นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวดวงใหม่ ที่จะโคจรเคียงข้างกับโลกของเราไปจนถึงปี 2083 ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้างว่าเป็น “ดวงจันทร์ดวงที่สองของโลก” ด้วยกัน
แต่นี่ไม่ใช่ดาวดวงแรก ที่ถูกเรียกว่าเป็นดวงจันทร์อีกดวงของโลก เพราะนอกจากอดีตดาวเคราะห์น้อยที่เคยเข้ามาใช้เวลาช่วงสั้นๆ ในวงโคจรรอบโลก ก็ยังมีสมาชิกของดาวที่ดูคล้ายดวงจันทร์อีกจำนวนหนึ่ง ที่อยู่ในวงโคจรแบบไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากโลกของเรา
ดาวดวงนี้มีชื่อว่า 2025 PN7 ที่มาของชื่อนี้ไม่ใช่เพราะนักดาราศาสตร์ตั้งชื่อดาวไม่เก่ง แต่เป็นระบบการตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อย ที่กำหนดขึ้นโดยศูนย์ดาวเคราะห์น้อย (Minor Planet Center) ภายใต้สหพันธ์ดาราศาสตร์นานาชาติ (International Astronomical Union) จากปีที่ค้นพบ เดือนและลำดับการค้นพบ
ตามนิยามของนักดาราศาสตร์ ก้อนวัตถุใดๆ ก็ตาม ที่ยังโคจรในห้วงอวกาศนั้น จะถูกเรียกเป็นดาวเคราะห์น้อย และหากมีขนาดใหญ่มากพอจนรักษาสภาพทรงกลมได้นั้น จะมีนิยามว่าเป็น ‘ดาวเคราะห์แคระ’ เช่นเดียวกับดาวพลูโต ส่วนดาวที่เข้าข่ายเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 นั้น ต้องมีวงโคจรไม่ทับซ้อนกับดาวดวงอื่น และอาจเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่อย่างสมมติฐานว่าอาจมี ‘Planet X’ อยู่พ้นออกไปไกลกว่าวงโคจรของดาวพลูโต ที่ยังไม่ถูกค้นพบได้ในปัจจุบัน

ดาวเคราะห์น้อย 2025 PN7 ได้รับการค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ปี 2025 โดยกล้องโทรทรรศน์ Pan-STARRS บนยอดเขา Haleakalā ของหมู่เกาะฮาวาย สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางมากกว่า 3,050 เมตร มีอากาศค่อนข้างแห้ง ปราศจากมลภาวะทางแสงรบกวน และยังตั้งอยู่ในละติจูดที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับเส้นศูนย์สูตร จนสามารถสังเกตเห็นท้องฟ้าได้ทั้งซีกฟ้าเหนือและใต้ ทำให้มีหอดูดาวและกล้องโทรทรรศน์ต่างๆ มากมาย ที่สังเกตห้วงจักรวาลจากบรรดายอดเขาของหมู่เกาะฮาวาย
กล้อง Pan-STARRS เป็นระบบเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์อัตโนมัติ ที่มีกระจกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.8 เมตร สองตัว ซึ่งอาจไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก (กล้องโทรทรรศน์ของหอดูดาวแห่งชาติ บนยอดดอยอินทนนท์ มีกระจกขนาด 2.4 เมตร) แต่ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพมุมกว้างของท้องฟ้ายามค่ำคืน เพื่อ ‘ตอบสนองอย่างรวดเร็ว’ ตามชื่อและเป้าหมายของกล้องโทรทรรศน์นี้
Pan-STARRS ได้ตรวจพบดาวเคราะห์น้อยจำนวนมาก ทั้งที่อาจเป็นภัยต่อโลก และที่โคจรผ่านไปอย่างปลอดภัย ตลอดจนเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่ได้ค้นพบ ‘วัตถุจากนอกระบบสุริยะ’ ชิ้นแรกในประวัติศาสตร์ อย่าง ‘1I/’Oumuamua’ เมื่อ ปี 2017 ด้วยการถ่ายภาพมุมกว้างของท้องฟ้ายามค่ำคืนสองภาพ เพื่อค้นหาวัตถุที่กำลังเคลื่อนตัวไป เทียบกับดาวฤกษ์ที่อยู่ห่างไปไกลหลายปีแสง จนดูเหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่
การค้นพบ 2025 PN7 นั้นก็อาศัยเทคนิคเฉกเช่นเดียวกับการตรวจเจอดาวดวงอื่นๆ โดยดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีวงโคจรที่สอดคล้องกับโลก หรือก็คือ ดาวดวงนี้ดูเหมือนกำลังโคจรอยู่รอบโลกเรา ไม่ต่างอะไรไปจากดวงจันทร์ที่พวกเราต่างคุ้นเคย ถึงอย่างนั้น 2025 PN7 ไม่ได้อยู่ใต้อิทธิพลแรงโน้มถ่วงของโลก เหมือนกับดวงจันทร์และดาวเทียมต่างๆ ที่กำลังอยู่ในวงโคจรรอบโลก แต่ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อยู่ในวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ ใช้เวลาหมุนรอบดาวฤกษ์หนึ่งเดียวของเรานานประมาณ 365 วัน หรือเกือบเทียบเท่ากับคาบการโคจรของโลก

full moon
ด้วยเหตุเช่นนี้ ดาวเคราะห์น้อย 2025 PN7 จึงถูกเรียกว่าเป็น ‘Quasi-Moon’ หรือดาวเสมือนดวงจันทร์ มีพฤติกรรมและคาบการโคจรที่ดูราวกับหมุนอยู่รอบโลกแบบดวงจันทร์ แต่แท้จริงแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโลก แค่มีช่วงเวลาที่เข้ามาเฉียดใกล้ได้ในบางครั้ง (ระยะใกล้โลกที่สุด หรือ Perigee อยู่ห่างไป 299,000 กิโลเมตร ใกล้กว่าดวงจันทร์อยู่เล็กน้อย) และออกห่างไปตามคาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์
ดาวแบบ Quasi-Moon นั้นแตกต่างจาก 2024 PT5 ที่มีการค้นพบเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ปี 2024 โดยเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ ATLAS ซึ่งได้รับอิทธิพลแรงโน้มถ่วงโลกดึงดูดเข้ามาเป็น ‘บริวารชั่วคราว’ หรือ Temporaly Satellite ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ปี 2024 โคจรรอบโลกในวงโคจรที่ไม่เสถียร ก่อนกลับสู่ห้วงอวกาศลึกไปอีกครั้ง
ส่วน Quasi-Moon อย่างดาว 2025 PN7 นักดาราศาสตร์ได้พบดาวเคราะห์น้อยประเภทนี้ดวงอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 6 ดวง ได้แก่ 164207 Cardea, 469219 Kamo‘oalewa, 2006 FV35, 2013 LX28, 2014 OL339 และ 2023 FW13 ที่มีการค้นพบและติดตามวงโคจรอย่างต่อเนื่อง โดยองค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีน หรือ CNSA ได้ส่งยานอวกาศ Tianwen-2 ออกเดินทางไปลงเก็บตัวอย่างหินจากดาว 469219 Kamo‘oalewa เพื่อนำกลับมาให้นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาเพิ่มเติมบนโลก และทำความเข้าใจองค์ประกอบ คุณสมบัติต่างๆ ของดาวเคราะห์น้อยที่มาร่วมแชร์วงโคจรกับบ้านของพวกเราทุกคน
ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 เมตร ทำให้นักดาราศาสตร์เพิ่งค้นพบ 2025 PN7 ได้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม แม้ว่าดาวเคราะห์น้อยดวงดังกล่าวจะอยู่ในวงโคจรที่สอดคล้องกับโลกมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 และมีการพบภาพถ่ายที่ติดดาวเสมือนดวงจันทร์นี้มาตั้งแต่ ปี 2014 ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้นักดาราศาสตร์คำนวณคาบการโคจร และตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ก่อนพบว่าดาวดวงนี้จะอยู่ในสถานะดวงจันทร์เสมือนไปจน ปี 2083 ก่อนที่วงโคจรของมันจะค่อยๆ ออกห่างโลกไป และย้อนกลับไปสู่ห้วงอวกาศลึกอีกตราบนาน
ท้ายที่สุดแล้ว 2025 PN7 เป็นดาวที่มีพฤติกรรมคล้ายกับดวงจันทร์ของโลก แต่ก็ยังไม่ใช่บริวารดั่งเช่นดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลกของเราโดยตรง ซึ่งอาจเครื่องย้ำเตือนว่า แม้แต่ในละแวกบ้านของเราอย่างระบบสุริยะชั้นใน ก็ยังมีความลับและปริศนาน่าสนใจที่ยังรอให้ค้นพบอีกมากมาย และบรรดาดาว Quasi-Moon เหล่านี้ ก็มอบโอกาสอันดีให้นักดาราศาสตร์ได้ศึกษา และทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านต่างๆ ในระบบสุริยะของเราได้ดียิ่งขึ้น
อ้างอิงจาก