หม้อปราบผี ตุ๊กตาคุณไสย และเครื่องลางของขลัง
การพบเจอวัตถุหรือสิ่งของอันเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ในประเทศไทย กลายเป็นเรื่องที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปพอสมควร ส่วนหนึ่งเพราะความเชื่อของคนไทยมักมีการผสมปนเปและผูกโยงหลากหลายวัฒนธรรมเข้าเอาไว้ด้วยกัน
อย่างเมื่อไม่นานมานี้ มีคนเจอหม้อดินเผาโบราณ ถูกปิดฝาด้วยผ้าไว้ ภายในบรรจุตุ๊กตาคุณไสยที่ถูกปักตะปูสังฆวานรไว้ที่กลางหน้าอกของตุ๊กตา และดูเหมือนว่าสิ่งของเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมด้านไสยศาสตร์ ซึ่งไม่รู้ที่มาที่ไป ว่ามันอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหน ใครเป็นคนทำเอาไว้ หรือเอาไว้ใช้เพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่
แม้ฟังดูแล้วประเทศไทยจะเป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องไสยศาสตร์และมนต์ดำ ทว่าไทยก็ไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีเรื่องราวในลักษณะนี้ เพราะในอีกหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลกเอง ก็ปรากฎเรื่องราว แนวคิด จวบจนกระทั่งวัตถุหรือสิ่งของเกี่ยวกับศาสตร์มืดนี้
The MATTER จึงขอพาทุกคนไปดูกันหน่อยว่า ถ้าประเทศไทยมีของชิ้นนี้ เอาไว้ใช้เพื่อจุดประสงค์แบบนี้ ต่างประเทศจะมีของอะไรบ้าง
น้ำมันพราย-ยาเสน่ห์
คุณเคยแอบชอบใครข้างเดียวไหม พอจะลองสารภาพออกไป ก็กลัวไม่สมหวังอีก ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก บางคนก็คงแอบคิดว่า มันจะมีไหมนะ ตัวช่วยในเรื่องความรักแบบลัดๆ ได้ผลไว รักกันได้เลย
ถ้าพูดกันในมุมของไสยศาสตร์ น้ำมันพราย ก็อาจเป็นตัวช่วยในสถานการณ์ลักษณะนี้ โดยมันคือ น้ำมันที่เชื่อกันว่ามีพลังทางไสยศาสตร์ สามารถดึงดูดใจหรือทำให้คนอื่นหลงรักผู้ใช้ได้ มักนิยมทำขึ้นมาจากศพหญิงตายท้องกลมหรือศพที่ตายโหง ร่วมกับอุปกรณ์อีกเล็กน้อย อย่างเช่น สายสิญจน์, มีด, น้ำมนต์, ขี้ผึ้ง, เทียนชัย ฯลฯ แล้วจึงค่อยนำมาผ่านพิธีกรรม ถึงจะได้น้ำมันพรายออกมา
ถ้าประเทศไทยมีน้ำมันพราย โลกตะวันตกเองก็มี ‘ยาเสน่ห์’ หรือ ‘Love Potion’ ซึ่งมีสรรพคุณคล้ายคลึงกันคือ สำหรับทำให้ผู้อื่นหลงใหลและรักใคร่ต่อผู้ใช้ยานี้ โดยยาเสน่ห์เป็นยาที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มักผูกโยงกับความเชื่อเรื่องแม่มดและเวทย์มนต์
อย่างไรก็ดี ยาเสน่ห์จากฝั่งโลกตะวันตก ไม่ได้มีสูตรเฉพาะตายตัวว่า ต้องใช้ส่วนผสมชนิดนี้เท่านั้น ซึ่งมักปรับเปลี่ยนไปตามความเชื่อของแต่ละพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักใช้พืชและสมุนไพรตามป่ามาเป็นส่วนผสมหลัก
ตุ๊กตาสาปแช่ง-ตุ๊กตาฟาง
แม้จะเกลียดขี้หน้าใคร จนแอบเผลอสาปแช่งในใจ มันก็เป็นเพียงความรู้สึกข้างใน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบุคคลเหล่านั้นจริงๆ ทว่าในทางไสยศาสตร์ หากเราเกลียดใครแบบเข้าไส้เลยจริงๆ ตุ๊กตาสาปแช่ง ก็พร้อมทำสิ่งที่เราคิดข้างในให้กลายเป็นความจริง
ความเชื่อของไทยตุ๊กตาสาปแช่งมักปรากฏในรูปแบบของตุ๊กตาดินเผาหรือตุ๊กตาดินเหนียว ซึ่งจะใช้เป็นตัวแทนของคนที่เกลียดหรือศัตรูของเรา โดยนำไปทำพิธีกรรมผูกโยงตัวตุ๊กตากับศัตรูของเราเข้าไว้ด้วยกัน หลังจากนั้นเราอาจนำเข็มหรือของมีคมมาทิ่มแทงตามร่างกาย ตลอดจนหักแขนหักขาของตุ๊กตา เพื่อให้ศัตรูคู่อาฆาตของเราเกิดความเจ็บปวดหรือถึงแก่ชีวิต
ข้ามทะเลขึ้นมาไม่ไกลนัก ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับการสาปแช่งเช่นเดียวกัน พิธีกรรมดังกล่าวมีชื่อว่า ‘Ushinokoku Mairi’ ซึ่งในพิธีจะใช้ตุ๊กตาหุ่นฟางทำหน้าที่เป็นตัวแทนของศัตรูเหมือนกับตุ๊กตาดินเหนียวของไทย โดยผู้ทำพิธีจะต้องส่วมกิโมโนสีขาว ทาหน้าด้วยแป้งสีขาวให้หนา พร้อมกับติดเทียนไว้บนศีรษะ นำหุ่นฟางไปตอกตะปูเข้าไว้กับต้นไม้ศักสิทธิ์ในบริเวณศาลเจ้า ทั้งนี้ผู้ทำพิธีจะต้องทำแบบเดิมซ้ำๆ เป็นเวลาติดกัน 7 วัน โดยต้องไม่มีผู้ใดมาพบเห็น สิ่งที่สาปแช่งถึงจะกลายเป็นจริงได้
ตะปูสังฆวานร-ตะปูเหล็ก
หากได้ติดตามข่าวที่มีคนไปพบกับหม้อโบราณบรรจุตุ๊กตาสาปแช่ง ก็น่าจะเห็นกับสิ่งที่ถูกเสียบมาบนตุ๊กตา อย่าง ‘ตะปูสังฆวานร’ ทว่านี่ไม่ใช่ตะปูสำหรับงานช่างธรรมดาทั่วไป แต่มันคือตะปูสำหรับตอกยึดโครงสร้างไม้ตามพุทธสถานหรือปราสาทราชวัง ส่วนใหญ่มักทำมาจากเหล็กกล้า แต่ในบางครั้งก็อาจมีแร่อื่นผสมมาด้วย ทั้งนี้ตัวตะปูจะมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและลงคาถาอาคมเอาไว้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง คุ้มครองป้องกันภัย ตลอดจนข่มอาถรรพ์ไม้ที่ใช้สร้างนั่นเอง
ในวัฒนธรรมฝั่งตะวันตกเองก็ปรากฎเกี่ยวกับใช้ตะปูในฐานะวัตถุเวทมนต์ด้วยเช่นกัน ตะปูโลหะ คืออีกหนึ่งวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมักถูกนำมาใช้ประกอบในหลายพิธีกรรมอยู่เสมอ เนื่องจากผู้คนเชื่อว่า ตะปูโลหะมีพลังในการขับไล่วิญญาณชั่วร้ายและป้องกันศาสตร์มืดได้ จึงนิยมนำไปติดไว้ตามรอบบ้าน หรือบางคนก็พกตะปูเหล่านี้ติดตัวไปด้วย เพื่อหวังให้มันช่วยคุ้มครองจากภยันตรายต่างๆ
ตะกรุด-ม้วนเครื่องราง
ตะกรุด อีกหนึ่งเครื่องรางของขลังของไทยที่อยู่ควบคู่กับความเชื่อคนไทยมาช้านาน ตะกรุดมีลักษณะเป็นแผ่นโลหะบางๆ อย่าง ทองเหลือง เงิน หรือทองแดง มาลงอักขระยันต์ แล้วค่อยม้วนเป็นทรงกระบอก มีรูตรงกลางสำหรับร้อยเชือกสอดเข้าไป ผู้คนเชื่อว่า หากพกตะกรุดติดตัวไปไหนมาไหนด้วย จะช่วยให้ชีวิตราบรื่น แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี และป้องกันภยันตรายทุกรูปแบบ
ซึ่งเครื่องรางในลักษณะดังกล่าว ไม่ได้มีแค่เพียงที่ไทย ย้อนกลับไปช่วงสมัยยุคกลาง ท่ามกลางสงครามและความขัดแย้งทางศาสนา ในโลกอิสลามผู้คนมักนำม้วนกระดาษซึ่งเป็นข้อความอธิษฐานหรือกระทั่งบางส่วนของคัมภีร์อัลกุรอานมาบรรจุไว้ในกล่องใส่เครื่องราง แล้วจึงนำไปแขวนไว้หัวเตียงของผู้ป่วย หรือผู้ที่ต้องออกไปรบ ก็มักนำมาห้อยไว้ที่คอและแขน รวมถึงยังนำไปติดไว้กับเสือเกราะด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อป้องกันอันตราย ใช่ชีวิตราบรื่น ตลอดจนได้รับการคุ้มครองจากพระเจ้า
เบี้ยแก้-เหรียญยันต์ฮู้จีน
นอกจากตะกรุดแล้ว อีกหนึ่งเครื่องรางของขลังที่สามารถพกแล้ว สามารถช่วยป้องกันภยันตรายและคงกระพันชาตรี ก็ยังมีเบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งทำมาจากเบี้ยจั่น อันเป็นหอยทะเลชนิดหนึ่ง พร้อมทั้งบรรจุปรอทไว้ภายใน ร่วมกับการปลุกเสกทำอาคม โดยมันไม่ได้มีหน้าที่แค่เรื่องแคล้วคลาดเท่านั้น ทว่าเบี้ยแก้ ยังสามารถแก้คุณไสยและมนต์ดำได้ตามชื่อด้วย
ในวัฒนธรรมจีนเองก็ได้มีเครื่องรายที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับเบี้ยแก้ด้วยเช่นกัน เหรียญยันต์ฮู้จีน (Chinese Numismatic Charm) คือเหรียญโบราณ (ฮู้ อาจมีการปรากฎในรูปแบบของผ้ายันต์ด้วย) ซึ่งเกิดขึ้นมาจากแนวคิดที่ว่าหลายสิ่งในธรรมชาติ อย่าง ภัยพิบัติ โรคภัยไข้เจ็บ กระทั่งความตาย เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถควบคุมได้ การมีเครื่องรางสำหรับคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ตลอดจนขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่มนุษย์มองไม่เห็นให้ออกไป ไม่มายุ่งเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์
หม้อดินเผา-ขวดแม่มด
แม้ไม่ใช่ผู้สนใจเกี่ยวกับไสยศาสตร์หรือเรื่องลี้ลับ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นหม้อดินเผา ซึ่งมักจะมาพร้อมกับผ้าสีแดงที่ปิดทับรอบปากหม้อและพันเอาไว้ด้วยสายสิญจน์ หม้อดินเผาถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในโลกของไสยศาสตร์ โดยมันถูกใช้สำหรับสะกดวิญญาณหรือสิ่งชั่วร้ายไม่ให้ออกมาทำร้ายผู้อื่นได้
ในวัฒนธรรมยุโรปราวๆ ศตวรรษที่ 16-18 ‘ขวดแม่มด (Witch Bottle)’ คือสิ่งที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับหม้อดินเผา ผู้คนเชื่อกันว่าขวดแม่มด ซึ่งบรรจุปัสสาวะ ตะปู เล็บ และสมุนไพร แล้วนำไปฝังใต้ที่ลับ เช่น บริเวณใต้ตาผิง จะสามารถช่วยดักจับพลังงานด้านลบหรือวิญญาณชั่วร้าย พร้อมสะท้อนความชั่วร้ายให้กลับไปสู่ผู้ที่ปล่อยมา หรือทำลายความชั่วร้ายเหล่านั้นลงภายในขวดแม่มด
อ้างอิงจาก