ไม่เอานะเกรงใจ ไม่ดีหรอกเกรงใจ แต่ในเมื่อของมันต้องมี ของมันต้องใช้ ก็ขอซื้อหน่อยละกันน้า
การซื้ออาวุธ หรือยุทโธปกรณ์ ในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นสิ่งที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยๆ แต่การซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ในราคา 22,500 ล้านในครั้งที่ผ่านมานี้ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชน ซึ่งมองว่าประเทศไทย ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และจาก COVID-19 มาหนักมากพอแล้ว
ซึ่งสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ ครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ซึ่งมีมติโหวตเห็นชอบให้ผ่านงบประมาณซื้อเรือดำน้ำ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ก็ให้เหตุผลว่า การมีเรือดำน้ำ ทำให้เรามีอำนาจต่อรองผลประโยชน์ทางทะเล และจะทำให้ประเทศอื่นเกรงใจเราด้วย
แต่หลายคนก็ยังข้องใจอยู่ดีว่า เราจะรีบซื้อดำน้ำในตอนนี้ไปทำไมกันนะ เพราะเงินกว่าหมื่นล้านนี้ ก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย The MATTER จึงอยากชวนทุกคนมาลองคิดเล่นๆ ว่า ถ้าเอาเงินค่าเรือดำน้ำ ไปทำอย่างอื่น จะสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหนกันนะ?
ซื้อหน้ากากอนามัย (ราคา 2.50 บาท) ได้ 9,000,000,000 ชิ้น
หน้ากากอนามัย สินค้าจำเป็นในยาม COVID-19 แพร่ระบาด ที่ขาดตลาดไปอยู่ช่วงหนึ่ง ทั้งยังมีราคาแพงเกินกว่าที่รัฐบาลประกาศไว้ว่า ให้ขายชิ้นละ 2.5 บาทไปมากโข จนต้องแก้ปัญหาด้วยการกำหนดให้ต้องปันส่วนขายให้กับรัฐบาล
แต่ล่าสุด กรมการค้าภายใน ประกาศปลดล็อกการขายหน้ากากอนามัยแล้ว โดยยังย้ำว่า ต้องขายในราคา 2.50 บาท/ชิ้น เหมือนเดิม ดังนั้น ถ้าเราลองเอางบประมาณที่ซื้อเรือดำน้ำนี้มาเทียบกับราคาหน้ากากอนามัย ก็จะเท่ากับว่า เราสามารถซื้อหน้ากากอนามัยได้ถึง 9 พันล้านชิ้นเลยทีเดียว
ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีหมอชิต-บางหว้า (ราคา 59 บาท) ได้ประมาณ 521,000 กว่าปี
รถไฟฟ้า BTS เป็นขนส่งสาธารณะที่หลายคนใช้บริการกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนนี้กำลังต่อขยายสถานีไปอีกหลายเส้นทาง แต่จากที่เราลองคำนวณราคาดูแล้ว พบว่า เส้นทางที่ใช้เงินเยอะที่สุดในตอนนี้ คือการเดินทางจากสถานีหมอชิต ไปถึงสถานีบางหว้า ซึ่งมีราคาต่อเที่ยวอยู่ที่ 59 บาท
และหากเราเอามาเทียบกับราคาของเรือดำน้ำแล้ว ก็จะเท่ากับว่า เราสามารถขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสจากสถานีหมอชิต ไปถึงบางหว้าได้ประมาณ 381,000,000 เที่ยว ซึ่งแปลว่า เราจะขึ้นแบบไป-กลับ ได้ถึง 190,500,000 วัน หรือก็คือ เราสามารถขึ้นรถไฟฟ้า BTS ได้ประมาณ 521,000 กว่าปี ประหนึ่งเหมาจ่ายตลอดชาติกันเลยแหละ
จ่ายเงินเยียวยา (คนละ 15,000 บาท) ได้ 1,500,000 คน
เคยเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันอยู่พักใหญ่ ในช่วงแรกๆ ที่ COVID-19 ระบาด เพราะมีผู้ได้รับผลกระทบหลายคน จึงมีโครงการ ‘เราไม่ทิ้งกัน’ เพื่อแจกเงินเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหลาย แต่โครงการนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเด็น ตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียน กลุ่มคนที่เข้าข่ายว่าจะได้รับเงินเยียวยา ไปจนถึงการจ่ายเงินที่ล่าช้า
เราลองเอาเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 ในระยะเวลา 3 เดือน รวมเป็นเงิน 15,000 บาท มาเทียบกับค่าเรือดำน้ำ พบว่า เราสามารถนำเงินส่วนนี้มาช่วยจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้คนได้ถึง 1.5 ล้านคน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์รับเงินเยียวยาทั้งหมด 15.3 ล้านคน
ซื้อชุด PPE แบบครบชุด (ราคา 4,990 บาท) ได้ประมาณ 4,500,000 ชุด
เพื่อรับมือกับโรคระบาด บุคลากรทางการแพทย์เองก็ต้องป้องกันการติดเชื้อจากผู้ป่วย ดังนั้น อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล หรือ PPE (Personal Protective Equipment) ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยมีส่วนประกอบหลักๆ 3 ส่วน คือ หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยชนิด N95 และชุด PPE ที่คลุมทั้งตัว
เมื่อเราเอาค่าเรือดำน้ำ มาเทียบกับค่าชุด PPE แบบครบชุด และมีคุณภาพแล้ว พบว่า สามารถซื้อชุด PPE แบบครบชุดในราคา 4,990 บาท ได้ประมาณ 4,500,000 ชุด เลยทีเดียว
ซื้อหนังสือ Animal Farm (เล่มละ 160 บาท) ได้ 140,625,000 เล่ม
หนังสือเรื่อง Animal Farm กลายเป็นของที่ใครก็ตามหา และพูดถึงกันมากมาย หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แนะนำหนังสือเล่มนี้ให้ประชาชนอ่าน ซึ่ง Animal Farm เป็นวรรณกรรมที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Time โดยว่ากันว่า ผู้เขียนตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อเสียดสีการสืบทอดอำนาจหลังการปฏิวัติโซเวียต ทำให้หลายคนสงสัยว่า เอ๊ะ ท่านนายกฯ แนะนำให้ใครอ่านนะค้า
ถึงอย่างนั้น เมื่อนายกฯ แนะนำหนังเล่มนี้มาแล้ว เราก็เลยอยากหยิบมาเพื่อเทียบว่า หากเรานำเงินค่าเรือดำน้ำไปซื้อหนังสือเรื่อง Animal Farm แบบปกแข็งนั้น จะซื้อได้กี่เล่ม? ซึ่งก็พบว่า เราสามารถซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ถึง 140,625,000 เล่มเลยนะ
จ่ายเงินเดือนให้นายกฯ (เดือนละ 125,590) ได้ประมาณ 179,000 เดือน
ปัจจุบันนี้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งได้รับอัตราเงินเดือน 75,590 บาท/เดือน และได้รับอัตราเงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท/เดือน เท่ากับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเงินเดือนละ 125,590 บาทนั่นเอง
ทีนี้ เราลองคำนวณกันเล่นๆ ว่า ถ้าเอาเงินที่ซื้อเรือดำน้ำ มาเป็นเงินเดือนให้กับ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว จะสามารถจ่ายเงินให้นายกฯ ได้ประมาณ 179,000 เดือน หรือเท่ากับว่า จ่ายเงินเดือนให้นายกได้อีกเป็นหมื่นปีเลยนะ (แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ต่ออีกเป็นหมื่นปีนะ)
อ้างอิงจาก