อีกหนึ่งคดีใหญ่ที่ทั่วโลกต่างจับตามอง จากกรณีที่นักแสดงชื่อดัง จอห์นนี่ เดปป์ (Johnny Depp) ฟ้องร้อง แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) ด้วยจำนวนเงินมหาศาล ในคดีหมิ่นประมาท
ขอรีแคปแบบเร็วๆ ให้คนที่อาจจะไม่เคยตามเรื่องราวของทั้งคู่มาก่อนว่า คดีระหว่างเดปป์และเฮิร์ดเป็นที่โด่งดังในคดีความรุนแรงในครอบครัว ที่มีประเด็นที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมาอย่างยาวนาน อย่างกรณีการฟ้องร้องสื่อ The Sun เมื่อเร็วๆ มานี้ ส่วนในครั้งนี้เดปป์ได้ยื่นฟ้องเฮิร์ดในคดีหมิ่นประมาท ด้วยเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากกรณีที่เฮิร์ดเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ The Washington Post เมื่อปี 2018 ว่าเธอเป็นบุคคลสาธารณะที่เป็นตัวแทนของการถูกทำร้ายภายในครอบครัว
เดปป์ให้การว่า บทความดังกล่าวทำให้ชีวิตการแสดงของเขาพังทลายลง พร้อมยืนยันว่า ตัวเขาเองต่างหากที่ตกเป็นผู้เสียหายในความรุนแรงนี้ ขณะที่ฝั่งเฮิร์ดก็ยืนกรานว่า คนที่ถูกทำร้ายคือตัวเธอเอง
ประเด็นหลักๆ ในการพิจารณาคดีนี้ก็คือ ใครที่ถูกทำร้ายและเป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้กันแน่?
การพิจารณาคดีจะกินเวลา 6 สัปดาห์ ในทุกวันจันทร์-พฤหัส โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจนถึงตอนนี้ การไต่สวนคดีได้เปิดเผยประเด็นสำคัญออกมามากมาย ทั้งการใช้ความรุนแรงในครอบครัว การใช้สารเสพติด และการใช้คำพูดทำร้ายกัน The MATTER จึงขอหยิบประเด็นใหญ่ๆ ที่มีการพูดถึงในช่วงการพิจารณคดีที่ผ่านมา มาให้ชมกัน
[หมายเหตุ: เป็นการสรุปและหยิบยกประเด็นมาบางส่วนเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดของการพิจารณาคดี]
อ่านสรุปเรื่องราวก่อนหน้านี้ได้ที่นี่นะ
- เฮิร์ดอ้างว่า ต้องใช้เครื่องสำอางปิดรอยช้ำจากการถูกเดปป์ทำร้าย
ในการพิจารณาคดีครั้งนี้ ทางทนายของแอมเบอร์ เฮิร์ด ยกหลักฐานว่าเฮิร์ด โดนจอห์นนี่ เดปป์ ทำร้ายร่างกายด้วยการอ้างว่า เฮิร์ดต้องพกคอนซีลเลอร์และชุดเครื่องสำอางแบรนด์ Milani ตลอดเวลาที่เธอคบอยู่กับเดปป์ เพื่อปกปิดรอยบนหน้าเพราะถูกเดปป์ซ้อม พร้อมกับนำคอนซีลเลอร์ที่เป็นหลักฐานขึ้นมาโชว์ในชั้นศาลด้วย
“นี่คือสิ่งที่เธอใช้ และเธอก็ใช้มันอย่างเชี่ยวชาญมาก คุณจะได้ยินคำให้การจากแอมเบอร์ว่า เธอต้องผสมสีต่างๆ เพื่อปกปิดรอยฟกช้ำที่ต่างกันไปในแต่ละวันอย่างไร”
แต่ต่อมา ทางเจ้าของแบรนด์ที่ถูกกล่าวถึงนี้ ได้โพสต์คลิปลงใน tiktok ว่า คอนซีลเลอร์ที่นำมาอ้างเป็นหลักฐานนั้น ถูกวางจำหน่ายเมื่อเดือนธันวาคมปี 2017 ทว่าช่วงที่เฮิร์ดกับเดปป์คบกันนั้นคือปี 2014-2016 โดยการฟ้องหย่าเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2016
“เราทำแบบนี้เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงในคดีนี้” คอมเมนต์เพิ่มเติมจากทางแบรนด์
ประเด็นนี้เลยทำให้หลายคนตั้งข้อคำถามว่า เฮิร์ดลืมยี่ห้อเครื่องสำอางที่ใช้จริงๆ หรือว่าเรื่องของการถูกทำร้ายร่างกายนั้นเป็นเรื่องเท็จกันแน่
- เฮิร์ดอ้างว่า เดปป์ใช้ยาและดื่มเหล้าจนขาดสติ
ฝั่งเฮิร์ดอ้างว่า เดปป์เสพยาและดื่มเหล้าจนขาดสติ และทำร้ายเฮิร์ดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในการพิจารณาครั้งนี้ ทนายของเฮิร์ด ได้เปิดเผยภาพเดปป์หมดสติ โดยมีไอศกรีมที่กำลังละลายคาอยู่ในมือ เพื่อเป็นหลักฐานในประเด็นดังกล่าว
แต่ฝั่งเดปป์ก็ออกมาบอกว่า ตอนนั้นเดปป์หลับไป เพราะทำงานหนักติดต่อกัน 17 ชั่วโมง โดยมีช่วงนึงที่เขาสะลึมสะลือขึ้นมาแล้วรู้สึกได้ว่าเฮิร์ดเอาไอศกรีมมาใส่ในมือเขา และเฮิร์ดเป็นคนถ่ายภาพนี้
อย่างไรก็ดี ระหว่างให้การในชั้นศาลนั้น เดปป์ยอมรับว่า เขาเคยเสพโคเคนร่วมกับเพื่อนในวงการจริงๆ
- ฝ่ายเฮิร์ดเปิดหลักฐานว่า เดปป์เคยบอกว่าจะฆ่าเฮิร์ด
ทนายของเฮิร์ด เปิดข้อความที่จอห์นนี่ เดปป์ ส่งถึง พอล เบททานี (Paul Bettany) ผู้รับบท Vision ในภาพยนตร์เรื่อง Avengers และเป็นเพื่อนคนสนิทกับเดปป์เมื่อปี 2013 ว่า “จับเธอกดน้ำดีกว่าแล้วค่อยเอาไปเผา! ฉันจะเอาศพเกรียม ๆ ของเธอด้วย จะได้ชัวร์ว่าตายจริง”
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายข้อความที่เดปป์เรียกเฮิร์ดว่า ‘ปีศาจ’ ซึ่งฝั่งเฮิร์ดนำมาใช้เป็นหลักฐานในการแสดงว่า เดปป์กลายเป็นคนแบบไหน เมื่อเขาดื่มแอลกอฮอล์
ขณะที่เดปป์ก็ออกมากล่าวว่า ในตอนนั้นเขากำลังเมา และกล่าวว่า ตัวเขารู้สึกอับอายที่เคยเขียนข้อความแบบนั้น พร้อมพยายามอธิบายในชั้นศาลว่า นั่นเป็นเพียงการ ‘พูดเล่น’ แบบดาร์กๆ เท่านั้น
- พยานฝั่งเดปป์ให้การว่า เดปป์นิ้วขาด เพราะถูกเฮิร์ดทำร้าย
เบน คิง (Ben King) อดีตผู้จัดการบ้านของ จอห์นนี่ เดปป์ ขึ้นให้การในชั้นศาลว่า เขาเป็นคนพบชิ้นส่วนของนิ้วของเดปป์ ในบ้านพักที่ออสเตรเลีย เมื่อปี 2015 หลังจากเฮิร์ดขว้างขวดวอดก้าใส่เดปป์
คิงกล่าวว่า ตอนที่เขาเข้าไปในบ้านพักที่ทั้งคู่ทะเลาะกันนั้น เขาได้ยินเสียงสะอื้นอย่างควบคุมไม่ได้ และคาดว่า นั่นเป็นเสียงของเฮิร์ด คิงยังให้การว่า เขาเห็น เดวิด เคปเปอร์ (David Kipper) แพทย์ผู้รักษาเดปป์ กำลังค้นหาถังขยะในห้องครัว
“เขาบอกว่า คุณเดปป์ได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว และเขากำลังตามปลายนิ้วที่เดปป์ได้รับบาดเจ็บนั้นอยู่”
เมื่อคิงช่วยตามหาและพบปลายนิ้วที่ขาดของเดปป์ใกล้ๆ กับบาร์ในบ้านพัก โดยคิงให้การว่า บริเวณที่เขาพบชิ้นส่วนนิ้วนั้น เต็มไปด้วยเลือดและข้าวของที่พังระเนระนาด พร้อมกับเศษขวดแก้วที่กระจายอยู่รอบๆ
แต่เฮิร์ดกล่าวว่านิ้วที่ขาดของเดปป์ เกิดขึ้นจากการที่เขากระแทกโทรศัพท์ในระหว่างที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน
- เดปป์ให้การว่า เจออุจจาระบนเตียงฝั่งที่เขานอน
เดปป์ให้การกับศาลว่า ช่วงที่มีปัญหากับเฮิร์ด เขาตั้งใจจะไปเก็บของที่บ้าน ในขณะที่เฮิร์ดไปร่วมงานคอนเสิร์ต Coachella ช่วงปี 2016 แต่ รปภ.กลับพยายามห้ามเขา และบอกว่าไม่เหมาะที่จะเข้าไป พร้อมกับโชว์ภาพถ่ายในมือถือที่เป็นรูปเตียงนอนของเดปป์และเฮิร์ด โดยฝั่งที่เดปป์นอนนั้นมีอุจจาระคนอยู่
“ปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างแรกของผมคือ หัวเราะ มันพิสดาร แปลกประหลาด แล้วก็พิลึกมากเสียจนผมทำได้แค่หัวเราะเท่านั้น” เดปป์กล่าว
แต่เฮิร์ดอ้างว่า นั่นเป็นอุจจาระของสุนัข ไม่ใช่ของเธอแต่อย่างใด
- นักจิตวิทยาฝั่งเดปป์ให้การว่า เฮิร์ดป่วยด้วยโรคทางจิตเวช
ประเด็นล่าสุด ที่แชนนอน เคอรี (Shannon Curry) นักจิตวิทยาซึ่งเป็นพยานจากฝั่งเดปป์ ให้การเมื่อคืนนี้ (ตามเวลาไทย) ว่า จากการประเมินเอกสารและเข้าตรวจแบบตัวต่อตัวกับเฮิร์ดตลอด 12 ชั่วโมง พบว่า เฮิร์ดป่วยด้วยโรค borderline personality disorder และhistrionic personality disorder ทำให้อารมณ์ไม่คงที่และควบคุมตัวเองไม่ได้
เคอรี่กล่าวด้วยว่า เฮิร์ดไม่ทุกข์ทรมานจากความเครียด อันเป็นผลจากความสัมพันธ์ที่ชอกช้ำของเธอกับเดปป์ ตามที่เฮิร์ดอ้าง
ขณะเดียวกัน เดปป์ก็ขึ้นให้การว่า เป็นคนที่ ‘ต้องการความขัดแย้ง’ และพร้อมจะไล่ตามเขาระหว่างการโต้เถียงเสมอ แม้ว่าเดปป์จะพยายามเดินหนีแล้วก็ตาม
สำหรับโรค borderline personality disorder นี้ คือโรคทางจิตในกลุ่มอาการผิดปกติทางด้านบุคลิกภาพ โดยผู้ที่ป่วยจะมีบุคลิกภาพที่แตกต่างกันออกไปตามแต่สภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากสิ่งเร้าภายนอก ส่วนโรค histrionic personality disorder นั้น จะทำให้ผู้ป่วยต้องการเป็นจุดสนใจ และมักจะประพฤติตัวไม่เหมาะสมเพื่อให้ได้รับความสนใจ
อย่างไรก็ดี ฝั่งเฮิร์ดยังไม่ได้ออกมาตอบโต้ในประเด็นนี้
อ้างอิงจาก