ก่อนเข้าช่วงวันหยุดปลายสัปดาห์แบบนี้ หลายคนคงมีแผนเที่ยวแบบไม่กลัวฝนอยู่ในใจบ้างแล้ว ปาร์ตี้ที่น่าสนใจวันนี้เห็นจะเป็น S.I.S “Your Disco Needs You” by Trasher Bangkok ที่เน้นหนักเพลงดิสโก้กับร็อคแอนด์โรล
สำหรับร็อคแอนด์โรล หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีแล้ว ไม่ว่าจะในแบบรุ่นเก๋าของเอลวิส หรือถ้าเอาใกล้ตัวคนไทยยุคปัจจุบันก็คงต้องพูดถึง บอดี้แสลม ส่วนฝั่งดิสโก้ในยุคนี้อาจจะหาฟังยากสักหน่อย แต่ถ้าวงที่พอจะดังในบ้านเราก็คงจะเป็น วง Groove Riders ถ้าจะยุคเก่าคงจะเป็นวงอย่าง แกรนด์เอ็กซ์ หรือ พี่ตู้ ดิเรก ก็น่าจะพอนับให้อยู่โทนนี้ได้เหมือนกัน เกริ่นกันมานาน แต่จริงๆ จะพูดถึงเพลงดังเพลงหนึ่งของฝั่งนี้นั่นคือ
I Will Survive
ที่หยิบยกเอาเพลงดังของ Gloria Gaynor ที่วางขายตั้งแต่ปี 1978 มาพูดถึงไม่ใช่เพราะว่าเพลงนี้มีความโด่งดังในฐานะ LGBTQ Anthem อย่างที่หลายท่านคุ้นเคยกัน แต่เป็นเพราะเพลงนี้ถูกจดจำในฐานะที่เพลงที่ได้รางวัล Grammy Award for Best Disco Recording (รางวัลเพลงดิสโก้ยอดเยี่ยม) ที่ถูกจัดรางวัลนี้ไว้เพียงครั้งเดียวในการจัดการประกาศรางวัล Grammy Awards ที่มีจัดมายาวนานกว่า 57 ปีแล้ว
นอกจากที่จะเป็นเพลงระดับรางวัล I WIll Survive ที่มาของเพลงนี้ก็กลับแปลกแหวกแนวเข้าไปอีกเมื่อตัวเพลงเดิมทีเป็นเพียงเพลงหน้า B หรือ เพลงแถมของแผ่นซิงเกิลอีกเพลงหนึ่งอีกที (ว่าง่ายๆ คือเป็นเพลงแถมนั่นเอง) อาจจะเพราะท่วงทำนองที่เร้าอารมณ์ กับเนื้อหาที่โดนใจบอกเล่าชีวิต ‘คนที่ถูกเท แต่แล้วไงใครแคร์ ฉันเริ่ด ฉันเชิ่ด ฉันอยู่ได้ เย้ เย’
การที่อารมณ์ของเพลงนี้ดูองอาจกล้าหาญสอดคล้องกับเนื้อเพลงเหลือเกิน อาจจะมาจากประสบการณ์ของตัว Gloria Gaynor ในช่วงปี 1978 ก่อนเธอจะอัดเสียงเพลงนี้ เธอถูกผู้จัดการเก่าของเธอโกงรายได้แถมยังเอาชื่อของเธอไปกู้หนี้ยืมสิน ซ้ำร้ายตัวเธอยังประสบอุบัติเหตุพลัดตกจากเวทีจนต้องรับการผ่าตัดใช้เวลาฟื้นตัวกว่าหกเดือน ในช่วงที่เธอไปอัดเพลง I Will Survive เธอยังต้องสวมอุปกรณ์พยุงหลังกับตัวของเธอในการอัดเสียงเลยแหละ
สุดท้ายแล้วจากเพลงแถมที่น่าจะพอเปิดฟังเล่น กลับกลายเป็นเพลงที่เหล่าดีเจในสมัยนั้นกระหน่ำเปิดจนดัง มากพอที่ค่ายเพลงจะตัดสินใจออกแผ่นซิงเกิลแยกของเพลง I Will Survive อีกครั้ง ก่อนที่จะออกเวอร์ชั่นยาวราว 8 นาที มาลงในอัลบั้ม Love Tracks ในเวลาต่อมา
I Will Survive เวอร์ชั่นของ Chantay Savage ที่เจ้าของเพลงยังเอ่ยปากชื่นชม
ไม่เพียงแค่นั้น เพลง I Will Survive นี้ถือว่าได้ขึ้นชาร์ตเพลง Billboard 100 ตลอดช่วงเกือบ 4 ทศวรรษ เริ่มจากในปี 1979 ที่ตัวเพลงสามารถขึ้นสูงถึงอันดับ 1 ก่อนจะกลับมาขึ้นชาร์ตอีกในปี 1989 ด้วยเวอร์ชั่นป๊อปแดนซ์ที่นักร้องสาว Safire เป็นผู้ขับร้อง ที่ใส่ท่อนแร็ปจนเพลงไต่อันดับ 53 ได้ เวลาข้ามผ่านมาถึง ปี 1996 Chantay Savage ก็นำเพลงนี้มาร้องใหม่ในแบบ R&B จนเพลงได้ขึ้น Billboard อีกครั้ง และไปไกลจนถึงอันดับที่ 23
Hush Hush; Hush Hush ที่เคยครองใจขาแดนซ์ในช่วงหนึ่ง ก็ใช้ Sample จากเพลง I Will Survive
ข้ามมาปี 2009 วง Pussycat Dolls ได้นำทั้งทำนองและท่อหนึ่งของเพลง I will survive มาประกอบในเพลง Hush Hush ; Hush Hush พาเพลงขึ้นชาร์ตไปที่อันดับ 73 Billboard 100 และเมื่อปี 2011 ซีรีส์ Glee ก็นำเอาเพลง I Will Survive ไปร้อยเรียงกับเพลง Survivor เปลี่ยนเพลงสาวถูกเทให้เป็นสาวแกร่งไม่ต้องพึ่งพาใคร จนขึ้นชาร์ตสูงสุดที่อันดับ 51
นอกจากการคัฟเวอร์ข้างต้น เพลงนี้ยังถูกนักร้องดังท่านอื่นอย่าง Diana Ross, Aretha Franklin นำไปร้อง หรือถ้าแบบแหวกแนวก็จะมีเวอร์ชั่นภาษาอาราบิค หรือเวอร์ชั่นชายหนุ่มอย่างวง Cake ก็เอาเพลงดิสโก้ไปปรับเป็นแนวร็อคๆ ที่ทำให้หลายคนที่แหยงเพลงนี้ในฐานะเพลงของ LGBTQ กล้าเปิดฟังกันบ้าง
I Will Survive แบบร็อคจากวง Cake ที่ตัว Gloria ไม่แฮปปี้กับเนื้อเพลงหยาบคาย
แต่สำหรับ Gloria Gaynor แล้ว เวอร์ชั่นของ Cake เป็นงานที่เธอไม่พอใจเท่าใดนักเพราะมีการแปลงเนื้อเอาใส่คำหยาบเข้ามา ส่วนเวอร์ชั่นที่เธอชอบที่จะเป็นเวอร์ชั่นที่ Chantay Savage ซึ่งเธอให้ความเห็นว่า “ไม่ได้แค่ลอกแบบแต่เป็นตัวของตัวเองด้วย” นอกจากนี้เธอยังชื่นชมฉบับของ Gladys knight ด้วย
ทั้งนี้ Gloria Gaynor เอง ก็กลับมาร้องเพลงอีกครั้งในปี 1990 โดยมีการปรับคำร้องใหม่ให้สอดคล้องกับความศรัทธาต่อศาสนาคริสต์ของตัวเธอ (จึงไม่แปลกนักที่เธอเห็นว่าเพลงเวอร์ชั่น Cake หยาบคาย)
ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบเวอร์ชั่นไหน หรือจะไปชิลกับใครในค่ำคืนนี้ ก็อย่าลืมว่าเราจะต้อง Survive ไปทำงานวันจันทร์หน้ากันด้วยเนอะ
อ้างอิงข้อมูลจาก