สำหรับคุณพ่อมือใหม่หลายๆ คน วันนี้คงเป็นวันพ่อปีแรก ที่ได้เป็นคุณพ่อเต็มตัว บางคนก็เพิ่งเริ่มเป็นพ่อได้ไม่กี่ปี ยังคงมีความเป็นวัยรุ่น ที่อยากจะให้ลูกซึมซับสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ว่าจะเล่นเกม อ่านการ์ตูน สะสมโมเดล หรืองานศิลปะ
The MATTER ได้ไปคุยกับคุณพ่อมือใหม่ 4 คน ว่าพ่อแต่ละคนมีวิธีการเอาไลฟ์สไตล์มาสอนลูกอย่างไร การเลี้ยงลูกของคุณพ่อในยุคสมัยนี้เปลี่ยนไปจากสมัยรุ่นพ่อแม่แค่ไหน และมีแนวคิดกับการเลี้ยงลูกเป็นเพื่อนกันอย่างไร
วิชัย มาตกุล – Creative Director ของ Salmon House
ชอบดูหนังก่อนนอน ทำงาน กลับบ้าน อ่านการ์ตูนบ้าง เริ่มหยิบการ์ตูนเล่มๆ มาอ่าน หันมาซื้อหนังสือการ์ตูนเป็นเล่มๆ แบบนี้ (ชี้ไปที่กองวันพีชข้างหลัง) เพราะกลัวว่าลูกจะไม่มีการ์ตูนเล่มอ่าน ซื้อมาทำชั้นหนังสือ เดินห้างกับครอบครัว
ลูกชายชื่อ ‘ไทธรรม์’ อายุ 3 ขวบ ยังพูดไม่ได้ เป็นเด็กที่มีแบบแผน แปลว่า ถ้าทำ 1 2 3 4 แล้วทุกวันก็ต้องทำแบบเดิม เช่น ตื่นมา ต้องเลือกเสื้อผ้าเองทุกวัน, แปรงฟันเสร็จต้องปิดประตู 2 ครั้ง ถ้าไม่ปิด 2 ครั้งจะไม่ไปทำอย่างอื่น หรือไปร้านอาหารต้องเล่นป้าย Welcome หน้าร้าน 2 ครั้งก่อนเข้าร้าน ออกมาเล่นอีก 2 ครั้ง คือมันพิธีการมากจนเราคาดเดาได้ แต่บางทีก็เออ จะเยอะ อะไรแบบนี้
The MATTER : การมีลูกเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเราไปไหม
เปลี่ยนครับ พอมีลูกแล้วศูนย์กลางจักรวาลไม่ใช่เราแล้ว แต่ไปอยู่ที่ลูก ทุกอย่างหมุนตามเขา ถ้าเขาร้องไห้ เราต้องตื่น ถ้าเค้าไม่ยอมให้เราทำแบบนี้ เราก็ทำไม่ได้ อีกอันที่เปลี่ยนไปมากคือ ลูกเกิดมาเพื่อลดอัตตาเรา ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเราแล้ว เกมมีสิทธิพังได้ตลอดเวลา พื้นที่สะอาดอยู่ ลูกทำของกินหก เราก็ต้องมีเช็ดพื้น ความสงบสุขที่เคยคิดว่าเป็นของเราในห้อง ตอนนี้เขาก็เข้าห้องเราได้แล้ว ก็คือทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเราเลย มันมีสิทธิพังได้ตลอดเวลา ทุกอย่างเป็นของธรรมชาติ และลูกเป็นพระเจ้าที่พร้อมจะพังอะไรของเราตลอดเวลา
The MATTER : ใช้สิ่งที่เราชอบ ไลฟ์สไตล์ของเรา มาเลี้ยงลูกไหม สอนยังไง
เราเป็นคนที่สะสมอะไรบางอย่างในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเสมอ และอันนี้ดี เราเลยพยายามให้ลูกสะสมอะไรบางอย่าง ทุกวันนี้ไทธรรม์ชอบสะสม ‘สมุดสะสมแสตมป์’ คือไปเซเว่นแต่ละสาขา เขาก็จะหยิบสมุดพวกนี้กลับมาดูที่บ้าน เราชอบให้ลูกเป็นแบบนั้น
The MATTER : มองตัวเองที่เลี้ยงลูกในตอนนี้ เหมือนหรือต่างจากเมื่อก่อนที่พ่อเลี้ยงเรามาไหม
เรารู้สึกว่า เราโตมาในแวดวงนักเขียน นักคิด ดีไซเนอร์ ซึ่งแบ็คกราวด์ของคนพวกนี้คือเรียนไม่เก่ง สอบไม่ค่อยผ่าน เราเลยคิดว่าการศึกษามันอาจจะเป็นส่วนสำคัญ แต่สุดท้ายพวกเค้าก็มาถึงจุดนี้ได้ เราเลยเป็นคนที่ไม่ผลักลูกเรื่องเรียน อยากโดดก็ได้ ไม่ได้ซีเรียสกับเขา วันไหนเราอยากไปเที่ยว ก็ให้ลูกโดดเรียนเลย ไม่ไปส่งลูก และพาไปเที่ยว บางทีมันก็ไม่ดีแหละ
ยุคนี้มันก็มีขอเสียเพราะมันทำให้เราพารานอยด์กับเรื่องบางเรื่องเยอะมาก เพราะเราก็เห็นข่าว เช่น ครูทารุณเด็ก เด็กติดอยู่ในรถโรงเรียนแล้วตาย มันก็ทำให้เราหลอน อย่างลูกไปโรงเรียนวันแรกเราก็หลอนๆ ว่าลูกจะถึงบ้านยัง
The MATTER : คิดเห็นยังไงกับคำที่ว่า ‘เลี้ยงลูกแบบเป็นเพื่อน’
เลี้ยงลูกให้มาเป็นเพื่อนก็ดี แต่มันยากนะ เราจะอิจฉาพ่อแม่ที่สามารถเป็นเพื่อนกับลูกได้ แต่อย่างเรา เราคิดว่าเราเป็นเพื่อนกับลูกไม่ได้ บางที Generation Gap มันกว้างมากไป พ่อแม่ต้องลดความเป็นพ่อแม่ลงเยอะมาก เพื่อจะรับความเป็นลูกให้เยอะขึ้น แต่ความเป็นพ่อแม่กับลูกมันจะมีความอาวุโส ความเป็นคนละระดับเกิดขึ้น คนที่ทำแบบนั้นได้เก่ง เราเลยคิดว่าเราคงเป็นเพื่อนกับลูกยาก เพราะเราทำงานเยอะ กลับบ้านไม่ค่อยเจอเขา และแบ่งเวลาไม่ได้ ก็เสียใจนะ แต่คิดว่าโตมาพอเขาเห็นว่าเรามีของเล่นเยอะ เขาจะมาสนิทกับเรานะ
อาทิตย์ เลิศรักษ์มงคล เปิดร้านขายอุปกรณ์ถ่ายภาพแบบอนาล็อก
ลูกสาวชื่อ มาลิ เพิ่งเกิดได้ 3 อาทิตย์
The MATTER: การมีลูกเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเราไปไหม
เปลี่ยนนะ เปลี่ยนหมดเลย ก่อนหน้านี้ลูกไม่ได้อยู่ในสัดส่วนชีวิตเราเลย จากที่แต่ก่อนเรากับแฟนต่างคนต่างดูแลตัวเองได้ และช่วยกันทำงาน พอมีลูกปุ๊ปเราก็ต้องแบ่งเวลามาช่วยแฟน เราต้องทำพาร์ทที่แฟนเคยช่วยเราได้ อย่างไลฟ์สไตล์ที่เราถ่ายรูป ตอนแรกก็ต้องหยุดไปเลย แต่เราก็พยายามกลับมาถ่ายให้ได้ เรามองว่างานศิลปะเป็นงานของเราอย่างนึงเลย เราทำให้งานศิลปะกับงานเราเป็นเรื่องเดียวกัน ปกติเราออกไปถ่ายรูปอาทิตย์ละ 1 วัน คือเราไม่ได้ถ่ายเป็นช่างภาพ เรามองการถ่ายรูปคือการใช้ชีวิต ออกไปเดินถ่ายไปเรื่อยๆ เลย พอมีลูกก็พยายามจัดการให้มีเวลาถ่ายรูปต่อไป เพราะมันคือการใช้ชีวิตของเรา
The MATTER: วางแผนจะใช้สิ่งที่เราชอบ หรือไลฟ์สไตล์ของเรา มาสอนลูกไหม
การที่เราสร้างงานแบบนี้ เปิดร้านที่เกี่ยวกับงานศิลปะขึ้น พื้นที่ทุกอย่าง การที่เราเอาเพื่อนมาร่วมงาน หรือการถ่ายสตรีท คือเราต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นงานศิลปะ และเราเชื่อว่างานศิลปะมันคือการสร้างชีวิต พอลูกเราได้เติบโตสภาพแวดล้อมแบบนี้ มันไม่ใช่แค่เรา คือด้วยบรรยากาศที่รายล้อมแบบนี้ เราเชื่อว่าลูกเราจะเติบโตผ่านมุมมองศิลปะ
The MATTER: มองตัวเองที่เลี้ยงลูกในตอนนี้ เหมือนหรือต่างจากเมื่อก่อนที่พ่อเลี้ยงเรามาไหม
ต่างมาก พ่อแม่เราก็ชอบงานศิลปะ แต่เค้าไม่ได้มีฐานะที่ดี เค้าทุ่มวันเวลาไปกับการทำมาหากิน เรายังโชคดีที่เค้ายังมี material ต่างๆ ในบ้าน อย่างเพลง แผ่นเสียง หนังสือ การวาดรูปต่างๆ มันเหมือนเป็นเมล็ดพืชวางอยู่ในบ้าน เราโชคดีที่เติบโตมากับ material พวกนี้ เราเลยรู้ว่าการเติบโต กับสิ่งเหล่านี้มันสำคัญมาก พอเป็นเรา เราก็คิดไว้แล้วว่าเราจะสร้างสภาพแวดล้อมพวกนี้ขึ้นมา ทั้งจากงานที่เราทำ เขาจะซึมซับไปเอง เราไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะต้องเป็นช่างภาพสตรีท เราเชื่อว่าศิลปะมันสำคัญในการใช้ชีวิตทุกเรื่อง ไม่ว่าเขาจะเป็นวิศวกร นักบิน หรือหมอ ศิลปะมันเป็นสิ่งสำคัญในทุกงาน
The MATTER: คิดเห็นยังไงกับที่ตอนนี้ มีหลายคนบอกเลี้ยงลูกมาให้เป็นเพื่อน
เราว่ามันคล้ายๆ กันสำหรับเรา เราใช้คำว่า อยากให้ลูกเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรารู้สึกว่าทุกอย่างมันต้องเท่าเทียมกัน ถ้าเราคิดว่าเราจะห้ามเขาทำสิ่งนี้ เราต้องห้ามทำด้วย เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จะทำให้เขาเชื่อใจเรา เราไม่รู้ว่าคือการเป็นเพื่อนไหม แต่เพื่อนจะทำอะไรมันก็เท่าเทียมกัน มันจะไม่เหมือนผู้ใหญ่กับเด็ก ที่ห้ามคนหนึ่งทำ แต่คนหนึ่งทำได้ กับลูกเรามองว่าต้องให้เกียรติกัน เราเชื่ออย่างนั้น
อชิระ บุณยกรทรงกิต – Superviser Web Department
ชอบวาดรูป ทำกราฟฟิค สะสมของเล่นโมเดล ฮอททอย ซูเปอร์ฮีโร่ กันดั้ม เต่านินจา
ลูกชายชื่อน้องเติม อายุ 2 ขวบ 7 เดือน เป็นเด็กซนๆ ร่าเริง และชอบดูของเล่น ชอบแต่งตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เลยไปเที่ยวกันได้ ชอบไปสะพานเหล็กด้วยกัน
The MATTER: การมีลูกเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเราไปไหม
ไม่เปลี่ยนเลย เพราะเราพยายามให้ลูกดูไลฟ์สไตล์ที่เราทำ มันเลยไม่เปลี่ยนมาก อนาคตจะได้ทำอะไรด้วยกันได้ เราเองก็ไม่อึดอัดเวลาเลี้ยงลูกด้วย
The MATTER: ใช้สิ่งที่เราชอบ การสะสมโมเดลต่างๆ มาช่วยเลี้ยงลูกไหม
เราเอาไลฟ์สไตล์เรามาสอนลูก พวกสะสมงานต่างๆ เราก็สอนเขาให้รู้จักคุณค่าของของ ให้ดูของเป็นศิลปะ ดูของให้สวย ให้เค้ารู้ว่าได้ของชิ้นนึงมา มันมีคุณค่า ต้องเก็บรักษา จะเล่นค่อยเปิดมาเล่น
The MATTER: มองตัวเองที่เลี้ยงลูกในตอนนี้ เหมือนหรือต่างจากตอนที่พ่อเลี้ยงเรามาไหม
เราได้อิทธิพลมาจากพ่อมาก พ่อก็ชอบสะสมของ เช่นรถเหล็ก หรือโดราเอมอน พ่อก็มีกันดั้มของตัวเองเหมือนกัน พ่อก็พาเราไปดูวิธีประกอบกันดั้มแต่เด็ก มันทำให้เราได้เรียนรู้ว่าของมีคุณค่า กว่าจะเริ่มทาสี ประกอบ เราก็เรียนรู้จากรุ่นพ่อเราเหมือนกัน ที่ต่างกันสมัยนี้ อาจเป็นเรื่องของเงินคุณค่าของเงินมากขึ้น และตอนนี้ของที่เราเข้าถึงมันเข้าได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน อาจจะไม่สนุกเท่าแต่ก่อนที่ต้องไปตามซื้อ สะสมถึงต่างประเทศ
The MATTER : คิดเห็นยังไงกับคำที่ว่า ‘เลี้ยงลูกแบบเป็นเพื่อน’
เราว่าเป็นสิ่งที่ดีมากเลย เพราะว่าช่องว่างระหว่างการเข้าถึงลูกจะได้แคบลง ลูกจะได้เปิดใจทำอะไรกับเราได้หลายๆ อย่าง
ณัฐชนน มหาอิทธิดล อาชีพทำสำนักสารพัดคอนเทนต์ บ้านอยู่นอกเมือง ไม่เข้าออฟฟิศ
มีลูกชายชื่อชิม อายุ 11 เดือน
The MATTER: การมีลูกเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของเราไปไหม
เปลี่ยนไปราว 70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งความเร็วในการออกตัวและการเตรียมตัว มีกรอบในการคิดมากขึ้น เป็นทั้งประโยชน์และอุปสรรค อิสระน้อยลง แต่สดชื่นมากขึ้น ลูกยิ้มให้ก็เหมือนการได้ไปพักร้อน เราชอบเล่นเกม ใช้เวลาไปกับพวกนี้เยอะ แต่ก็แบ่งเวลาค่อนข้างชัด ลำดับความสำคัญได้โอเค (คิดว่านะ 555) ซึ่งมันก็ทำให้เราต้องแสดงให้คนอื่นเห็นได้ว่าเราสมดุลเรื่องความชอบกับงานได้อยู่ เล่นเกมได้ ซื้อของเล่นได้ แต่ก็อย่าทำจนส่วนอื่นของชีวิตแย่ไปด้วย ไม่เล่นจนไม่เห็นหัวครอบครัว
The MATTER: ใช้สิ่งที่เราชอบ ไลฟ์สไตล์ต่างๆ มาช่วยเลี้ยงลูกไหม
ครอบครัวเราเป็นแนวที่ง่ายๆ ไม่ค่อยมีมาตรฐานอะไรที่จุกจิกหรือเนี้ยบอะไร ไม่เรื่องมากกับเรื่องที่ไม่ควร ดังนั้นอะไรที่รุงรังและไม่ค่อยจำเป็นจึงไม่ค่อยมี เพราะคิดว่ามันลำบากตัวเอง และถ้าเยอะไปก็คงลำบากคนอื่น จึงขีดมาตรฐานเอาไว้แบบกลางๆ และตลกกับความไม่ได้ดั่งใจ คิดว่าลูกก็น่าจะได้สิ่งนี้ไปเป็นพื้นฐาน ถ้าเขาอยากจะได้สูงกว่านั้น หรือหย่อนกว่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง
เรื่องเล่มเกมก็หวังว่าลูกจะสัมผัสกับอะไรพวกนี้ได้ เขาเป็นผู้ชายด้วย ก็คงจะไม่พ้นความชอบอะไรยังงี้แหละ เราก็จะไม่ห้าม จะให้ท้ายด้วยซ้ำ เล่นไปเลย โต้รุ่งไปเหอะ จะเล่นไปด้วยนี่แหละ แต่ขอให้จัดการตัวเองได้จริงๆ
The MATTER: มองตัวเองที่เลี้ยงลูกในตอนนี้ เหมือนหรือต่างจากตอนที่พ่อเลี้ยงเรามาไหม
คงตอบคำถามโดยตรงไม่ได้ แต่เราโตมากับครอบครัวที่ไม่ได้สบายอะไร ไม่ได้พร้อมหน้า โตมากับความใจดีและเอาใจใส่ของย่าที่เป็นคนเลี้ยง หากจะให้เทียบเคียง ก็คงเป็นความรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับย่า ที่ทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกว่าขาดอะไร ก็อยากให้ลูกของเรารู้สึกเหมือนกันว่าเราจะเป็นที่พึ่งให้เขาได้ และไม่รู้สึกขาดอะไรอย่างที่เราเคยเป็นมา
The MATTER : คิดเห็นยังไงกับคำที่ว่า ‘เลี้ยงลูกแบบเป็นเพื่อน’
ไม่ค่อยเชื่อว่าเลี้ยงเป็นเพื่อน เพราะเราไม่ค่อยมีเพื่อน และไม่ค่อยแคร์ด้วยว่าจะไม่มีเพื่อน (5555) ก็เป็นพ่อนี่แหละ เป็นพ่อที่จะคอยดูแล คอยเช็กและแนะนำว่าสิ่งที่ทำอยู่และสิ่งที่ลูกกำลังจะทำมันจะไม่อันตราย เป็นที่ปรึกษา เป็นแรงสนับสนุน เป็นคนปรบมือเวลาเขาชนะ และจะคอยตบไหล่ให้กำลังใจตอนที่แพ้ จะอยู่ด้วยเสมอถึงลูกจะอยู่จุดไหนของโลก จะเป็นคนธรรมดาสุดๆ หรือพิเศษมากๆ เราก็จะเป็นพ่อที่ดูแลเขาไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพื่อนอะ มันน้อยไป