ต้องมีบ้างล่ะ ที่เรารู้สึกว่าชีวิตจริงแม่งเฮงซวยจังวะ!
ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด สอบตก งานโดนแก้ แฟนทิ้ง หัวหน้าด่า ลูกค้าประสาทแดก ร้านข้าวปิด ฝนตกตอนเลิกงาน รถเมล์ไม่จอดรับ รถไฟฟ้าคนแน่น สารพัดเรื่องราวในชีวิตจริงมันขมขื่นขนาดนี้ จะกดมือถือเล่นโซเชียลผ่อนคลายสักหน่อย เข้าไปก็ดันเจอไลฟ์โค้ชมาสอนให้พัฒนาตัวเองทุกอณู สอนตั้งแต่อาชีพการงานไปจนถึงอาหารการกินก็ไม่เว้น ไม่ว่าจะทำสิ่งไหนเหล่าไลฟ์โค้ช ก็พร้อมสอนเราอยู่เสมอ เสมือนรับบทคุณครูตลอดเวลา วันหยุดก็ให้ลุกมาอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง เทคคอร์สเสริม เลิกงานกลับบ้านต้องฟังพอดแคสต์ แต่ถามจริงๆ เลยว่ามนุษย์เงินเดือนหนึ่งคน ที่ออกจากห้องตั้งแต่ 7 โมงเช้า ไปเข้างานให้ทัน 9 โมง แล้วทำงานจรด 6 โมงเย็น กว่าจะถึงบ้านอีกที ก็ปาไป 2 ทุ่ม จะเอาเวลา เอาแรง แล้วก็เอาเงินที่ไหนไปใช้โปรดักทีฟตัวเองให้ได้ขนาดนั้นกัน
ฮั่นแน่! อ่านมาถึงตรงนี้ เหล่าไลฟ์โค้ชอาจจะกำลังแย้งอยู่ในใจว่า ‘ถ้าคนอื่นทำได้ คุณก็ทำได้สิ มันเป็นแค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจเท่านั้น’ ใช่ไหม? โอเค ไม่เป็นไร แน่นอนอยู่แล้วว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดที่จะปลุกใจคนให้ฮึดสู้ด้วยคำคมเหล่านั้น แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าชีวิตมันเฮงซวย แล้วการจะโปรดักทีฟเพื่อให้มีชีวิตที่สวยงามมันเป็นเรื่องกัดกินพลังกาย พลังใจของเราก็ไม่ใช่เรื่องผิดอีกเหมือนกัน
ในเมื่อโลกมันไม่ใจดีกับเรา วันนี้ The MATTER เลยขอสวนกระแสไลฟ์โค้ช แล้วรวบรวมคำคมฉบับธรรมะแท้ไม่มีคำปลอบใจ ที่ดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของหลายคน เอามาเผื่อแผ่ให้กับทุกคนที่ผ่านไปผ่านมา เสมือนว่ามีคนคอยตบบ่าแล้วบอก “ชีวิตมันแย่ใช่ไหม เออกูก็แย่เหมือนกันมึง”
ไม่มีอะไรที่เราทำได้
ประโยคฮิตช่วงนี้ ไวรัลจากแชตไลน์ ‘สู้ๆ ครับทุกคน ไม่มีอะไรที่เราทำได้’ เมื่อชีวิตมาถึงจุดที่ต้องให้กำลังใจกันและกัน เพื่อนร่วมทีมที่ปลุกใจเก่งถือเป็นคีย์แมนคนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เราก็จัดให้เพื่อนไปเลยหนึ่งประโยค ใครได้อ่านก็ใจฟู ยิ้มได้ เหลือบมองตากันในทีมแล้วพยักหน้าเบาๆ เอาวะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่เราคนเดียวแล้วแหละที่จะโดนด่า สู้ๆ เว้ยทีมเรา ไม่มีอะไรที่เราทำได้อยู่แล้วทุกคน
เราทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้ แต่ทำให้ทุกคนไม่พอใจได้
คนนู้นจะเอาอย่างหนึ่ง คนนี้จะเอาอย่างหนึ่ง แล้วทำไมไม่ตกลงกันมาก่อนแล้วค่อยบอก แก้แล้วแก้อีก ใจก็อยากถามว่าจะทำเองไหม แต่เอาเถอะ ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็บรีฟมาคนละอย่างแล้ว ถ้าทำตามฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เดี๋ยวอีกฝั่งก็จะหาว่าเราเลือกพรรคเลือกพวก วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ ก็คือเราไม่ทำตามใครเลย แต่ทำในแบบของเราเอง ทีนี้ก็จะไม่ต้องมีใครพอใจเลยสักทาง เท่าๆ กัน ไม่มีน้อยใจ ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เพราะเราทำให้ทุกคนชังไปเลย แก้ปัญหาตรงจุดสุดๆ
ความพยายาม อยู่ที่ไหน?
จัดมาเน้นๆ หนึ่งดอก จากคติสอนใจที่ท่องกันปากต่อปากว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ สู่ประโยคคำถามที่ไร้คำตอบว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน?’ เป็นคำพูดที่เอ่ยขึ้นมาลอยๆ ฟุ้งๆ แล้วก็จากไป ทั้งชีวิตมี่แต่คนบอกให้พยายามตั้งใจเรียน พยายามทำงาน พยายามเก็บเงิน พยายาม พยายาม แล้วก็พยายาม แต่ยังไม่เคยเห็นหน้าตาผลลัพธ์ของความพยายามที่ว่ามาเลย จนตอนนี้จากประโยคเต็มก็เลยลดรูปเหลือแค่ความพยายามอยู่ที่ไหนก็พอละ
ลำบากวันนี้ สบายวันไหน
‘ลำบากวันนี้ สบายวันหน้า’ ล่าสุดคนที่พูดแบบนี้อายุปาเข้าไป 60 แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นจะสบาย สรุปไอที่ลำบากมาทั้งชีวิตนี่จะสบายยัง สบายกี่โมง สบายตอนไหน ถ้าเราเลือกสบายตอนนี้เราจะสบายเลยไม่ต้องรอ แต่ถ้าเราลำบากเพื่อให้อนาคตสบายมันเป็นเรื่องที่หมอดูยังทายไม่ถูกเลยว่าจะสบายจริงไหม ไม่มีใครการันตีให้ว่าเราจะสบายจริงในอนาคต เพราะฉะนั้นเราเลือกที่จะสบายตอนนี้ได้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ต้องถามว่า จะได้สบายวันไหน
ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร เพราะเราไม่ใช่ไก่
‘ชีวิตคือการแข่งขัน คนที่ไม่ลงแข่งก็คือคนที่ไม่พัฒนาตัวเอง’ ฟังแล้วฮึกเหิมไหม? ถ้าไม่เราคือเพื่อนกัน ไม่เป็นไรนะ เธอยังมีเรา ชีวิตนี้ไม่ต้องแข่งขันกับใครหรอก ให้เรื่องขันเป็นหน้าที่ของไก่ก็พอ และแม้ว่าเราจะไม่ได้แข่งขันเหมือนกับไก่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเศร้าเสียใจ เพราะเราเลือกเกิดไม่ได้ เส้นทางชีวิตของเรามันไม่ได้ถูกลิขิตมาให้ขันอยู่แล้ว เพราะถ้าเขาอยากให้เราลงสังเวียนในศึกนี้ เขาต้องให้เราไปเกิดเป็นไข่ รอเดบิวต์เป็นนักเก็ตแล้วล่ะ
โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เท่าแม่มึงแล้ว
‘Nobody is perfect’ ประโยคสุดคลาสสิกที่เอาไว้ปลอบใจ แปลเป็นไทยว่า ‘ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ’ แต่ในชีวิตจริงการจะยอมรับว่าตัวเองมีข้อผิดพลาดก็ดูจะเป็นเรื่องยาก ยิ่งถ้าทำงานกับคนอีโก้สูงเสียดฟ้า ไม่เคยยอมรับความผิดที่ตัวเองได้ทำ คนร่วมงานด้วยก็จนปัญญาจะเถียง มีแต่ปวดหัวที่ได้ร่วมงาน วิธีปล่อยใจจอยๆ ก็คือการซัปพอร์ตคนอีโก้คำฟ้าไปเลยว่า ว่าโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเท่าแม่มึงแล้ว เก่งสุดๆ ไอต้าวนัมเบอร์วัน แกโคตรเก่ง เก่งไปยันแม่แกเลย เอาให้ตัวลอย เกิดมาไม่เคยผิดก็แบบนี้ เทพบุตรลงมาเกิดแท้ๆ
ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ให้เขาทำ
จดบทไว้ใช้ด่วนๆ คำคมสอนใจนี้ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะป้าข้างบ้านมาอวดลูก พี่ที่ออฟฟิศเรียกใช้งาน หรือถูกเปรียบเทียบให้เรารู้สึกด้อยค่าเพราะทำสิ่งนั้นไม่ได้ จากนี้ไปไม่ต้องรู้สึกด้อยค่าในตัวเอง เวลาที่เราจะเฉิดฉายมาถึงแล้ว ถ้าป้าข้างบ้านอวดว่าลูกฉันเก่ง ก็ยืดอกยอมรับไปเลยว่า ‘ใช่แล้ว ลูกป้าเก่งมาก ทำได้ขนาดนี้ก็ทำต่อไปนะ ส่วนหนูจะไปนอน ใครทำได้ทำเลยค่ะ’ หรือถ้าพี่ที่ออฟฟิศโยนงานมาให้แล้วบอกว่าทำให้ดีเหมือนที่พี่ทำ ก็บอกไปว่า ‘ถ้าพี่ทำดีแล้วก็ทำต่อไปเลยค่ะ หนูทำไม่ดีเท่าพี่แน่เลย สู้ๆ ค่า’ ยึดคติว่าไม่ต้องเสียใจที่เราทำไม่ได้ เพราะถ้าใครทำได้ก็ให้เขาทำไป
พลิกวิกฤตให้เป็นวินาศสันตะโร
ใครๆ ก็บอกให้ ‘พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส’ แน่นอนว่าแค่พูดมันง่ายอยู่แล้ว แต่พอถึงคราววิกฤตจริงๆ หนีหายกันหมด เหลือเรายืนเผชิญหน้ากับวิกฤตตัวคนเดียว แล้วยังไง ความปัง ความดวงดี ความยืนหนึ่ง ความมั่นใจไม่กลัวของเรา ก็เชื่อในคำคมที่ให้พลิกวิกฤตอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครบอกว่าพลิกยังไงให้เป็นโอกาส ก็เลยจบลงที่พลิกมันกลายเป็นวินาศสันตะโรแทน จบๆ ไป ใครจะว้าวุ่นต่อก็สู้ๆ ตอนนี้เราพลิกให้แล้วตามที่บอก ไม่ตรงบรีฟนิดหน่อย แต่ถือว่าได้ทำละ ส่วนใครจะมาพลิกวินาศสันตะโรต่อจากเราก็สู้ๆ นะ
ถ้าเราชนะตัวเอง คนที่แพ้ก็คือเราใช่มั้ย
‘ชนะอะไร ก็ไม่เท่าชนะใจตัวเอง’ สุดยอดคำคมปลุกใจที่ฮิตกันมาอย่างยาวนาน แต่แล้วเมื่อหลายปีก่อน ‘เบบี้มายด์—ปรัชญานันท์’ ก็สร้างตำนานบทใหม่ด้วยคติเตือนใจแบบย้อนกลับว่า ‘ถ้าเราชนะตัวเอง คนที่แพ้ก็คือเราใช่มั้ย’ ทำเอาชาวเน็ตอึ้ง เพราะถ้ามานั่งคิด นอนคิดดีๆ มันก็จริงอย่างที่เขาว่า ถ้าเราชนะตัวเอง ยังไงคนที่แพ้ก็เป็นตัวเราเองอยู่ดี หลังจากได้อ่าน ก็วางเลยหนังสือพัฒนาตัวเองที่ถืออยู่ในมือ จากนี้ไปขออยู่แบบประนีประนอม ไม่ขอสู้แล้ว กลัวแพ้งับเตง