มองไปรอบตัวในตอนนี้ ไม่ว่าเราจะอยู่ในบ้าน ร้านอาหาร ห้างร้านต่างๆ หรือแม้แต่พื้นที่สาธารณะ มันจะมีสักที่ให้เราได้หย่อนตัวลงไปนั่งได้
หากได้หย่อนกายลงตรงไหนสักที่ บางคนอาจเลือกเก้าอี้นุ่มรับสรีระ บางคนอาจเลือกเก้าอี้ดีไซน์เก๋จากดีไซเนอร์ดัง บางคนอาจเลือกเก้าอี้ที่บ่งบอกถึงอำนาจเหนือฟังก์ชั่นอื่นใด
เก้าอี้ที่ถูกตั้งในแต่ละที่ ต่างก็มีหน้าตาที่เปลี่ยนไปตามการใช้งาน เก้าอี้ที่ประกอบเข้าชุดอยู่กับโต๊ะกินข้าวจะมีระยะที่พอดีกับโต๊ะ เก้าอี้นั่งพักผ่อนในห้างสรรพสินค้า ดีไซน์ล้อไปกับการออกแบบภายใน เก้าอี้นั่งทำงาน สอดรับพอดีกับสัดส่วนในร่างกาย หรือเป็นเก้าอี้บ่งบอกตำแหน่งฐานะได้ตั้งแต่ยังไม่เห็นเจ้าของ

หากจะย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของเก้าอี้ อาจจะเริ่มด้วยประเด็นที่ว่า มนุษย์เรารู้จักพักพิงอิงกายด้วยกริยาท่าทางนั่งบนอะไรสักอย่างตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เก้าอี้ยังไม่มา แต่การนั่งบนอะไรสักอย่างได้เริ่มแล้ว ตั้งแต่ยุคหินโน่นเลย อาจเริ่มจากนั่งบนพื้นทั่วไป ท่อนไม้ โขดหินตามธรรมชาติ เชื่อว่าในยุคนั้นเราไม่ได้กระทำการนั่งบ่อยและนานเท่าผู้คนในยุคปัจจุบัน ยุคหินใหม่ (Neolithic) ก็เริ่มจะประดิษฐ์ประดอยทำที่นั่ง มีหลักฐานของที่นั่งหินในสกอตแลนด์ ราว 3,200 ปีก่อนคริสตกาล
น่าทึ่งตรงที่ไม่มีการค้นพบอะไรเพิ่มเติมเลย จนถึงช่วงอารยธรรมอียิปต์ตอนต้น (ห่างกันเพียง 100 ปี) ก็เกิดเป็นเก้าอี้ขึ้นมาเลย แต่หากพูดถึงเก้าอี้เดี่ยวๆ ตัวเดียวที่ไม่ใช่ม้านั่งยาวสำหรับหลายคน เก้าอี้ที่ว่านั้นของอียิปต์ หน้าตาคล้ายคลึงกับเก้าอี้ในปัจจุบันนี้นี่แหละ มีพนักพิง มีขา มีที่พักแขน ต่างกันที่ความสูงที่มันออกจะเตี้ยเรี่ยดินเสียหน่อย เน้นความวิจิตร งดงาม แกะสลัก ประดับด้วยวัสดุราคาแพง ใช้โดยชนชั้นสูง เช่น ฟาโรห์ หรือขุนนาง รวมถึงเก้าอี้ของกษัตริย์ที่เรียกว่าบัลลังก์ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนี้ด้วยเช่นกัน

ขยับมาที่เจ้าแห่งอารยธรรมอย่างกรีกและโรมัน เหมือนมีพิมพ์เขียวของเก้าอี้มาอยู่แล้ว กรีกจึงได้เริ่มพัฒนาในเรื่องดีไซน์แทน ปรับให้รับกับสรีระร่างกายมากขึ้น ในชื่อ ‘klismos’ นับเป็นก้าวสำคัญเพราะทำให้เราได้ใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงโค้งรับกับหลัง ส่วนโรมันประดิษฐ์เก้าอี้พับได้ มีโครงสร้าง X-frame แถมยังหน้าตาหรูหราหมาเห่า ไม่ได้เอาไว้ไปตั้งแคมป์นอกสถานที่ แต่เอาไว้อำนวยความสะดวกเจ้าขุนมูลนายนั่งได้ทุกที่ต่างหาก
เป็นเช่นนั้นเรื่อยมาจนถึงยุคกลาง เก้าอี้ก็ไม่ได้เป็นของหายากอะไร แต่มันจะมีความต่างอยู่เล็กน้อย หากสังเกตได้ เก้าอี้ของประชาชนธรรมดา ไพร่ฟ้าหน้าใส นิยมนั่งบนอะไรก็ได้ที่มันเหลี่ยมๆ ลักษณะเหมือนกล่อง นั่งพื้น นั่งเสื่อรวมๆ กัน ดีหน่อยก็เก้าอี้หัวโล้น ม้านั่งยาว แต่เก้าอี้วิจิตรตระการตานั้นเป็นที่นิยมในชนชั้นสูงเท่านั้น ทั้งการใช้ส่วนตัว ใช้ในงานสังคม ทั้งกษัตริย์ ขุนนาง หรือแม้แต่ผู้นำทางศาสนาก็ยังมี bishop’s chair ที่แสดงถึงฐานะทางสังคม ทำให้การนั่งบนอะไรสักอย่างมันบอกถึงอำนาจของคนนั้นได้ คนธรรมดาทั่วไป ไม่ได้มีเวลามาสนอกสนใจว่าเก้าอี้ที่นั่งมันจะเลิศหรูขนาดไหน แค่ใช้เวลาทำงานในหนึ่งวัน มีที่ได้นั่งพักก็นับว่าดีแค่ไหน เราจึงได้เห็นวิวัฒนาการของเก้าอี้จากฟากฝั่งของชนชั้นสูงมากกว่า

ผ่านยุคสมัยต่างๆ เก้าอี้ถูกออกแบบไปตามค่านิยมความงามในยุคนั้น แต่ยุคที่เกิดจุดเปลี่ยนของที่นั่งนี้ ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ศตวรรษที่ 19 เราสามารถผลิตสินค้าได้จำนวนมากขึ้นทำให้ของชิ้นนั้นถูกลง พี่น้องตระกูล Thonet ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากยุโรปใช้เทคนิคดัดไม้ด้วยไอน้ำ (steam-bending) ทำให้ชิ้นส่วนโค้งงอได้และประกอบง่าย และเก้าอี้แห่งยุคนั้นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ เก้าอี้หมายเลข 14 เส้นสายโค้งงอเรียบง่ายแต่สวยงาม กลายเป็นเก้าอี้ขายดีระดับโลก ที่ยังคงตั้งอยู่ในคาเฟ่ ร้านอาหารหลายแห่ง
เมื่อเก้าอี้มีจำนวนมากในท้องตลาด ราคาถูกลงจากการผลิตครั้งละมากๆ ในอุตสาหกรรม ทำให้เก้าอี้มาตั้งอยู่ในทุกบ้าน โดยไม่ใช่แค่ที่นั่งที่จะนั่งตรงไหนก็ได้ แต่เริ่มเป็นเก้าอี้ที่เราใส่ใจมากขึ้นว่า เก้าอี้นี้เหมาะกับกิจกรรมไหน เก้าอี้เดี่ยวๆ ของใครคนหนึ่ง ไม่ต้องนั่งรวมกันให้มันหายเมื่อยแล้วก็ลุกไป

หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาด้านดีไซน์เรื่อยมา ช่วงเวลาที่ผู้คนให้ความสนใจกับสุนทรียภาพในชีวิต จนเกิดเป็นเก้าอี้ของดีไซน์เนอร์ก้องโลกจาก Bauhaus แรงบันดาลใจที่ถูกลอกเลียนไปทุกแห่งหน จนมาถึงวันนี้ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์โก้เก๋ แต่เป็นเทรนด์ ergonomic เก้าอี้เพื่อสุขภาพที่รองรับสรีระของผู้ใช้งาน ตอบโจทย์ชีวิตที่ผู้คนนั่งนานขึ้นกว่าวันวานมากโข
หากกลับไปบอกผู้คนในยุคก่อนว่า เราทุกคนต่างมีเก้าอี้ประจำตำแหน่งเป็นของตนเอง เพราะเราไม่ต้องยืนขาแข็ง แต่กลับต้องนั่งจับเจ่าทำงานทั้งวันแทน คงเป็นเรื่องขบขันไม่น้อย
อ้างอิงจาก
History of the Chair – A Story to Sit and Enjoy! 2025
The 5,000-Year History of the Chair – The Atlantic
Chairs: Seating From Antiquity To Modernity | Styylish