เมื่อเร็วๆ นี้มีไวรัลคลิปตัวหนึ่งที่บอกเล่าวิธีการกินกล้วยในแบบฉบับผู้ดี ก็ทำให้นึกสงสัยขึ้นมาว่าในชีวิตนี้จะมีโอกาสสักกี่ครั้งกันเชียว ที่เราจะได้นั่งกินกล้วยอย่างหรูหราด้วยกิริยาผู้ดี๊ผู้ดีแบบนั้น (ก็ปกติแค่หยิบขึ้นมาปอก เคี้ยว กลืน จบในพริบตา)
มารยาทการรับประทานอาหารแบบสากลหรือ dining etiquette ที่เคยรู้กันมาว่าช้อน ส้อม มีด ให้ใช้จากข้างนอกเข้าข้างใน ผ้าเช็ดปากให้วางบนตัก นอกนั้นก็นึกไม่ออกแล้วว่ามีอะไรบ้าง
แม้ว่าเรื่องมันอาจจะดูไกลตัวไปหน่อย แต่ถ้ารู้ไว้ก็ไม่เสียหาย อวดเพื่อนได้ว่า เห็นแบบนี้ก็เรากินสลัดแบบมีวิธีการเป็นนะ แต่สิ้นเดือนแบบนี้ ถ้าให้เลือกระหว่างห้องอาหารของโรงแรมห้าดาว กับ fine dining ที่ร่ำลือกันว่าจองยาก เราจะเอาเงินที่ไหนไปกินดีนะ ก็ในเมื่อเงินค่าอาหารหลายมื้อถูกแปรเปลี่ยนเป็นค่าน้ำมันที่ลิตรละเกือบ 40 บาทแล้ว จะใช้ขนส่งสาธารณะก็แพงไม่แพ้กัน ค่าครองชีพสวนทางกับรายได้ขนาดนี้นี่นะ!
วันนี้เราเลยอยากชวนทุกคนเอาอาหารที่กินในชีวิตประจำวันนี่แหละ มารังสรรค์ใส่ความเป็นพิธีการลงไปให้ดูแพงขึ้น แม้ว่าแซนด์วิชของเราจะซื้อมาแค่สิบบาท แต่จริตของเราเนี่ยต้องแพงไว้ก่อน
มื้อเช้า แซนด์วิชโบราณจากร้านขายของชำ
ก่อนไปทำงานก็แวะร้านขายของชำข้างล่างหอ สิ่งที่ดูจะเหมาะกับชีวิตสิ้นเดือนของเราที่สุดในตอนนี้ก็ต้อง ‘แซนด์วิชโบราณ’ ชิ้นละสิบบาทนี่แหละ
คาร์โบไฮเดรตเพิ่มพลังงานจากขนมปัง โปรตีนอันน้อยนิดจากแฮมที่ไม่กล้าเปิดขนมปังออกมาดู เพราะกลัวลมพัดปลิวหายไป พร้อมกับน้ำตาลจากน้ำสลัด คงจะอยู่ท้องถึงเที่ยงแหละ แต่เราจะแกะซองกินเลยตรงนี้ไม่ได้ รอถึงที่ทำงานก่อน จะจัดใส่จานให้สวยงามสมราคา
แล้วก็ได้เวลาแล้ว! หยิบจานที่สวยที่สุดมาหนึ่งใบ แกะแซนด์วิชออกมาวางบนจานให้อยู่ตรงกลางเป๊ะ วิธีการกินแซนด์วิชแบบมีพิธีการก็ไม่ยากเลย แค่หยิบมีด (พลาสติก ที่ได้มาจากการสั่งไก่ทอดเมื่อต้นเดือน) ขึ้นมาให้พร้อม
1. ใช้มีดหั่นแซนด์วิชตามแนวยาวให้แซนด์วิชชิ้นเล็กลง
2. วางมีดลงข้างจาน แล้วค่อยหยิบแซนด์วิชที่เราหั่นไว้ขึ้นมากินด้วยมือ
เพียงแค่ 2 ขั้นตอนนี้ก็รู้สึกประหนึ่งว่าได้กินอาหารเช้าในร้านอาหารแถวถนนช็องเซลีเซ ประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว เป็นการเริ่มต้นวันที่สดใสดีจริง
มื้อกลางวัน ผัดมาม่าในกล่องพลาสติกจากแผงลอย
มิตรรักยามสิ้นเดือนก็ต้องเป็นผัดมาม่ากล่องพลาสติกจากร้านแผงลอยหน้าปากซอย รสชาติความนัวแสนกลมกล่อมที่คุ้นเคยจากผงมหัศจรรย์ มีกะหล่ำปลีกับแครอทนิดหน่อยให้พอสบายใจว่าวันนี้กินผักแล้วนะ
เราจะมากินผัดมาม่าด้วยวิธีการกินพาสต้ากัน หลายคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าการกินพาสต้าที่ถูกต้องนั้นต้องม้วนเส้นด้วยส้อม แต่ถ้าจะให้เริศกว่านั้น มันมีขั้นตอนมากกว่านั้นอีกนิดนึง
1. เราจะใช้ส้อมพลาสติกที่แถมมานี่แหละ ถือเอาไว้ในมือขวา แล้วเราจะเริ่มด้วยการกินจากขอบจานด้านใน (ในที่นี้คือขอบกล่อง)
2. เกี่ยวเส้นมาม่าแถวขอบจานขึ้นมาแค่ 2-3 เส้นเท่านั้น อย่ามากกว่านี้เดี๋ยวผิดสูตร!
3. บรรจงม้วนด้วยการหมุนข้อมือตามเข็มนาฬิกา ให้ได้ขนาดพอดีคำ ถ้าเส้นมันยาวเกินไป ให้ปล่อยเส้นกลับไปใหม่ แล้วหมุนจนกว่าจะได้
วันนี้ไม่ได้กินแล้วมั้งเนี่ย
มื้อกลางวัน ซุปจากร้านข้าวมันไก่ที่เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานที่กินข้าวมันไก่ เราเก็บซุปไว้ในตู้เย็นออฟฟิศนี่นา ป่านนี้จะมีใครเนียนหยิบไปแล้วพูดจาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่า “ไม่เห็นมีชื่อแปะไว้นี่คะ” หรือยังนะ
เปิดตู้เย็นดู ซุปยังอยู่ เอามาใส่ชามแล้วอุ่นสักหน่อย ถึงแม้ผักโรยจะเหี่ยวไปแล้ว แต่ด้วยวิธีการกินที่ดูแพงของเรา ผักโรยจะกลายเป็นผักการ์นิชไปในทันที
1. เราจะจับช้อนด้วยมือขวา แล้วหันปลายช้อนไปทางซ้าย
2. ใช้ด้านข้างของช้อน ตักซุปแบบแกว่งออกจากตัวเราเล็กน้อย จังหวะที่แกว่ง จะทำให้ปริมาณซุปที่ตักขึ้นมาพอดีกับช้อน ไม่ล้นจนเกินไป กลัวว่าเดี๋ยวระหว่างทางเอาเข้าปากแล้วซุปจะหก ดูไม่สมฐานะของเราได้
ยัง ยังไม่จบดี พอตักขึ้นมาแล้ว บางทีตรงใต้ช้อนมันจะมีหยดซุปที่พร้อมจะจู่โจมเสื้อของเราได้แบบไม่รู้ตัว เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
3. เราจะต้องเอาใต้ช้อนไปปาดกับขอบชามให้หยดซุปนั้นกลับสู่ที่ที่มันจากมา
4. แล้วค่อยซดซุปเบาๆ จากด้านข้างของช้อน (ห้ามฮุบจากปลายช้อนเด็ดขาด ไม่แอเลแกนต์!)
คือจะกินมื้อกลางวันเสร็จทันบ่ายโมงมั้ย? ถามแค่นี้
มื้อเย็น ยำหมูสับใส่ผักเยอะๆ ตามประสาคนดูแลสุขภาพ
มื้อเช้าหนักแป้งแล้ว มื้อเย็นขอเบาหน่อยด้วยยำหมูสับจากร้านตามสั่งข้างล่างหอแล้วกัน ขอผักเยอะหน่อยนะ พอดีช่วงนี้ดูแลสุขภาพอยู่ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็ขอให้ลืมเรื่องแซนด์วิชกับผัดมาม่าไปก่อนนะ
ปัญหาของการกินสลัด (หรือในที่นี้คือ ยำ) คือผักมันใบใหญ่เกินไป กินยังไงก็ไม่งาม เราเลยจะมากินโดยใช้มีดและส้อม พร้อมขั้นตอนที่มากหลายจนไม่รู้ว่าจะกินเสร็จตอนไหน
เริ่มจากการกินแบบมีจริตจะก้านที่สุดด้วยการกินแบบอเมริกัน แต่ถ้ารีบ กลัวผักในยำจะเหี่ยวก่อน เดี๋ยวเราจะอีกวิธีมาเป็นตัวเลือกให้
1. ใช้ส้อมและมีดพับผักให้เป็นชั้น เสร็จแล้วใช้ส้อมจิ้มผักที่บรรจงพับไว้
2. ก่อนจะเอาส้อมเข้าปาก วางมีดที่ถือเอาไว้เป็นแนวขวางที่ขอบบนสุดของจาน
3. สลับส้อมที่ถือเอาไว้ในมือซ้าย มาไว้ในมือขวาแทน แล้วถึงจะกินได้
4. ทำซ้ำแบบนี้วนไปจนกว่าจะกินหมด
หรือถ้าจะกินแบบอเมริกัน ก็สามารถจิ้มผักหลายชนิดได้ในคราวเดียว จิ้มเสร็จก็ไม่ต้องวางมีด ไม่ต้องสลับมือถือส้อม กินได้เลย
มื้อดึก ขนมปังสังขยา ที่ใช้โค้ดส่วนลดสั่งมา
จุดจบคน (ฝืน) รักสุขภาพ คือยำแค่นั้นจะเอาอะไรมาอยู่ท้อง แล้วเขาก็ว่ากันว่ากินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ ซึ่งวันนี้เราใช้ชีวิตด้วยคอนเซปต์ผู้ดี เติมของหวานสักนิดไม่ผิดหรอกเนอะ แล้วนี่ไง เราเดินลงจากห้องไปรับของที่สั่งมาก็ถือว่าได้ออกกำลังกายแล้วไหม
เพื่อความแอเลแกนต์เราจะหยิบขนมปังออกจากถุงมาหนึ่งชิ้น วางลงบนจาน หาช้อนมาใช้ตักสังขยาสักหน่อย พร้อมด้วยมีดปาดเนยอีกสักหนึ่งอัน ซึ่งในที่นี้เราไม่มีหรอก เลยขอเลือกใช้เป็นช้อนไอศกรีมแทน หน้าตามันดูแบน คล้ายกันแหละ
1. เริ่มจากการใช้ช้อนตักสังขยามาใส่ไว้ที่ขอบบนสุดของจานของเรา
2. ใช้มือขวาจับขนมปังให้มั่น แล้วใช้มือซ้ายบิขนมปังออกมาให้เป็นคำเล็ก แบบไม่ต้องอ้าปากกว้างมากในเวลากิน
3. ใช้มือขวาหยิบมีดปาดเนยที่เคยเป็นช้อนไอศกรีมของเรา ปาดสังขยาขึ้นมาทาบนขนมปังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
4. วางมีดปาดเนยแล้วค่อยเอาขนมปังเข้าปาก ทำซ้ำจนกว่าจะอิ่มพอดี (เช้าพอดี)
แต่ถ้ามันเยอะก็เก็บไว้กินพรุ่งนี้ได้ หนทางรอดในยามสิ้นเดือนคือการแบ่งเอาไว้กินพรุ่งนี้นี่แหละ
ถึงแม้ว่า dining etiquette จะดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา แต่สักวันเราอาจจะได้ใช้วิธีพวกนี้ก็ได้นะ ลองฝึกกับอาหารใกล้ตัวดูก่อน ไว้โบนัสออกค่อยมาเลือกร้านไปลองวิชาก็ยังทัน
อ้างอิงข้อมูลจาก
Illustration by Krittaporn Tochan