อีกครั้งแล้วที่ต้องไปดูหนังโรงคนเดียว
ฉันชอบดูหนังโรง คุณชอบดูซีรีส์ ฉันชอบหนังสือ คุณชอบเกมมือถือ ฉันชอบวาดภาพ และฉันชอบวาดภาพคุณ คุณจะชอบมันหรือเปล่า? บ่อยกว่าที่เราจะยอมรับ เราอาจเคยรู้สึกโดดเดี่ยวในความสนใจตัวเองเมื่อคนรักของเราไม่ชอบอะไรเหมือนกับเรา มันไม่ใช่ความรู้สึกที่แปลกหรือแย่ แต่เข้าใจได้ เพราะหากว่าสิ่งที่เราชอบทำบ่อยครั้งตั้งอยู่บนฐานของตัวตนเรา เช่นนั้นแล้วการไม่ชอบมันแปลความหมายว่าเราและเขาไม่ตรงกันหรือ?
แต่มันสำคัญขนาดนั้นเลยไหม? ความรู้สึกของเราผูกติดกับสิ่งที่เราชอบขนาดไหน? และการชอบหรือไม่ชอบอะไรเหมือนกันมีผลกับความสัมพันธ์หรือเปล่า?
มุมมองของคู่รักต่อความสนใจร่วม
หากพูดในเชิงสถิติ คู่รักจำนวนมากมองความสนใจร่วมกันมีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน โดยการเก็บสถิติโดย Pew Research Center พบว่า สำหรับคู่แต่งงานชาวอเมริกัน 64% ความสนใจร่วมเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงถึงหากพวกเขาต้องการให้ชีวิตแต่งงานสำเร็จลุล่วง บางคู่วางมันเอาไว้เหนือเซ็กซ์ที่ดี หรือความเชื่อทางการเมืองที่ตรงกันเสียด้วยซ้ำ
ทำไมในหลายๆ กรณี ความสนใจอยู่เหนือความต้องการทางกาย ทางเพศ หรือแนวคิดทางการเมืองที่ก่อร่างตัวตนของเรา? จริงๆ แล้วเมื่อลองนึกๆ ดู ก็อาจไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อ เพราะการมีความสนใจร่วมสามารถนำไปสู่การมีกิจกรรมร่วมกัน การมีหัวข้อคุยที่คงอยู่กับเราเสมอ หรืออาจจะได้เห็นมุมมองของคู่รักเราที่ไม่เคยเห็นได้ ทั้งหมดอาจหมายถึงการสร้างระดับความสัมพันธ์ที่เสริมเติมออกมาจากชีวิตรักได้ด้วย
คู่รักหลายๆ คู่จึงอาจจะอยากเริ่มด้วยการค่อยๆ นำความสนใจของตัวเองมาแนะนำให้คู่ของตัวเอง หรืออาจจะพยายามลองๆ เดินเข้าไปในความสนใจของอีกฝั่ง บางครั้งมันเวิร์ค แต่บ่อยครั้งเรากับเขามีความสนใจที่ต่างกันมากจนต่อไม่ติดในบริเวณนั้นๆ ได้ นั่นแปลว่าพวกเขาเข้ากันไม่ได้แน่หรือเปล่า?
แต่สถิติเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเป็นจริง บางครั้งความสนใจต่างก็มีค่าของมันเช่นกันหากทั้งคู่อ้าแขนรับรับความต่างเหล่านั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นการไม่ได้ชอบอะไรเหมือนกันแต่สนับสนุนความชอบของฝั่งตรงข้ามและให้ความสนใจมันอย่างตั้งใจและจริงใจก็เป็นการแสดงความรักและใส่ใจที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นเดียวกัน
มายาคติความสนใจร่วม
ลองนึกถึงขั้นตอนการสร้างโปรไฟล์ของแอปฯ หาคู่ดู สิ่งที่เราใช้จำกัดความตัวเองมีอะไรบ้าง? กิจกรรมที่ชอบทำ เพลงที่ชอบ หนังเรื่องที่รัก อาหารเมนูโปรด ฯลฯ หลังจากเลือกเรียบร้อยแล้ว แอปจะหาคนที่มีจุดร่วมกันกับเราในประเด็นเหล่านี้ผ่านหน้าผ่านตาเรามา เราเองก็พิจารณาและเลือกว่าจะปัดขวากับใครผ่านปัจจัยเหล่านี้ ความหมายที่แอปและวัฒนธรรมรักสมัยใหม่บอกเราอย่างกลายๆ จากการออกแบบดังกล่าวคือ ‘คุณคือความสนใจของคุณ’
ก่อนจะไปกันต่อ การแสดงตัวตนผ่านสิ่งที่ชอบไม่ใช่วิธีการที่แย่ ภายใต้ข้อจำกัดของการเป็นแอปพลิเคชันที่อาศัยการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้นก็คงมีวิธีที่ห่วยกว่านี้ในการวาดภาพตัวตนของเราอย่างแน่นอน (เช่น การใช้ภาพถ่ายเป็นตัวตัดสินหลัก) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าวิธีการดังกล่าวไม่บอกอะไรเราเลยเกี่ยวกับวิธีการที่มนุษย์มองโลก ความสัมพันธ์ และตัวตน
การจะบอกว่าแอปฯ หาคู่ไม่มีผลต่อโลกจริงและความสัมพันธ์ในชีวิตของเราคงเป็นเรื่องโกหก ในประเทศเช่นสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีมันเป็นวิธีการที่ทำให้คู่รักพบกันมากที่สุด และจากสถิติเมื่อพฤศจิกายน ปี 2022 พบว่า พฤติกรรมผู้ใช้ทินเดอร์ช่วงอายุ 18-25 บอกกับเราว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการจากแอปฯ หาคู่ดังกล่าวคือความสัมพันธ์ระยะยาว แอปฯ หาคู่เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของรักร่วมสมัย แต่นั่นก็แปลว่าค่านิยมและมายาคติของมันก็มาพร้อมกับมันด้วยไม่ว่าเราจะใช้หรือไม่ใช้มัน
ในขวบปีนี้ เราไม่รอรักอีกต่อไป เพราะเราวิ่งหามันได้เสมอ และวิธีที่เราหาคือหาผ่านตัวตนที่ก่อร่างขึ้นมาจากแถบเลือกความสนใจที่วาดภาพเรารอยประที่ออกมาคล้ายๆ มนุษย์ที่เราเป็นจริงๆ การตีความช่องว่างระหว่างบรรทัดของการชอบเพลง The Weeknd หรือ Lana Del Ray มีได้หลากหลาย คนคนนี้อาจจะเศร้า อาจจะท็อกซิก อาจจะต้องการที่เกาะเกี่ยว หรืออะไรก็ตามที่ล่องลอยอยู่ตรงกลางระหว่างนั้น
แต่ท้ายที่สุดนั่นคือพื้นที่ของการตีความ ในความเป็นจริงความชอบอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวตน เพลงอาจจะเป็นแค่เพลงและมันไม่ได้แสดงถึงความอบอุ่นของคนที่ชอบมัน และหากจะบอกว่าผู้ชายทำอาหารต้องเป็นคนอบอุ่นแน่นอน ใครจะรู้ว่าเขาเป็นฮันนิบาล เล็กเตอร์รึเปล่า?
แม้ว่าในระดับหนึ่งแอปฯ หาคู่เปิดโอกาสให้เรานำเสนอและมองหาคนที่มีความต้องการในความสัมพันธ์เช่นเดียวกันกับเรา น้อยครั้งนักที่เราจะแยกความสนใจและตัวตนในความสัมพันธ์ของคนคนนั้นออกจากกัน และบ่อยครั้งแนวคิดนั้นซึมออกมาสู่โลกจริงได้แน่ๆ
เรายังมีอย่างอื่นให้รักกันอีกมากมาย
ความรักและความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องที่มีมิติเดียว
สิ่งที่อาจจะไม่อยากได้ยินคือการตกหลุมรักและการคงความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน และบ่อยครั้งเหลือเกินความสนใจคือสิ่งที่ก่อให้เกิดอย่างแรก แต่ประเด็นอื่นๆ มีน้ำหนักสูงมากพอๆ กันหรือมากกว่าสำหรับอย่างหลัง ในโลกความเป็นจริงแล้วความรักและสัมพันธ์ที่มั่นคงไม่อาจยืนบนขาเดียวได้ มนุษย์จำนวนมากยังทำไม่ได้นานเลย
ในความสัมพันธ์เราอาจมองหาความซื่อสัตย์ ความจริงใจ ความสม่ำเสมอ ความเคารพ ฯลฯ และบ่อยครั้งเมื่อขาเหล่านั้นที่เราต้องการมีมากพอที่จะตั้งให้ความสัมพันธ์มั่นคงแล้วเดินได้ ความสนใจร่วมอาจเป็นอีกหนึ่งขา เป็นเครื่องประดับที่งดงาม หรืออาจเป็นไม้ค้ำที่ช่วยอีกแรงในการขับเคลื่อนมันไปก็ได้ นั่นคือความสนใจร่วมนั้นมีส่วนช่วยนความสัมพันธ์แน่ๆ แต่เรามีอย่างอื่นมากมายให้เราค้นหาและตกหลุมรักในกันและกันด้วย
และหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นคือการสนับสนุนและความเอาใจใส่ เช่นนั้นแล้วการถามว่าเรามีความสนใจร่วมกันหรือไม่อาจไม่ได้หมายความมากเท่ากับการดูว่าเขาคนนั้นทำยังไงกับความสนใจที่เรามี
อ้างอิงข้อมูลจาก