คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม? คงจะดีถ้าสักวันคุณได้พบใครสักคนที่ทำให้โลกของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
คนที่คุณอยากใช้เวลาว่างในวันหยุดไปกับเขา บ่นเรื่องเจ้านายให้ฟังหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน แบ่งปันช่วงเวลาทุกข์และสุขไปกับคุณ ถ้าเกิดสมมติวันหนึ่งมนุษย์บ้างานอย่างคุณ ดันไปเจอคนที่ใช่ขึ้นมาจริงๆ แล้วเกิดสารพัดความรู้สึกแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินไป อาการที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่สัญญาณว่าคุณกำลังมีความรักก็เป็นได้
เจอกันทีไรมือไม้อ่อนแรง
คุณเจอกับเขาครั้งแรกตรงมุมถ่ายเอกสารในออฟฟิศ คุณหยิบเอกสารกองโตที่สั่งพิมพ์ไปเมื่อครู่ด้วยมือไม้ที่สั่นเทา นั่นเป็นวินาทีแรกที่คุณได้พบเขา เขาช่างดูแตกต่างจากทุกคน ไม่ใกล้เคียงกับใครที่คุณเคยเจอมาก่อนเลย มือไม้คุณชาไปหมด นิ้วมือที่เมื่อสักครู่ยังขยันพิมพ์งานไม่ยอมหยุด อยู่ดีๆ ก็อ่อนแอเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงขึ้นมาเฉยๆ สุดท้ายคุณก็ทำเอกสารที่ใช้เวลาพิมพ์อยู่หลายชั่วโมงตกระเนระนาด
คุณเคยนับมั้ยว่าวันหนึ่งคุณใช้เวลานั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ของคุณกี่ชั่วโมง ถ้าไม่จำเป็นต้องลุกไปหยิบเอกสารที่สั่งพิมพ์แล้วคุณจะยอมลุกขึ้นจากเก้าอี้บ้างหรือไม่ หากคุณเป็นมนุษย์ที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน และชอบใช้งานคอมพิวเตอร์นานๆ โดยไม่หยุดพักหรือไม่เคยยืดกล้ามเนื้อมือและแขนทุกๆ ชั่วโมงด้วยแล้วล่ะก็ อาการชาบริเวณปลายนิ้วและหยิบจับข้าวของลำบากแบบนี้ไม่น่าจะใช่อาการเมื่อเจอกับรักแรกพบ แต่คุณอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (CTS) ซึ่งเป็นหนึ่งอาการยอดฮิตของกลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงาน (Office Syndrome) ซึ่งไม่ใช่แค่คุณหรอกที่เสี่ยงเป็นโรคนี้ เพราะมนุษย์บ้างานในปัจจุบันที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไปก็ล้วนมีความเสี่ยงไม่ต่างจากคุณ แถมยังมีแนวโน้มที่เกิดขึ้นในช่วงอายุที่น้อยลงไปเรื่อยๆ
มองไม่ค่อยชัด เพราะอยากได้เบลอ
เพราะความเขินอายไม่กล้ามองหน้าเขา คุณเลยได้แต่ก้มหน้ามองจอคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยงานสารพัด แล้วก็ยังมีอีเมลจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องตอบ แถมยังแอบปันใจไปมองจอสมาร์ทโฟนบ้างเป็นครั้งคราว จนคุณเริ่มรู้สึกปวดตา พอคุณรวบรวมความกล้าได้มากพอที่จะแอบมองเขา แม้จะเพียงชั่วขณะเดียวก็พบว่า ภาพของเขาในสายตาคุณมันช่างดูเบลอๆ มัวๆ ฟุ้งฝันราวกับใส่ฟิลเตอร์ซะเหลือเกิน
อันที่จริงภาพฟุ้งฝันนั้นไม่ได้สื่อว่าคุณกำลังตกอยู่ในชั่วโมงต้องมนต์ และความรักไม่เคยทำให้ใครตาบอด แต่ปัญหาทางสายตาอาจทำให้คุณตาบอดจริงๆ ก็ได้ จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พบว่าคนไทยใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของวันไปกับหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแสงจ้าของมันมีผลต่อสุขภาพเลนส์และจอประสาทตา ที่อาจนำไปสู่โรคจอประสาทตาเสื่อม รวมถึงโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (CVS) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตของคนวัยทำงาน เพราะฉะนั้นอย่าได้ชะล่าใจไป อาการปวดตา ตาแดง และตามัวนั้นถ้าปล่อยไว้นานอาจจะทำให้ตาบอดจนรักษาไม่ทัน ทางที่ดีควรเลือกจอที่มีความละเอียดสูงเพื่อลดการเพ่ง เว้นระยะห่างระหว่างหน้าจอกับหน้าเราให้ไม่ต่ำกว่า 20-28 นิ้ว และอย่าลืมพักสายตาโดยการมองไกลหรือกระพริบตาทุก 20 วินาทีด้วยก็จะช่วยได้มาก
ท้องไส้ปั่นป่วนเมื่อยามนึกถึง
เขาว่ากันว่าคนที่กำลังมีความรัก จะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อเป็นร้อยตัวบินวนอยู่ในท้อง คุณหาอะไรใส่ท้องเป็นรางวัลให้การทำงานล่วงเวลาของตัวเองยามดึก นี่เพิ่งจะเป็นมื้อที่สองของคุณ นึกไม่ออกว่ากินมื้อแรกไปแล้วตั้งแต่กี่โมงเพราะความขยันไม่ยอมลุกจากโต๊ะทำงาน ว่าแล้วก็ล้มตัวลงนอนพลางนึกถึงหน้าเขา รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนเหลือเกิน ทั้งยังแสบร้อนขึ้นมาถึงบริเวณหน้าอก ตอนนี้ผีเสื้อเป็นร้อยตัวคงกำลังแข่งกันบินชนท้องคุณอยู่แน่ๆ
น่าสงสัยว่าผีเสื้อในท้องของคุณนั้นอาจเป็นการเตือนของโรคในระบบทางเดินอาหาร เพราะทุกวันนี้นอกจากจะต้องเผชิญความเครียดจากการทำงานแล้ว คนวัยทำงานยังต้องดำเนินชีวิตด้วยความเร่งรีบ กินอาหารไม่เป็นเวลา และนิยมกินอาหารดึกกันมากขึ้น การดำเนินชีวิตแบบนี้มีผลกระทบต่อร่างกายมากกว่าที่คิด และหนึ่งในนั้นคือโรคกรดไหลย้อน ซึ่งพบปัญหานี้ในประเทศตะวันตกสูงถึง 50-60% ส่วนวัยทำงานในประเทศไทยเองก็ประสบปัญหากรดไหลย้อนกันมากขึ้นเช่นเดียวกัน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่น่ากลัวไปกว่าอาการท้องไส้ปั่นป่วน ปวดท้อง และแสบร้อนกลางหน้าอกนั่นก็คือ ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เรื้อรังอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายได้เลยทีเดียว
โลกหมุนได้ด้วยความรัก
คุณเครียดกับงานจนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน เรื่องออกกำลังกายนี่ไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้อยู่ในความคิดของคุณเลยสักนิด เพราะเมื่อสมองว่างจากเรื่องงาน คุณก็คิดแต่เรื่องของเขาเท่านั้น คุณตกอยู่ในภวังค์ รู้สึกโคลงเคลงเหมือนคนเมาเหล้าอย่างหนัก ภาพรอบตัวคุณเคลื่อนไปมา ในขณะที่สมองคุณพยายามประมวลผลว่ายังเหลืองานอะไรที่คั่งค้างอีกบ้าง คุณมองเห็นสิ่งต่างๆ หมุนอยู่รอบตัว ราวกับฉากที่กล้องเคลื่อนที่ไปรอบๆ พระเอกและนางเอกในภาพยนตร์โรแมนติกที่มีดนตรีประกอบสุดไพเราะสักเรื่องหนึ่ง
และเป็นไปได้ว่าในภาพยนตร์เรื่องที่ว่านี้ โลกไม่ได้หมุนด้วยความรักที่คุณมีให้เขา แต่ว่าคุณมีอาการเวียนศีรษะแบบที่เรียกว่าโรคบ้านหมุน โรคใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย บางคนอาจมีอาการเวียนศรีษะ หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม โคลงเคลงลุกไม่ไหว บางครั้งอาการหนักจนต้องนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ ตั้งแต่ อาการเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ น้ำในหูไม่เท่ากัน มีตะกอนในหูชั้นใน ไปจนถึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคทางระบบประสาทและสมองซึ่งร้ายแรงกว่าที่คุณสามารถจินตนาการ เพราะหากเป็นโรคหลอดเลือดทางสมองแล้วปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดอัมพาตตามมาได้ หากไม่สามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดได้ทันภายในเวลา 4.5 ชม.
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม?
คงจะดีถ้าสักวันคุณจะได้พบใครสักคนที่ทำให้โรคของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่าเข้าใจผิดว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการของคนมีความรัก หรือเป็นอาการที่สามารถปล่อยปละละเลยได้ เพราะมันเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆ ที่ร้ายแรงถึงชีวิต การทำงานหนักจนละเลยร่างกายของตัวคุณเองอาจจะทำลายสุขภาพของคุณตลอดไป หากคุณยังอยากทุ่มเทในการทำงาน หากคุณยังต้องการใช้ชีวิต รีบเข้ามาตรวจสุขภาพเพื่อหาสาเหตุและปัญหาของโรคต่างๆ เพื่อรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่อาการเหล่านี้จะเรื้อรัง ลุกลาม แล้วทุกอย่างจะสายเกินจะแก้
ทำงานหนัก ต้องรักสุขภาพ Work Hard Check Harder
อ้างอิงข้อมูลจาก
http://www.phyathai.com/CheckHarder