังขายสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ซึ่งทำให้ยอดขายกลับมาพุ่งได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563
เมื่อว่าถึงการลงทุนในกิจการประเภทนี้ ก็มีการปรับแผนขยายจำนวนสโตร์ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนกลับมาในระยะยาว ถือว่าง่ายกว่าการลงทุนกับห้างฯ เพราะใช้เงินทุนน้อยกว่า ลงทุนในทำเลกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับปริมณฑล โดยแตกสาขาย่อยออกมา แล้วทำออกมาเป็นรูปแบบร้านค้าทางเลือก เช่น เทสโก้โลตัสที่ทำโลตัส เอ็กซ์เพรส หรือบิ๊กซีที่เปิดมินิบิ๊กซีและบิ๊กซีฟู้ด 24 ชั่วโมง แน่นอนว่าการแข่งขันในกิจการประเภทนี้ก็ดุเดือดมากขึ้นตามไปด้วย
กำลังซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลางค่อนไปทางต่ำลดลงอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บรรดาผู้ประกอบการปรับทิศทางและหาวิธีกระตุ้นยอดขายหลากหลายช่องทาง
ซูเปอร์มาร์เก็ต
ต้องยอมรับว่าซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นกิจการค้าปลีกที่ได้รับการบันทึกว่ามีการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากิจการค้าปลีกทั้งหมด เพราะจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวันและของกินของใช้ต่างๆ ให้แก่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลางและสูง อันถือเป็นผู้มีกำลังซื้อสูง ในขณะเดียวกัน ก็เป็นกิจการค้าปลีกที่มีการแข่งขันดุเดือดมากทีเดียว เพราะมีผู้เล่นหน้าใหม่มาลงทุนในกิจการนี้มากขึ้น ราคาขายก็ตัดกำลังกันพอสมควร รวมทั้งแตกไลน์สินค้าหลากหลายกว่าเดิม ส่งผลให้เหล่าผู้ประกอบการต้องคิดหากลยุทธ์การขายให้ตอบโจทย์คนซื้อของตนมากที่สุด
นอกจากนี้ ยังเป็นกิจการค้าปลีกที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ในช่วงล็อกดาวน์ ถึงอย่างนั้น ผู้คนต่างประหยัดกันมากขึ้น รวมทั้งกังวลเรื่องความปลอดภัยด้านสุขลักษณะเป็นหลัก ทำให้บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตต่างปรับตัวการดำเนินกิจการให้ตอบโจทย์คนซื้อในเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าจะหันมาทำออนไลน์ เพิ่มบริการไดรฟ์ทรู จัดเตรียมคลังสินค้านำเข้าสำหรับรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
ร้านสะดวกซื้อ
ถือเป็นอีกหนึ่งกิจการค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด แต่ยังไม่ถือว่ารุนแรงเมื่อเทียบกับกิจการประเภทอื่น เดิมทีได้ส่วนแบ่งทางการตลาดจากการทำธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมมากที่สุด รวมทั้งมีอัตราการเติบโตและลงทุนที่แข็งแกร่งที่สุด เพราะเป็นกิจการที่ลงทุนน้อย สามารถขยายตัวไปในชุมชน ตรอกซอย และปั๊มน้ำมันได้อย่างทั่วถึง
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาลงทุนทำร้านสะดวกซื้อหลากหลาย ทั้งผู้ประกอบการไทย ผู้ประกอบการที่ไม่ได้มาจากการทำค้าปลีกแต่แรก (จิฟฟี่จาก ปตท. หรือ CJ Express จากคาราบาว กรุ๊ป) และผู้ประกอบการต่างชาติ หากพูดถึงผู้เล่นรายใหญ่สุดในกิจการนี้ แน่นอนว่าเซเว่น อีเลฟเว่น คือผู้เล่นสำคัญที่น่าจับตามอง เพราะมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึงประมาณ 70.5%
วิธีทำการตลาดมักเน้นเล่นโปรโมชันลดราคาสินค้าและปรับเลย์เอาต์ของร้านค้า เช่น ปรับเป็นพื้นที่แบบสองชั้น ขยายพื้นที่ร้าน เพิ่มลานจอดรถ เปิดสาขาในศูนย์การค้า เพิ่มไลน์สินค้าให้หลากหลาย เป็นต้น ที่สำคัญยังมีบริการชำระผ่านบัตรเครดิต และอาจเปิดขายผักและผลไม้สดแข่งกับซูเปอร์มาร์เก็ต
ถึงอย่างนั้น ต้องยอมรับว่าการเติบโตที่ลดลงในปีที่ผ่านมาเกิดจากกำลังซื้อของกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลางและต่ำลดลง รวมทั้งมาตรการรัฐที่ทำให้ต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปในช่วงล็อกดาวน์
หากพูดถึงผู้เล่นรายใหญ่สุดในบรรดากิจการค้าปลีกทั้งหมด แน่นอนว่า บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) คือผู้เล่นรายใหญ่ที่สุด โดยทำรายได้ได้ประมาณ 146 ล้านบาทจากการเปิดดำเนินร้านค้าในเครือไปในเมื่อไตรมาสแรกของปี พ.ศ.2563
ส่วนแนวโน้มของการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีกในปีต่อไป ได้มีการคาดการณ์ว่าอาจเติบโตเฉลี่ยปีละ 1.5-2.5% ในปีพ.ศ. 2564 – 2566 ถึงอย่างนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นการย้อนกลับมาดูปัจจัยที่อาจทำให้การฟื้นตัวของค้าปลีกไทยล่าช้า เพื่อนำไปพิจารณาและหาทางแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น โดยปัจจัยที่ว่าประกอบด้วย 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำฟื้นตัวช้า และการแข่งขันในกลุ่มค้าปลีกที่ดุเดือดกว่าเดิม
หากกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำฟื้นตัวช้า นั่นหมายความว่ากำลังซื้อหลักของกิจการค้าปลีกก็จะฟื้นกลับมาช้าตามไปด้วย ส่งผลให้ร้านค้าต่างๆ ติดกับดักจากระดับหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นและราคาสินค้าเกษตรที่ผันผวน นอกจากนี้ การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกดุเดือดขึ้น เพราะมีผู้เล่นจากผู้ประกอบการไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น ในขณะที่ e-commerce ก็เข้ามาแย่งยอดขายจากร้านค้าเหล่านี้อีกด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก