ความทรงจำในฤดูร้อนของคุณเป็นแบบไหน?
ในวันที่เรายืนอยู่กลางแดดจ้า เท้าเหยียบอยู่บนหาดทราย ในช่วงเวลาที่ผลไม้สุกฉ่ำ ดอกไม้ผลิบานหลากสี ความทรงจำในฤดูร้อนมักเป็นช่วงที่เวลาที่สดใสที่สุด เจิดจ้าที่สุด และเต็มไปด้วยรสชาติของห้วงเวลาสำคัญของชีวิต
คำว่า ‘ฤดูร้อนไม่เหมือนเดิม’ นอกจากความหมายของความรักที่เปลี่ยนไปแล้ว อันที่จริง เราเองก็อาจค่อยๆ รู้สึกว่าหน้าร้อนในทุกๆ ปี ไม่ค่อยเหมือนเดิมเท่าไหร่ หน้าร้อนที่หอมหวานมักเป็นเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้ว ฤดูร้อนโดยทั่วไปมักเป็นช่วงเวลาแห่งความเจิดจ้า เป็นช่วงเวลาของพลังงานและความเยาว์วัยที่ล้นเหลือ
ในความหอมหวานของฤดูร้อน เราอาจจะนึกถึงหน้าร้อนที่นอกจากจะเป็นช่วงเวลาพักสำคัญของคนทำงาน ฤดูร้อนจึงเป็นเหมือนการเป็นช่วงเวลาให้หวนรำลึกถึง เป็นฤดูกาลที่เมื่อเราหยุดพัก ได้ทบทวนสิ่งต่างๆ ช่วงนี้เองที่เราอาจจะมีอากาศโหยหาอดีต เรามักนึกหรือเล่าถึง ‘บ่ายวันหนึ่งในหน้าร้อน’
ความทรงจำหรือเรื่องเล่านั้น มักเริ่มต้นที่การนึกถึงวันนั้นที่แดดร้อน เป็นช่วงหนึ่งของวันหยุดยาว เป็นวันที่เราขี่จักรยานตะลอนไปรอบๆ วิ่งเล่นกลางฝุ่นแห้งๆ ของดิน และกลิ่นเขียวๆ ของหญ้า เสียงกรอบแกรบของใบไม้แห้งๆ และเสียงดังลั่นของจักจั่น
ฤดูร้อนเป็นฤดูแห่งความทรงจำ
ในบรรดาช่วงเวลาในช่วงปี ฤดูร้อนดูจะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยสีสัน และแน่นอนเป็นช่วงที่เรามองย้อนกลับไปแล้วมักจะจดจำรำลึกถึงบรรยากาศและเหตุการณ์ต่างๆ ได้ หน้าร้อนเป็นช่วงเวลาของการหยุดพัก คือเป็นช่วงเวลาที่เราปิดเทอมฤดูร้อนกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเวลาอาจเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้น ยิ่งถ้าเรามองว่าหน้าร้อนเป็นช่วงเวลาของความเป็นอิสระ
เราในฐานะเด็กๆ หรือวัยรุ่นได้มีช่วงเวลาเป็นของตัวเอง
ได้ไปใช้เวลากับเพื่อน กับพี่น้อง เป็นช่วงที่เราเติบโตขึ้น
จึงไม่แปลกที่ บ่ายของวันหนึ่งในหน้าร้อน จะเป็นสิ่งที่เราอาจหลงลืมไปแล้ว แต่เมื่อลองนึกถึงความทรงจำในวันแดดจ้า หรือในค่ำคืนที่เซ็งแซ่ไปด้วยเสียงของจักจั่น กลิ่นและรสของฤดูร้อนเมื่อปีที่แล้วหรือเมื่อสิบปีที่แล้ว ก็อาจจะแจ่มชัดขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดใจ
การบอกว่าฤดูร้อนเป็นฤดูแห่งความทรงจำ มีงานศึกษาช่วยยืนยัน งานสำรวจพิเศษเพื่อฉลองวันไอศกรีมแห่งชาติของสหรัฐ (National Ice Cream) ทำการสำรวจความคิดของผู้คน และพบว่า ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่คนอเมริกันกว่าครึ่ง (55%) หวนหาความรู้สึกของการได้เป็นเด็กอีกครั้ง ในงานสำรวจพบว่าความรู้สึกที่ผู้คนนึกถึงเมื่อวัยเด็กมีสามสิ่งคือ การได้ออกไปเล่นนอกบ้าน (45%) ไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว (43%) และการกินไอศกรีมเยอะๆ (39%)
ในงานสำรวจน่ารักๆ นอกจากจะพบว่าไอศกรีมเป็นส่วนสำคัญของความทรงจำ งานศึกษายังอธิบายว่า สาเหตุที่หน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่หวนหาอดีตก็ด้วยหลายสาเหตุ เช่น หน้าร้อนเป็นช่วงเวลาที่เราผ่อนคลายเป็นพิเศษ เป็นช่วงเวลาที่เราได้ไปใช้เวลานอกบ้านและกลางแจ้ง บางส่วนเราได้กลับไปเดินทางกับครอบครัว ถ้าเป็นบ้านเราก็มีเชงเม๊ง สงกรานต์ การได้กลับไปรวมญาตินำไปสู่การเล่าหรือนึกถึงอดีตร่วมกันได้ กิจกรรมรวมญาติประกอบกับความร้อนของอากาศ การได้ไปพักผ่อนนำไปสู่การกลับไปเป็นเด็กได้ เช่น ไปเล่นน้ำ กินไอติม การกลับไปเที่ยวกับพ่อแม่ พี่น้องหรือญาติผู้ใหญ่
แต่การหวนหาอดีตหอมหวานก็มีความขม
ฤดูร้อนแม้จะเป็นช่วงดูสดใสซาบซ่า เป็นช่วงวันหยุด แต่คำว่าการหวนหาอดีตหรือการรำลึกถึงอดีต (nostalgia) มันก็มีความขมที่ปนอยู่ในความหวาน (bitter sweet) ด้วยเหมือนกัน
คือการนึกถึงอดีตที่เราเคยเต็มไปด้วยพลัง เป็นช่วงเวลาของวัยรุ่นและการเติบโต เป็นห้วงเวลาสำคัญของชีวิต จุดหนึ่งเราเองก็พบว่านั่นคืออดีตที่หอมหวานของเรา ท่ามกลางแดดจ้าๆ และโลกที่บอกให้เราเต็มไปด้วยพลังและออกไปใช้ชีวิตในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนแห่งปี ในช่วงนี้เราเองอาจจะเกิดความรู้สึกเหนื่อยกับความเจิดจ้าของแสงแดดขึ้นมาเสียดื้อๆ ช่วงเวลาดีๆ เหล่านั้นเป็นอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้ว
ไม่แปลกที่ในบรรยากาศสดใสที่อาจจะแรงกล้าจนเกินไปของหน้าร้อน ทำให้ในบางจังหวะเราเองกลับรู้สึกเศร้าหรือเหนื่อยขึ้นมาอย่างประหลาด อาการความเศร้าในหน้าร้อน เช่น ในเพลงของลาน่า เดล เรย์ (Lana Del Rey) ก็อาจจะเป็นภาพที่เล่นซ้ำของความรักและรอยจูบลาอันร้อนแรงของหน้าร้อนเมื่อหลายปีที่แล้ว ไม่แปลกที่พาราด็อกจะรำลึกหน้าร้อนของปัจจุบันที่ไร้เธออีกต่อไปถึงความร้อนแรกของรักในปีก่อนที่กลายเป็นอดีตไป เป็นสิ่งที่ยังหวานฉ่ำและยังคงติดตรึงมาจนถึงหน้าร้อนนี้
ฤดูร้อนเป็นฤดูของรสชาติ ห้วงเวลาของผัสสะต่างๆ ที่กระตุ้นพา
ให้เรากลับไปยังอดีต ไปยังช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ ร้อนแรง
และผ่านพ้นไปหมดแล้ว
โดยทั่วไปฤดูร้อนบางครั้งอาจจะสดใสและเจิดจ้า ที่อาจจะจ้าจนเกินไป ด้วยหลายเงื่อนไข ไม่ใช่ทุกคนที่จะสนุกหรือมีเวลาสำหรับหน้าร้อนได้อย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนเตรียมไปสนุกกันกลางแสงแดด คนบางกลุ่มก็อาจจะไม่พร้อมที่จะไปพักร้อนได้ การต้องอยู่ตามลำพัง ร่วมพักผ่อนในช่วงเวลาแห่งการพักไม่ได้ ไปจนถึงสภาพอากาศเช่นอากาศที่ร้อนจนเกินไป ความอ่อนเพลียกับบรรยากาศและความร้อนก็อาจนำไปสู่ความอ่อนเพลียที่นำไปสู่ความรู้สึกเหงา เศร้าและเดียวดายได้
การดูแลกายและใจในช่วงหน้าร้อนก็อาจจะเป็นเงื่อนไขสำคัญในการฝ่าแดดและบรรยากาศสดใสของการพักผ่อนต่อไป การตระหนักว่าฤดูร้อนอันร้อนแรงอาจเป็นเรื่องของอดีต การรำลึกถึอดีตที่สวยงามอาจนำไปสู่การทบทวนความสัมพันธ์หรือสถานะความคิดของเราเพื่อก้าวต่อไป การนึกถึงอดีตหรือการลองกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดีในช่วงหน้าร้อน เป็นการพาพลังของช่วงเวลาแห่งแสงแดดและการหยุดพักไปสู่ช่วงเวลาต่อๆ ไป
หรือถ้าเหนื่อย ไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร เราอาจใช้อดีตเป็นพลังให้ค่อยๆ ก้าวผ่านเปลวแดดที่แสนจะแรงกล้าแบบช้าๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ค่อยๆ จัดการสุขภาพใจ จัดการกับตารางหน้าร้อนที่สับสนและยุ่งเหยิง ดูแลเรื่องการนอน ออกไปเจอแสงแดดและกิจกรรมภายนอกบ้างตามสมควร
อ้างอิงข้อมูลจาก