ถ้าเราเลิกกับแฟน เราก็ยังมีเพื่อนให้ร้องไห้ งอแง งี่เง่า และอีกต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเหตุการณ์ไหนเพื่อนนี่แหละที่คอยอยู่ข้างๆ
แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเพื่อนที่เรารู้จัก รักและเติบโตด้วยกันมาเกิดไม่ต้องการเป็นเพื่อนกับเราอีกต่อไป มิตรภาพที่เคยมีให้แก่กันเกิดหักสะบั้นลง เมื่อมิตรกำลังจะกลายเป็นอื่น และหลายๆ ครั้ง… จากมิตรภาพนับสิบปีกลับกลายเป็นศัตรูกันซะอย่างนั้น
การเสียเพื่อนคงเป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่เราเคยผ่านกันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เราไม่อยากให้เกิดการเสียเพื่อนหรือเลิกคบกันเกิดขึ้นอีก เพราะเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ การโกรธและเลิกคบกันก็ไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายเหมือนแค่ยกนิ้วโป้งใส่กัน ไม่มองหน้ากัน ก่อนที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะกลับมาคืนดีและเล่นเปื้อนโคลนด้วยกันอีกครั้ง
ในความเป็นเพื่อน คือการให้อภัย
ทำไมเมื่อเราเสียเพื่อน เราถึงมักมีท่าทีรุนแรงไม่ต่างอะไรกับการเลิกกับแฟน เผลอๆ บางทีจะรู้สึกแย่กว่าซะอีก แน่ล่ะว่าเมื่อเราโตขึ้นตัวตนและรูปแบบความสัมพันธ์ของเรากับบุคคลอีกคนหนึ่งก็มีความซับซ้อนมากขึ้น ‘เพื่อน’ ถึงแม้ว่าจะดูเป็นรูปแบบความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายและไม่ค่อยมีอารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรงใส่กัน แต่เอาเข้าจริงในการที่เรามีปฏิสัมพันธ์และรักษาใจของเพื่อนอีกคนนึงไว้ ภายในนั้นมีความละเอียดอ่อนและต้องใช้ศิลปะในการรักษาไมตรีแก่กันไว้พอสมควร
มนุษย์เรามักทำร้ายกันเสมอ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่
ในมิติของความเป็นเพื่อน พอเป็นเพื่อนกันปุ๊บ ด้วยเจตนาที่ดี ไม่ว่าจะในเรื่องเล่นหรือเรื่องจริงจัง เรามักจะทำร้ายเพื่อนกันอยู่เสมอ เราด่าทอมั่ง ล้อเลียนมั่ง แกล้งแรงๆ มั่ง ไปจนถึงการให้คำแนะนำตรงๆ ตำหนิแรงๆ ที่เราก็รู้แหละว่าเพื่อนจะเจ็บ แต่ให้เพื่อนเจ็บตอนนี้ดีกว่าจะเจ๊งหนักหรือเจ็บหนักกว่า เพราะความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
David Whyte กวีชาวไอริสจึงบอกว่า มิตรภาพไม่ว่าจะสั้นหรือยาวนานแค่ไหนต่างยืนอยู่บนการให้อภัยซึ่งกันและกันโดยตลอดมา สิ่งที่เดวิดพูดฟังแล้วก็เหมือนได้เห็นเซลล์เล็กๆ ที่ประสานเพื่อนต่อเพื่อนกันไว้ ไม่ว่าจะเป็นสมัยประถมที่เพื่อนทำเราหกล้ม หรือเพื่อนที่พูดจาแรงๆ ทำร้ายจิตใจเรา เพื่อนที่ด่าเราเสียๆ หายๆ ล้อเราจนเละเทะ สิ่งที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันคือ เราต่างให้อภัยกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เออ มันไม่ตั้งใจ มันหวังดี มันงี่เง่า เราต่างให้อภัยกันและรักษามิตรภาพของกันและกันเอาไว้
เมื่อความยืนยาวล่มสลาย เสียเพื่อนอาจร้าวกว่าเสียแฟน
ความสัมพันธ์แบบเพื่อนต่างจากความสัมพันธ์แบบคนรัก คือความค่อยเป็นค่อยไป เราค่อยๆ ผูกพันกันอย่างช้าๆ ไม่พลุ่งพล่านใส่กัน ค่อยๆ แน่นแฟ้น สนิทสนมกันมาขึ้นทีละเล็กทีละน้อย เราผิดใจกัน ให้อภัยกันอย่างเงียบๆ ดังนั้นมิตรภาพจึงเป็นตัวแทนของความยั่งยืนและความคงทน
Seth Meyers นักจิตวิทยา ผู้เฝ้าสังเกตพฤติกรรมและรายละเอียดของการสูญเสียเพื่อนบอกว่า การเลิกคบกับเพื่อนส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดในทางความรู้สึก
ความสำคัญของการมีเพื่อนรักคือการให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย และการมีเพื่อนเก่าที่คบกันมาอย่างยาวนาน เพื่อนคนนั้นจึงเป็นเสมือนส่วนหนึ่งของตัวตน ส่วนหนึ่งของอดีตของเรา
ก็เลย ไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ ที่เมื่อเรารู้ว่าเราได้เสียหรือกำลังจะเสียเพื่อนไป เพื่อนคนที่เราได้ให้อภัยกันและค่อยๆ รักษาขุดพรวนมิตรภาพของเรามาอย่างยาวนาน พอมาถึงวันหนึ่ง มิตรภาพนั้นกลับกลายเป็น ‘ไม่เป็นที่ต้องการ’ อีกต่อไป ตรงนี้เองที่ร้าวรานไม่แพ้การอกหักรักร้าว และด้วยความรู้สึกที่ว่า คบกันมาตั้งนาน ให้อภัยกันมาตั้งกี่ครั้ง ต่อไปนี้จะไม่ให้อภัยอีกต่อไป จากความรักจึงกลายเป็นความโกรธ ในที่สุดมิตรจึงกลายเป็นศัตรูได้โดยง่าย ยิ่งถ้ามีการทำร้ายหักหลังจากเพื่อน จากคนที่เคยไว้ใจกันล่ะก็ หนักเลยงานนี้ มีไม่เผาผีกันแน่นอน
ปัจจัยอื่นๆ ของมิตรภาพ
ความเป็นเพื่อนอาจจะฟังดูเป็นอมตะ ตอนที่เราอายุซัก 20 เราอาจรู้สึกว่าเพื่อนกลุ่มนี้คือพันธะที่ไม่มีสูญหาย แต่เมื่อโตขึ้น ใกล้ๆ สามสิบ และแก่ตัวขึ้นเรื่อยๆ มิตรภาพก็เหมือนกับสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะเหี่ยวแห้งและชืดชาลงไปได้ตามกาลเวลา ทั้งจากความห่างไกลและการผิดใจกัน จินตนาการว่ามิตรภาพจะอยู่ยั้งยืนยงจึงอาจะพัวพันไปด้วยปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
‘พื้นที่’ หรือสภาพภูมิศาสตร์ที่เราอาศัยอยู่ก็มีผลกับอายุที่ยืนยาวของมิตรภาพด้วย เช่นถ้าเราอยู่ในพื้นที่ชนบทที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ในที่ทางของตัวเอง การรักษามิตรภาพก็อาจจะเป็นไปได้ง่ายกว่าการเป็นคนเมือง นึกสภาพเราคนกรุงเทพ เรียนจบแล้ว ต่างคนต่างก็มีไปชีวิตของตัวเอง เราย้ายพื้นที่อาศัย ย้ายที่ทำงาน พบปะกับคนใหม่ๆ จนบางที จากเพื่อนสนิทก็ค่อยๆ จางหายกลายเป็นเพื่อนเก่าที่เจอหน้าแล้วก็ยิ้มแหะๆ ใส่กันไปในที่สุด
เพื่อน เป็นความสัมพันธ์ที่ดูเรียบง่ายแต่ก็มีรายละเอียดที่บางทีเราอาจจะทันมองเห็น พอรู้ตัวอีกทีเป็นตอนที่จะเสียเพื่อนไป ความรู้สึกที่ตอบสนองเลยร้าวรานไม่ต่างกับการเสียคนรัก และหลายกรณีกลายเป็นเกลียดชังกันไปเลย หลายครั้งมิตรภาพพังทลายลงเพราะการหยุดให้อภัยซึ่งกันและกันไปจนถึงความจืดจางจากปัจจัยอื่นๆ
มิตรภาพเป็นสิ่งดีงามและสวยงาม แต่ไม่ได้เป็นอมตะอยู่ยั้งยืนยง มิตรภาพต้องการความเข้าใจและการดูแลที่เหมาะสม
วันนี้วันศุกร์แล้ว น่าจะเป็นวันดีที่ได้รักษาฟื้นฟูมิตรภาพดีๆ กับเพื่อนๆ แต่ถ้าบางกรณี ถ้ารักษาและให้อภัยไม่ไหว ก็อาจต้องพิจารณาเลิกแล้วต่อกันไป
Illustration by Kodchakorn Thammachart