คุณเชื่อไหม วิดีโอคนกำลัง ‘พับผ้า’ มียอดคนดูเกือบ 2 ล้านครั้ง
กิจกรรมอันแสนธรรมดาที่สุดกลับได้รับการดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างน่าประหลาด ไหนจะวิดีโอกดสิวที่ไล่ตั้งแต่สิวหัวเล็กจนถึงหัวใหญ่ ค่อยๆ ทำอย่างช้าๆ ให้หนองไหลเอื่อยออกมา ไม่ต้องเป็นสิวขนาดพิสดารก็ได้ แค่นี้ก็มีคนดูเป็นล้านๆ ครั้ง หรือพิลึกไปอีกขั้นคือการนั่งฟังคนกระซิบกันเป็นชั่วโมงๆ
มีคนที่ติดมันงอมแงมพอๆ กับคนที่บอกว่ามันเพี้ยนเกินไป
ความซาบซ่านนี้มีเหตุผลหรือไม่
โลกออนไลน์ที่ฉับไวมี ‘ความช้า’ อันย้อนแย้งอย่างน่าประหลาด และมนุษย์โหยหาความย้อนแย้งนี้มากเสียด้วย ยิ่งไปข้างหน้าเร็วเท่าไหร่ เราเริ่มเอียนกับการนำเสนอที่ตูมตามเร้าความสนใจตลอดเวลา แล้วหวนกลับมาสู่ความรู้สึกแผ่วเบาที่เข้าข่าย ‘พิลึกพิลั่น’ ใน YouTube แทบจะมีช่องที่อุทิศให้กิจกรรมเหล่านี้ที่เรียกว่า ‘Brain tingles’ หรือ ‘วิดีโอ ASMR’ และวิดีโอแบบนี้เป็นที่นิยมมากในกลุ่มวัยรุ่น สินค้าบางชิ้นทำวิดีโอ ASMR ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่กลับมีคนดูเป็นสิบๆ ล้านครั้ง จนมีแนวโน้มว่า ASMR กำลังเป็นวัฒนธรรมออนไลน์ใหม่ที่ดึงดูดสมองของคุณ
แต่เอาเข้าจริงๆ เจ้าวิดีโอประเภท ASMR กลับไม่ใช่ของใหม่อะไรเลย คนในยุคก่อนก็ชอบจ้องมองศิลปินใจเย็นอย่าง Bob Ross ในรายการโทรทัศน์ ดูเขาวาดรูประบายสีน้ำมันในรายการ The Joy of Painting (ซึ่งคุณยังหาดูย้อนหลังได้ใน YouTube) เขาบรรเลงฝีแปรงช้าๆ ผสมผสานกับการอธิบายผ่านลีลาและน้ำเสียงชวนฟัง รายการที่แทบไม่ได้ลงทุนอะไรเลยกลับสร้างชื่อเสียงให้ Bob Ross เป็นศิลปินดัง แม้เขาจะตายไปแล้ว แต่ Bob Ross ก็ยังกลายเป็นมีม (meme) ล้อเลียนที่เด็กยุค 9gag เห็นแล้วต้องร้องอ๋อ
จนถึงปัจจุบันที่วิดีโอ ‘พับผ้าเช็ดตัว’ เป็นอะไรที่ธรรมดาสุดกู่แต่กลับมียอดชมถึงเกือบสองล้างวิว ถ้าคุณนิยมดูอะไรเหล่านี้ก็สบายใจได้ว่าคุณไม่ใช่คนเดียวบนโลกใบนี้ที่มีรสนิยมประหลาด ความรู้สึกผ่อนคลายจากการดูคนอื่นทำกิจกรรมมีนัยสำคัญอย่างไร ทำไมสมองของคุณถึงติดพันกับมันนัก เรามาค่อยๆ ไขความลับของสมองกันผ่านประสาทวิทยากัน
ปรากฏการณ์พิลึกในสมองคุณ
นิยามของปรากฏการณ์นี้เริ่มถูกพูดถึงกันในช่วงปี 2010s เมื่อผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ Jennifer Allen เรียกด้วยคำนิยามว่า ASMR (ใช่แล้ว เจ้าวิดีโอ ASMR นั่นแหละ) ย่อมาจาก Autonomous sensory meridian response หรือการตอบสนองต่อประสาทรับความรู้สึกอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นประสาทการได้ยิน การสัมผัส การมองเห็นที่ให้ความรู้สึกสุขสงบอย่างประหลาด
พอปรากฏการณ์นี้ถูกนิยามออกไปในเชิงวิทยาศาสตร์—ดูมีหลักมีการ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่อายที่จะพูดถึง และยอมรับว่า “ฉันเองก็มีรสนิยมแปลกๆ นี้เช่นกัน” จากจุดเริ่มต้นที่เป็นกลุ่มลับๆ มีเพียงไม่กี่ร้อยคนที่แชร์วิดีโอในวงแคบๆ ก็เริ่มแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งใน Reddit มีคนกด subscribe สื่อในลักษณะ ASMR มากถึง 165,000 ราย
มีหรือที่นักวิทยาศาสตร์จะปล่อยให้ปรากฏการณ์น่าสนใจนี้หลุดลอยไป Craig Richard จากมหาวิทยาลัย Shenandoah University จัดตั้งเว็บไซต์ศึกษา ASMR โดยเฉพาะ เพื่อจุดประสงค์การทดลองทางวิทยาศาสตร์และการวิจัย
การที่สมองรับรู้ ASMR มีความใกล้เคียงกับภาวะ Synaesthesia ซึ่งคุณอาจเคยมีประสบการณ์นี้มาบ้าง เป็นปรากฏการณ์รับรู้ข้ามช่องสัมผัส เช่นการมองเห็นที่ไปเชื่อมกับการฟัง ได้ยินเป็นสี เห็นเป็นเสียง เห็นตัวหนังสือธรรมดาแต่ดันเห็นสี ได้ยินเสียงดนตรีแต่กลับได้กลิ่น ลูบไล้สิ่งของแต่สัมผัสได้ถึงรสชาติที่ปลายลิ้น
ในงานวิจัยของ Richard ได้ทดลองกับอาสาสมัคร โดยกระตุ้นพวกเขาให้เกิดประสบการณ์ ASMR จากสิ่งเร้าต่างๆ ที่มากถึง 475 สิ่ง ผลลัพธ์ทางความรู้สึกออกมามีทิศทางไปในทางเดียวกัน “มันรู้สึกซาบซ่านบริเวณกะโหลกศีรษะ แล้วค่อยๆ ลงมาสันหลัง และไปถึงหัวไหล่” อาสาสมัครรายหนึ่งกล่าว
จากการทดลองพบสิ่งเร้า 4 รูปแบบยอดนิยมที่ทำให้รู้สึก ASMR บ่อยครั้งที่สุด คือ
- เสียงกระซิบแผ่วเบา
- ภาพคนกำลังตั้งใจทำอะไรสักอย่าง
- การเคลื่อนไหวที่เชื่องช้า
- เสียงก๊อบแก๊บ (เช่น จากถุงขนม หรือขยี้พลาสติก)
อย่างไรก็ตามมีคำถามที่ยังไม่สามารถหาคำตอบมาอธิบายได้ว่า ทำไมมีคนบางกลุ่มที่รู้สึกซาบซ่านจากสิ่งเร้าเหล่านี้ แต่ไม่ใช่กับทุกคน (บางคนก็ไม่รู้สึกนะ ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ) จากการสำรวจในสหราชอาณาจักรที่นำเสนอในงานเผยแพร่วิชาการ Public Neuroscience ประจำปี 2014 เมื่อทดลองกับคน 91 คน พบว่ามี 53 คนที่รู้สึกแบบ ASMR อีก 15 คนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย และอีก 23 คนไม่แน่ใจว่าต้องรู้สึกยังไงดี แต่จากเปอร์เซ็นต์ดังกล่าวก็แสดงว่า ASMR ไม่ได้เป็นประสบการณ์ของคนกลุ่มน้อย ถ้าเทียบกับภาวะ Synaesthesia ก็เรียกได้ว่ามีคนที่รู้สึกแบบ ASMR มากกว่าเยอะ แต่อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ไม่รู้จะนิยามความรู้สึกซาบซ่านนี้อย่างไร จนกระทั่ง ASMR ถูกเผยแพร่มากขึ้นผ่านคนรุ่นใหม่ และเริ่มมีคนยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ
คำอธิบายในขณะนี้ที่พอจะมีเหตุผลมาจากนักประสาทวิทยา Daniel Bor จากมหาวิทยาลัย University of Cambridge ที่กล่าวว่า ประสบการณ์ ASMR น่าจะสามารถส่งต่อผ่านทางพันธุกรรมได้จากพ่อแม่สู่รุ่นลูก เมื่อมีประสบการณ์นี้ชีพจรจะช้าลง หัวใจเต้นช้า สัมผัสทางผิวกายจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อใช้เทคโนโลยีสแกนสมองร่วมด้วยพบว่า ภาพวิดีโอแนว ASMR จะทำให้สมองของอาสาสมัครบางกลุ่มถูกกระตุ้นในส่วนของการให้รางวัล (brain reward system) และสมองส่วนควบคุมอารมณ์
หากมองในกรอบของวิวัฒนาการแล้ว ความรู้สึกซาบซ่านนี้อาจส่งต่อผ่านวิวัฒนาการจากกลุ่มบรรพบุรุษวานร (apes) ที่มีพฤติกรรม grooming เป็นการใช้มือคอยหวีขนกายให้กัน ปัดเป่าเอาเศษดินหรือแมลงออก และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่กระชับมิตรในฝูง ‘ความฟิน’ จากการกรูมมิ่งจึงใกล้เคียงกับประสบการณ์ ASMR ในมนุษย์ มันทำให้เราให้ความใส่ใจแก่คนอื่น สนอกสนใจผู้อื่น เฝ้ามองผู้อื่นว่าเขากำลังทำอะไรกับชีวิต แม้จะเป็นกิจวัตรอย่างการพับผ้าใส่ตู้ บีบสิว หรือกระซิบแผ่วเบาก็ตาม อาจกล่าวในอีกนัยหนึ่งว่า ASMR เป็นความเชื่อมโยงทางสังคม (social connection) ในแบบที่เราไม่รู้ตัว ซ่อนอยู่ในความปรารถนาที่ซับซ้อนอีกที
นั่นแหละสมองมักสื่อสารกับคุณในรูปแบบที่แปลกประหลาดเสมอ ยิ่งในกรอบของวิวัฒนาการด้วยแล้ว ยิ่งพิลึกซับซ้อนเข้าไปอีก แต่อย่างไรก็ตามประสบการณ์ ASMR ยังไม่เข้าข่ายเป็นอาการทางจิตเวชที่ต้องเข้าบำบัดรักษา ต่อให้คุณชอบดูคนบีบสิวก็ยังไม่ถือว่า ‘เพี้ยน’ จนกว่าจะเลยเถิดรู้สึกต้องดูทุกวัน ไม่ดูจะไม่เป็นสุข หรือจำเป็นต้องดูอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจนไม่เป็นอันทำอะไร หากถึงขั้นนั้นก็อาจจะเป็นการเสพติด (addiction) และสิ่งเร้า ASMR ที่คุณมีและเป็นรสนิยมส่วนตัวก็ไม่ควรไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือผิดต่อหลักกฎหมาย—ความซาบซ่านในแบบส่วนตัวของคุณก็นำมาซึ่งปัญหาได้เช่นกัน
ในอนาคตประสบการณ์ ASMR มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้รักษาหรือเบี่ยงเบนผู้ป่วยจากความเจ็บปวดได้ เพราะมีข้อค้นพบว่าสามารถลดอัตราหัวใจเต้นได้ในระหว่างการพักฟื้น (มีอัตราใกล้เคียงกับการบำบัดด้วยดนตรี) ไปจนถึงการรักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ โรคซึมเศร้า หรือแม้แต่โรคสมาธิสั้น
ความซาบซ่านที่พิลึกของคุณมีที่มาที่ไป สมองและวิวัฒนาการทำหน้าที่ซับซ้อนเมื่ออยู่ในบริบทร่วมกัน
หวังว่าคุณคงโอเคขึ้นกับการรู้สึกดีเมื่อดูใครพับผ้าหรือกดสิวนะ
อ้างอิงข้อมูลจาก
- Interview with Jennifer Allen, the woman who coined the term, ‘Autonomous Sensory Meridian Response’ (ASMR)
- Brain Tingles: The Secret to Triggering Autonomous Sensory Meridian Response for Improved Sleep, Stress Relief, and Head-to-Toe Euphoria