เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้กันไหม เวลาต้องไปพบเจอคนใหม่ๆ แล้วต่างคนต่างทำตัวไม่ถูก ไม่มีใครดูจะกล้าทลายกำแพงนี้เลย จนในบางครั้งเราเองต้องเป็นคนก้าวออกไปทลายมันด้วยตัวเอง เพื่อกอบกู้บรรยากาศให้พ้นความอึดอัด ว่าแต่จะเริ่มยังไงดีหนอ?
The MATTER ขอพาทุกคนไปฟังเรื่องราวจาก Ice Breakers ทั้งหลายว่าพวกเขามีวิธีเริ่มบทสนทนายังไงกับคนที่เพิ่งเจอครั้งแรก และมีกลยุทธ์อะไรไว้ทลายความเจื่อนบ้าง ไม่แน่ การเริ่มก่อนในวันนี้อาจพาไปสู่มิตรภาพที่ดีในวันหน้าก็ได้นะ!
นิลรัตน์ ลีลาการสกุล (เบลล์)
อาชีพ: PR and Marketing Communications
เรามีวิธีรับมือ 2 แบบ ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักมาก่อนเลย แต่ต้องมาเจอกัน เราจะเริ่มมองจากภายนอกก่อนว่ามีอะไรที่น่าจะเป็นความสนใจร่วมกันได้บ้าง จะได้ชวนคุยถูกจุด อย่างแก้วกาแฟที่ถืออยู่ หรือกระเป๋า เราก็จะถามแบบชอบกาแฟร้านนี้เหมือนกันเหรอ กระเป๋าสวยจังอะไรก็ว่าไป แต่อีกเคสหนึ่งคือเรารู้ก่อนแล้วว่าจะเจอ แต่ไม่รู้จักมาก่อน เราจะทำการบ้านโดยการส่องโซเชียลเลย จะได้รู้ว่าเป็นคนยังไง หรือถ้ามีเพื่อนร่วมกันก็สบายละ ชิลๆ ได้เลย
ภคภิม กลัสนิมิ (จินนี่)
อาชีพ: Campaign Manager
จริงๆ แล้วเราเป็นคนเจื่อนมาก แค่ไปทำเล็บไม่รู้จะคุยอะไรกับช่างก็เจื่อนแล้ว แต่มันก็มีตอนไปทำงานวันแรก แล้วมีคนเข้ามาพร้อมเรา คือเงียบมากถึงมากที่สุด เราก็รู้สึกว่าไหนๆ ก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีกเรื่อยๆ เปิดเองก็ได้ ก็เริ่มถามว่าเดินทางมายังไง บ้านอยู่ไหนเหรอ อีกฝ่ายก็ดูผ่อนคลายขึ้นนะ แต่ก็ถามกลับมาแบบเดียวกัน เราก็ถามต่อ ทำไมมาทำที่นี่ มันก็วนลูปเดิม เราได้แต่หัวเราะแห้งๆ จนต้องปลุกสกิลการตั้งคำถามมาให้หลากหลายที่สุด พร้อมหัวเราะไปด้วยเพื่อให้ดูเฮฮา ทุกวันนี้ก็ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันบ่อยเลย
กรรณ์ หทัยศรัทธา (กัน)
อาชีพ: นักศึกษาปริญญาโท
ด้วยนิสัยที่เป็นคนกวนๆ คุยเก่งอยู่แล้ว การเปิดบทสนทนาก่อนเลยไม่ยากขนาดนั้น อย่างตอนไปเรียนโทวันแรก เรานั่งติดกับคนต่างชาติ เราเปิดเลยว่ามาจากไหนเนี่ย เราชื่อกันนะ ยูล่ะชื่ออะไร หลังจากนั้นมันก็เข้าที่เข้าทางเอง แต่ถ้าจะพูดถึงแบบรวมๆ สมมติว่าเราต้องไปติดอยู่ในลิฟต์เป็นเวลานานกับคนอื่น เราจะเริ่มคุยจากการแต่งตัวของอีกฝ่ายก่อน ชมชุดเขา แล้วค่อยแนะนำตัว แล้วเราก็จะพูดถึงตัวเองทีหลัง เราเชื่อว่าการจะสร้างความประทับใจแรกเราต้องแสดงให้เห็นว่าเราจริงใจ และสนใจถามเรื่องอีกฝ่ายเยอะๆ มันทำให้คนเปิดใจ
ธัญวรัตน์ ติยะพงษ์ประพันธ์ (มินนี่)
อาชีพ: Account Executive
จริงๆ เราเป็นคนเงียบๆ นิ่งๆ หน้าออกเหวี่ยงนิดนึง แต่โชคดีที่รู้ตัวตั้งแต่เด็ก โตมาเลยเริ่มฝึกยิ้มบ่อยๆ ยิ้มเนี่ยแหละที่ทำให้เราได้เริ่มพูดคุยกับหลายคน เอาง่ายๆ เลยเราว่าก่อนจะทำความรู้จักกับใครเราต้องเปิดใจตัวเองก่อน เป็นผู้ฟังที่ดี แล้วเราจะเข้าใจคู่สนทนามากขึ้น และพัฒนาความสัมพันธ์ให้มีประสิทธิภาพได้แน่นอน สำหรับเรานี่เป็นหลักการหนึ่งในการทำความรู้จักและสร้างความประทับใจ
พิชดา สวัสดิ์ดวง (ไนน์)
อาชีพ: ธุรกิจส่วนตัว
ตอนนั้นไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วมีเพื่อนของเพื่อนไปด้วย นั่งกินข้าวกันอยู่ จู่ๆ เพื่อนเราก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ กลายเป็นว่าเหลือ 2 คนที่ไม่รู้จักกันนั่งเจื่อนที่โต๊ะ ทีนี้เราก็เลยเริ่มแบบเอ๊ะ รู้จักกับเพื่อนเราได้ไงเหรอ ละก็ยาวเลย ทำแบบนี้บ่อยๆ สรุปสนิทกับทุกคนไปหมด กว้างขวางมาก แต่บางครั้งถ้าไม่มีเพื่อนร่วมกัน ด้วยความที่เป็นคนชอบกินมาก ก็จะถามเปิดไปก่อนเลยว่าบ้านอยู่แถวไหนเหรอ พอตอบมาก็นึกถึงของกิน เห้ย! แถวนั้นมีร้านอร่อยหนิ เรื่องกินนี่คุยแล้วมันลื่นไหล สบายใจทุกฝ่ายแน่นอน
ศิวกร ลิ้มวัฒนะกูร (ไปซ์)
อาชีพ: Management Trainee
ตามปกติแล้วเราจะดูเชิงก่อนว่าคนนั้นมาจากไหน มีอะไรพอจะโยงกันได้มั้ย แต่มันมีอยู่ครั้งหนึ่งตอนไปค่าย แล้วต้องมาอยู่คู่กับอีกคน ทีนี้เราก็เลยถามว่ามาครั้งแรกเหรอ เราก็ครั้งแรก เป็นยังไงล่ะ สนุกเนอะ แล้วก็สบายเลย มันทำให้เรารู้ว่าการพูดถึงสิ่งรอบตัวที่เจอพร้อมกันตรงนั้น มันคือการทำความรู้จักด้วยตัวเองล้วนๆ ไม่ต้องไปโยงคนอื่น หรือเรื่องอื่นมาเกี่ยวข้องเลย เรื่องที่จะคุยก็ไม่ต้องมานั่งนึก มันออกมาแบบสดๆ ไม่ปรุงแต่งตรงนั้นเลย
ปิยวุฒิ รัตนานนท์ (ไอซ์)
อาชีพ: ติวเตอร์
ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะเริ่มจากการแนะนำตัวเองก่อน เหมือนการเล่าประวัติตัวเองโดยย่อไปเรื่อยๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็คงจะแนะนำตัวเองตอบกลับมาเหมือนกัน ถ้าโชคดีอาจจะมีประเด็นร่วมกันที่คุยกันต่อได้อีก เคยต้องไปจับคู่กับคนอื่นตอนแข่งกีฬา เวลามันค่อนข้างน้อยที่จะแนะนำตัวเองเยอะๆ เลยคุยเรื่องวิธี สไตล์การเล่นของเค้า เป็นการปรับแนวทางของกันและกันให้เล่นกันได้อย่างราบรื่นเพื่อให้ผลออกมาดีที่สุด หลังแข่งจบก็รู้สึกเชื่อใจกันมากขึ้น
พอคุยกันถูกคอ ก็เป็นจุดเริ่มต้น เหมือนกำแพงมันทลายลงแล้ว เรียกง่ายๆ ว่าเข้าขากันแล้วนั่นแหละ ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามธรรมชาติของมันเอง