ดีเดย์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศได้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ ก็เริ่มมีข่าวการเลื่อนนัดฉีดวัคซีนออกมามากมาย ทั้งจากโรงพยาบาล และการลงทะเบียนผ่านระบบต่างๆ แต่เมื่อมีคำถามว่าทำไมถึงเลื่อน หน่วยงานต่างๆ กลับออกมาโพสต์ให้ไปถามอีกฝ่ายเอง จนประชาชนเกิดความสับสน ทั้งไม่ใช่แค่กับเรื่องการฉีดวัคซีน แต่ยังรวมถึงเรื่องของการคลายล็อกดาวน์ด้วย
The MATTER จึงรวบรวมมาว่า แต่ละที่ แต่ละหน่วยงานประกาศอย่างไร และล่าสุดในการประชุมของ ศบค.นั้น มีสรุปสถานการณ์ของวัคซีนที่เกิดขึ้นว่าอย่างไร และประชาชนอย่างเรา รู้อะไรบ้างในตอนนี้
12 มิถุนายน 64
ตั้งแต่ช่วงเย็นและค่ำ ของวันที่ 12 มิถุนายน เพจของโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ได้ออกมาโพสต์ขอเลื่อนนัดการฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อม 14-20 มิถุนายน เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีน และจะรีบแจ้งเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนแล้ว ซึ่งโรงพยาบาลนมะรักษ์ หนึ่งโรงพยาบาลที่ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน ก็ได้โพสต์ข้อความว่า หากมีข้อสงสัยถึงความไม่พร้อมของการฉีดวัคซีน ให้ติดต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งภายหลังผู้บริหารโรงพยาบาลได้แจ้งว่าถูกกดดันให้ลบโพสต์ ก่อนจะเปลี่ยนข้อความเป็นจาก ‘รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข’ เป็น ‘หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง’ แทน
13 มิถุนายน 64
ท่ามกลางคำถามว่า ทำไมถึงมีการเลื่อนฉีดวัคซีน ? มีปัญหาเรื่องการจัดสรรที่จุดไหน ช่วงสายของวันที่ 13 มิถุนายน ช่องทางของกระทรวงสาธารณสุขเอง ก็ได้โพสต์ว่า “กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนตามที่ ศบค. กำหนด เพื่อส่งไปยังทุกจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ส่วนการจัดสรรวัคซีนไปยังหน่วยฉีดของแต่ละจังหวัดเป็นหน้าที่ของจังหวัดนั้นๆ และ กทม. ดำเนินการเอง” ก่อนที่จะมีการลบโพสต์ในช่วงบ่ายของวันนั้น
ซึ่งขณะเดียวกัน อนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุขก็ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ – กระทรวงจัดสรรวัคซีนให้ กทม.ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วไป 5 แสนโดส จากที่จะจัดสรรคให้ 1 ล้านโดส “คำว่าวัคซีนไม่ได้ส่งจากกระทรวงสาธารณสุข พูดไม่ได้ พูดอย่างนี้ปราศจากความรับผิดชอบ สำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ กทม.ควรจะต้องบริหารจัดการวัคซีนที่ได้รับไปจากกระทรวงสาธารณสุขให้ดีที่สุด กระทรวงสาธารณสุขจัดการทุกอย่างที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบไปให้ กทม.หมดแล้ว” โดยเป็นการกระจายไปตามคำสั่งของ ศบค. ทั้งหมด
ไม่เพียงเท่านั้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคเองก็ได้ออกมาชี้แจงเช่นกันว่า เรื่องการจัดสรรวัคซีนของแต่ละพื้นที่นั้นเป็นหน้าที่ของทางพื้นที่หรือจังหวัดนั้นๆ การเลื่อนฉีดวัคซีนขอให้ไปสอบถาม สำนักอนามัย กทม. ถึงรายละเอียดการจัดสรร เพราะรัฐมนตรีและส่วนกลางจะไม่เข้าไปมีบทบาทด้วย
หลังจากถูกโยนให้ไปถามถึงเรื่องวัคซีนกับ กทม. ช่วงเย็น เพจเฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงรายละเอียดถึงการได้รับวัคซีนจาก กทม.ว่า ตามแผนการจัดสรรวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุข กทม. ได้รับการแจ้งว่าจะได้รับการจัดสรร AstraZeneca 2.5 ล้านโดส ซึ่งให้กทม.ไปทำแผนการฉีดให้สอดคล้อง โดยวันที่ 7-14 มิ.ย.64 นั้น ได้วัคซีนมาแล้ว 5 แสนโดส
ส่วนระบบหมอพร้อมนั้น เป็นการเปิดให้ รพ.ทุกแห่งในกรุงเทพฯ มาช่วยกันฉีดวัคซีน ดังนั้น กทม.ไม่ใช่ผู้ควบคุม และผู้ที่จัดสรรวัคซีน ก่อนจะปิดท้ายว่า “กทม.ยืนยันว่า กทม.พร้อม สถานที่พร้อม บุคลากรพร้อม และหาก “วัคซีนพร้อม” ตามแผน กทม.พร้อมจะดำเนินการฉีดให้กับประชาชนทันที”
แต่ในช่วงกลางดึกของวันนั้น กทม. ก็ได้ออกมาประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ลงทะเบียนในโครงการ ‘ไทยร่วมใจ’ ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 64 เป็นต้นไปอีกครั้ง ซึ่งยิ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และคำถามจากประชาชน
14 มิถุนายน 64
หลังจากที่มีการให้สัมภาษณ์ และชี้แจงกันไปมา ในช่วงเช้าวันที่ 14 มิถุนา ทั้ง 3 ตัวแทน ของหน่วยงานต่างๆ อย่างนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ จากกรมควบคุมโรค พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม. และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ชุดเล็กก็ได้มาแถลงข่าวถึงสถานการณ์การฉีดวัคซีนร่วมกัน
โดยนพ.โอภาส ชี้ว่า เดือน มิ.ย. มีการกระจายวัคซีนตามที่วางแผนไว้คือ 2 งวด คือ 7-20 มิถุนายน จะมีการจัดส่งวัคซีนไปประมาณ 3 ล้านโดส แบ่งเป็น 5 แสนโดสที่ส่งให้ กทม., 3 แสนโดสให้ประกันสังคม, มหาวิทยาลัย 1.5 แสนโดส, หมอพร้อมในทุกจังหวัด 1.1 ล้านโดส และเจ้าหน้าที่ต่างๆ อีก 1 แสนโดส ส่วนงวดที่ 2 วันที่ 21 มิถุนายน -2 กรกฎาคม อีก 3.5 ล้านโดส โดยรวมยังตามเป้า 6 ล้านโดสในเดือนมิถุนายน
ด้านผู้ว่าฯ อัศวิน ก็ชี้แจงว่า หวังว่าวัคซีนจะมาก่อน 14 มิ.ย. แต่เกิดการขัดข้องของผู้ที่จะส่งวัคซีนให้กระทรวงสาธารณสุข กทม.จึงต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนไป พร้อมย้ำว่าไม่มีความขัดแย้งกันกับ สธ. แต่ต้องขอบคุณ สธ. ที่ส่งคนมาช่วยฉีดวัคซีนใน กทม.ด้วย ซึ่งหากได้รับวัคซีนเมื่อไหร่ กทม.ก็พร้อมจะฉีดวัครุ่งขึ้นทันที
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ก็เสริมว่ายืนยันว่าฉีดได้ตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส ให้กับประชาชน 50 ล้านคนในปี 2564 แน่นอน อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายนมีการฉีดวัคซีน 6 ล้านโดส และเดือนต่อ ๆ ไปเดือนละ 10 ล้านโดส และเมื่อเกิดความคลาดเคลื่อนวัคซีนไม่ได้เข้าตามแผนก็ต้องมีการปรับแผน จะต้องมีการเลื่อนการฉีดกันบ้าง
ทั้งยังกราบขออภัยพี่น้องประชาชนด้วย โดยทาง ศบค.ประชุมร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ได้รับความร่วมมืออย่างดี “ไม่มีวัคซีนการเมืองทุกคนทำงานโดยกรอบนโยบายของ ศบค. ไม่มีประเด็นทางการเมือง” พล.อ.ณัฐพลกล่าว
ขณะที่อนุทินเองก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้มีการโทรศัพท์ไปเคลียร์ปัญหาเรื่องการจัดสรรวัคซีนกับอัศวินแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ได้สร้างความนิยม หรือแย่งงานกันทำ หากมีวัคซีนเข้ามา ก็จะเร่งกระจายทันทีด้วย ทั้ง รมว.สธ.ยังระบุอีกว่าวัคซีน AstraZeneca จะทยอยมาในสัปดาห์นี้ 1.5 ล้านโดส แต่ยังไม่สามารถระบุวันชัดเจนได้ เชื่อว่าไม่เกิดปัญหาหรือส่งผลกระทบ ต้องเลื่อนการฉีดด้วย
เราคงต้องมาติดตามกันอีกว่า จะเกิดเหตุการณ์เลื่อนฉีดวัคซีนอีกหรือไม่ หรือวัคซีนที่ต้องส่งมอบเองจะมีการเลื่อนส่งหรือไม่ และแผนฉีด รวมถึงการกระจายวัคซีนนี้จะถึงเป้าหมาย 100 ล้านโดสสิ้นปีหรือไม่
ทั้งไม่เพียงแค่เรื่องของการฉีดวัคซีนที่สร้างความสับสนให้ประชาชน แต่ยังมีเรื่องของการประกาศคลายล็อก ของทั้ง ศบค. และ กทม.ที่ออกมาขัดแย้งกัน จนนำมาสู่ประเด็นที่สำคัญคือ เรื่องของการสื่อสารของภาครัฐในสถานการณ์โรคระบาดที่มีมาปีกว่านี้ เราจะยังต้องพบการสื่อสารหลายทาง ที่ไม่เป็นเอกภาพของหน่วยงาน ที่สร้างความสับสนให้พวกเราไปอีกกี่รอบกัน ?
อ้างอิงจาก