อะไรทำให้เราฆ่าคนที่เรารักที่สุดในชีวิตได้พร้อมกันสองคน แล้ววันรุ่งขึ้นก็ฆ่าตัวตาย ลาลับไปจากงานอาชีพอันเป็นที่รัก
นี่น่าจะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับทุกคนที่ได้รับรู้เหตุเศร้าสลดนี้ กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเวลาสามวัน จากศุกร์ที่ 22 ถึงวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2007
เขาสังหารภรรยาเป็นคนแรก ฆ่าลูกชายวัยเจ็ดขวบเป็นรายต่อมา แล้วจากนั้นก็ฆ่าตัวตาย
เหตุการณ์นี้กลายเป็นคดีช็อกโลก เพราะผู้ลงมือคือนักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก ผู้จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาทำฆาตกรรมซ้อน (double murder) ก่อนฆ่าตัวตายโดยแทบไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ล่วงหน้าเลย
คำถามก็คือ—ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น
และจนบัดนี้—คำตอบก็ยังอยู่ในสายลม
***
คริส เบนวา (Chris Benoit) คือนักมวยปล้ำชื่อดัง เขาเกิดที่มอนทรีออลในแคนาดา ผู้ค้นพบความรักชอบในชีวิตนักมวยปล้ำตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี เขาเริ่มเข้าแข่งขันในรายการมวยปล้ำ และหันมาฝึกฝนมวยปล้ำอย่างจริงจังนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ย้อนกลับไปในยุค 90s มวยปล้ำคือกีฬาที่ได้รับความนิยมสืบเนื่องมาจากยุค 80s เบนวาเล่นมวยปล้ำอาชีพในแคนาดาได้ไม่นานนักก็เริ่มแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ด้วยการเข้าสู่ดินแดนมวยปล้ำที่ร่ำลือกันว่าเข้มข้นที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างมวยปล้ำญี่ปุ่นในสังกัดของ New Japan Pro-Wrestling ที่มีฐานทัพอยู่ในนากาโน โตเกียว
ตอนนั้นเขาสวมหน้ากาก และได้ฉายาว่า The Pegasus Kid แม้เบนวาให้สัมภาษณ์หลายต่อหลายครั้งว่าเขาเกลียดการใส่หน้ากาก แต่ในยุคที่นักมวยปล้ำต่างใส่หน้ากากเพื่อบ่งบอกบุคลิกลักษณะ หน้ากากกลับกลายเป็นอัตลักษณ์สำคัญของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ชื่อ The Pegasus Kid พาเราย้อนรอยกลับไปสู่นักมวยปล้ำขวัญใจเขาอย่าง Dynamite Kid ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาผูกพันกับไอดอลของตัวเองขนาดไหน เขาไม่รู้หรอกว่า ความผูกพันนี้จะนำเอาสภาวะเสื่อมถอยแห่งร่างกายมาสู่เขาในอนาคตได้อย่างไร
ในนามของ Pegasus Kid เขาเคยปล้ำชนะนักมวยปล้ำญี่ปุ่นที่ถือว่าเป็นระดับเทพครั้งหนึ่ง แต่เมื่อรีแมตช์กันแล้วแพ้ ชื่อ Pegasus Kid ก็หายไป ก่อนกลับมาใหม่อีกครั้งในชื่อ Wild Pegasus และต่อมาก็เปลี่ยนไปเป็น Chris Benoit ที่ทุกคนคุ้นเคยดี
ในปี 1995 อันเป็นปีทองของอุตสาหกรรมวงการมวยปล้ำอเมริกัน เบนวากลับทวีปอเมริกามาสู่เวทีระดับโลกอย่างวงการมวยปล้ำในอเมริกา ในตอนนั้น สมาคมมวยปล้ำของอเมริกามีสองค่ายใหญ่ คือ WCW หรือ World Championship Wrestling กับ WWF หรือ World Wrestling Federation (ซึ่งตอนหลังเปลี่ยนเป็น WWE หรือ World Wrestling Entertainment) ตอนแรก เบนวาอยู่กับ WCW แต่แล้วก็มีปัญหาหลายอย่าง ทำให้เขาย้ายมาอยู่ WWF ที่กำลังรุ่งเรืองมากกว่า
ความซับซ้อนในชีวิตของเบนวาเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เขาอยู่กับ WCW นี่เอง ในตอนนั้น ชีวิตของเขาพัวพันกับคนอีกสามคน คนหนึ่งคือปรปักษ์และคู่แข่งตลอดกาลอย่าง เควิน ซัลลิแวน (Kevin Sullivan) ซึ่งเป็นนักมวยปล้ำเหมือนเขา อีกคนหนึ่งคือเพื่อนรักที่ก็เป็นนักมวยปล้ำเช่นกัน ได้แก่ เอ็ดดี เกอร์เรโร (Eddie Guerrero) ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นสาวสวย ผู้เป็นนางแบบและเป็นสาวงามบนเวทีมวยปล้ำที่เรียกว่า Wrestling Valet ผู้คอยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ ขึ้นไปส่งบนเวที และที่จริงก็เป็นแฟนของนักมวยปล้ำด้วย เธอคนนี้มีชื่อว่า แนนซี โทฟโฟโลนี (Nancy Toffoloni)
แนนซีเป็นแฟนของเควิน ซัลลิแวนมาก่อน ทั้งคู่ร่วมทั้งงานและชีวิตกันมานานหลายปีก่อนจะมาอยู่ที่ WCW
เป็นที่นี่เอง ที่เธอได้พบกับคริส เบนวา แล้วในปี 1997 เธอก็มีสัมพันธ์กับเขาทั้งที่ยังอยู่ในชีวิตสมรสกับซัลลิแวน นั่นทำให้ภาวะปรปักษ์ระหว่างซัลลิแวนกับเบนวาไม่ได้เป็นเพียงเรื่องบนเวทีมวยปล้ำเท่านั้น ทว่ายังกินความเลยมาถึงเวทีแห่งความรักด้วย
สุดท้าย แนนซีเลือกเบนวา เธอเลิกกับซัลลิแวนเพื่อหมั้นและแต่งงานกับเขา เธอมีลูกให้เขาในปี 2000 และเป็นปีเดียวกันนั้นเอง ที่เบนวาตัดสินใจออกจาก WCW ที่เป็นเสมือนบ้านพร้อมกับเอ็ดดี เกอร์เรโร—เพื่อนรัก เพื่อมาอยู่กับ WWE
ไม่มีใครคิดเลยว่า อีกเจ็ดปีต่อมา คนที่ชื่อคริส เบนวา, แนนซี เบนวา และกระทั่งเอ็ดดี เกอร์เรโร—จะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป
***
ในสามคนนี้ เกอร์เรโรเป็นข่าวช็อกโลกและวงการมวยปล้ำด้วยการจากไปอย่างกะทันหันก่อนใครเพื่อน ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2005 เขาหมดสติอยู่ในห้องของโรงแรมที่มินิอาโพลิส ชาโว เกอร์เรโร (Chavo Guerrero) ผู้เป็นหลานชายที่พบร่างของเขา และพยายามทำซีพีอาร์ให้ แต่เกอร์เรโรไม่กลับมา เขาหัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในวัยเพียง 38 ปี เท่านั้น
การจากไปของเกอร์เรโรอาจทำให้ทั้งโลกตกใจ แต่ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า อีกสองปีถัดมา เพื่อนรักนักมวยปล้ำของเกอร์เรโรจะลงมือทำบางสิ่งที่ทำให้ทั้งโลกต้องตกใจยิ่งกว่า
ในวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2007 คริส เบนวา ได้สังหารแนนซีที่ห้องนอนชั้นบน เขาผูกแขนขาเธอไว้ เมื่อสังหารแล้วก็ห่อร่างด้วยผ้าเช็ดตัว วางพระคัมภีร์ไบเบิลอยู่ข้างร่าง บาดแผลที่ตรวจพบภายหลังบ่งชี้ว่า เบนวาได้ใช้มีดแทงเธอที่หลัง ร่วมกับการใช้สายไฟพันรอบคอของเธอ ทำให้เธอขาดใจตาย แต่ไม่มีร่องรอยของการดิ้นรนต่อสู้ เป็นไปได้ว่าเขาได้วางยาเธอด้วยซาแน็กซ์ (Xanax) อันเป็นยารักษาอาการทางจิตที่ทำให้ง่วงหลับ
วันถัดมา คือวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2007 แดเนียล—ลูกคนเดียวของเบนวากับแนนซี ก็ถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองสังหารเมื่ออายุเพียงเจ็ดขวบ เด็กน้อยถูกรัดคออยู่ในห้องนอนของตัวเอง แม้ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บภายนอก ทว่าบริเวณลำคอนั้นบอบช้ำมาก ข้างกายของเด็กน้อยมีพระคัมภีร์ไบเบิลวางอยู่แบบเดียวกับที่วางอยู่ข้างร่างของมารดา และเช่นเดียวกับแม่ ร่างกายของแดเนียลมียาซาแน็กซ์อยู่ด้วย จึงเป็นไปได้ว่าขณะเสียชีวิต แดเนียลจะไม่รู้สึกตัว
ในวันเดียวกันนั้น ตอนบ่ายสามโมงครึ่ง ชาโว เกอร์เรโร (ผู้เป็นหลานและผู้พบศพ เอ็ดดี เกอร์เรโร) ได้รับฝากข้อความเสียงจากเบนวา บอกว่าเขานอนหลับเลยเวลาจนพลาดเที่ยวบิน ดังนั้นจึงจะไปโชว์ตัวที่เท็กซัสในคืนนั้นช้ากว่ากำหนด ชาโวโทรกลับไป ได้ยินเสียงของเบนวางัวเงียอู้อี้ เขาเป็นห่วง จึงโทรกลับไปอีกหน แต่คราวนี้เบนวาไม่ได้รับสาย
ต่อมาอีกสักพัก เบนวาโทรกลับมา บอกว่าที่เขาไม่ได้รับสายเพราะกำลังพยายามเปลี่ยนเที่ยวบินอยู่ เขาบอกชาโวว่า เขากำลังเครียดเพราะแนนซีและแดเนียลป่วยจากอาการอาหารเป็นพิษ ก่อนวางสาย เบนวาบอกชาโวว่า—ฉันรักแกนะ ชาโว, ซึ่งต่อมาอีกหลายปี ชาโวจึงให้สัมภาษณ์ว่าเป็นคำพูดที่ฟังดูแปลกๆ แต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไร
รุ่งขึ้น คือวันอาทิตย์ที่ 24 มีการส่งข้อความจากโทรศัพท์ ทั้งของเบนวาและของแนนซีไปหาเพื่อนร่วมงานหลายคน มีทั้งที่ส่งที่อยู่ของเบนวาไปให้ และมีทั้งที่สั่งเอาไว้ว่าสุนัขของครอบครัวถูกขังอยู่ที่ไหน รวมทั้งประตูบานไหนในบ้านเปิดทิ้งเอาไว้บ้าง
เบนวายังโทรหาคนของ WWE บอกว่าแดเนียลอาเจียน เข้าโรงพยาบาล เขากับแนนซีอยู่ที่โรงพยาบาลกับลูก เมื่อคืนก่อนเขาไปเท็กซัสไม่ได้ไปทีหนึ่งแล้ว แต่คืนนี้ (คือคืนวันอาทิตย์) เขาจะไป ทว่าจะช้ากว่ากำหนด
แต่ปรากฏว่า—เบนวาไม่เคยได้เดินทางไปถึงเท็กซัสในคืนนั้น เขาหายเงียบไปเลย
ในวันจันทร์ที่ 25 เมื่อเห็นผิดสังเกต เพราะไม่สามารถติดต่อกับเบนวาได้ ทาง WWE จึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ ขอให้ไปตรวจดูบ้านของเบนวา แล้วสี่โมงเย็นของวันนั้น ตำรวจก็รายงานกลับมายัง WWE ว่า พบศพที่บ้านของเบนวา ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองศพ แต่คือสาม—ได้แก่ร่างของแนนซี แดเนียล และร่างของเบนวาเองด้วย
เบนวาเสียชีวิตเพราะการแขวนคอ เขาใช้สายของเครื่องยกน้ำหนักแขวนตัวเองกับเครื่อง แล้วปลดน้ำหนักให้ถ่วงลงมาฉับพลัน มันเป็นการฆ่าตัวตายที่โหดเหี้ยมและรวดเร็วมาก เพราะน้ำหนักที่ถูกปลดออกทำให้เบนวาคอหักในทันที
หลายปีต่อมา น้องสาวของแนนซีเล่าให้ฟังว่า หลังเหตุฆาตกรรมนั้นแล้ว มีการตรวจสอบประวัติการใช้คอมพิวเตอร์ของเบนวา พบว่าเขาเคยค้นหา ‘วิธีง่ายและเร็วที่สุดที่จะทำให้คอหัก’ ซึ่งก็คือวิธีที่เบนวาใช้กับตัวเองนั่นเอง
ไม่มีจดหมายลา ไม่มีคำอธิบายที่แจ่มชัด ข้างกายของเบนวาไม่มีพระคัมภีร์วางอยู่ แต่ต่อมาภายหลังมีการค้นพบว่า ในพระคัมภีร์อีกเล่มหนึ่งมีกระดาษโน้ตคั่นอยู่ กระดาษนั้นเขียนเพียงว่า—ฉันกำลังเตรียมตัวจากโลกนี้ไป, เท่านั้น
เรื่องที่น่าขนลุกที่สุดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ก่อนหน้าที่ตำรวจจะพบร่างของเบนวา แนนซี และแดเนียลราว 14 ชั่วโมง นั่นคือราวเที่ยงคืนของคืนวันที่ 24 หลังจากที่ทั้งสามคนได้เสียชีวิตไปแล้ว จู่ๆ ก็มีรายงานข่าวปรากฏขึ้นใน Wikinews ตามด้วย Fox News บอกว่าเหตุผลที่เบนวาไม่สามารถไปปรากฏตัวที่เท็กซัสได้นั้น เนื่องเพราะเขามีเรื่องส่วนตัวที่เกิดจากความตายของแนนซี—ภรรยาของเขา
ในตอนนั้น ทั้งเบนวา แนนซี และแดเนียล ตายไปแล้ว แต่โลกยังไม่รู้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ไปที่บ้าน ยังไม่มีใครพบศพของพวกเขา
แล้วข่าวนี้ออกมาได้อย่างไรกัน?
มีการตามรอย IP address ย้อนกลับไปว่าใครเป็นผู้โพสต์ พบว่าการโพสต์เกิดขึ้นจากบริเวณเมืองสแตมฟอร์ด ในคอนเนกติคัต ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ WWE นั่นยิ่งทำให้ผู้คนขนลุกขนชันกับข่าวที่เกิดขึ้น ทำนองว่าเป็นเบนวาเองหรือเปล่าที่จิตผูกพันกับการแข่งขัน ถึงขั้นส่งกระแสจากโลกหลังความตายเพื่อไปเขียนข่าว
อย่างไรก็ตาม หลังข่าวนี้ออกไปจนผู้คนขนลุกทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ก็มีบุคคลนิรนามติดต่อมายัง Wikinews เพื่อบอกว่าตัวเองเป็นคนโพสต์เอง โดยข้อความที่โพสต์ไปนั้นเป็นเพียง ‘เหตุบังเอิญครั้งใหญ่’ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า คนที่โพสต์เคยสร้าง ‘ข่าวปลอม’ ต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง คราวนี้เขาติดตามข่าวในวงการมวยปล้ำ และรู้ว่าเบนวากับแนนซีกำลังมีปัญหาครอบครัวอยู่ เมื่อมีข่าวว่าเบนวาไม่ไปปรากฏตัวที่เท็กซัส เขาจึง ‘กุ’ ข่าวขึ้นมาว่าแนนซีเสียชีวิต แต่ไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่เขากุขึ้นมานั้นจะเป็นเรื่องจริง
การชันสูตรร่างกายของเบนวา พบเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่งอีกเรื่องหนึ่ง—เรื่องนั้นก็คือ ‘สมอง’ ของเบนวา
ในฐานะนักมวยปล้ำ ท่าไม้ตายหนึ่งของเบนวาที่ผู้คนชื่นชอบกันมาก คือท่าที่เรียกว่า Diving Headbutt อันเป็นท่าที่เบนวารับมาจากไอดอลของเขา คือ Dynamite Kid อีกทีหนึ่ง โดยจะต้องกระโดดลงมาจากเสามุมเวที แล้วใช้ศีรษะกระแทกเข้ากับร่างกายส่วนใดก็ได้ของคู่ต่อสู้ นี่เป็นท่าที่เบนวาทำบ่อยมาก มันคือท่าโปรดของเขา ท่าที่เขาได้รับสืบทอดมาจากไอดอลอีกที
แต่เมื่อชันสูตรร่างกาย แพทย์ที่ชันสูตรรายงานว่า สมองของเบนวาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก จนทำให้สมองของเขาดูคล้ายสมองของผู้ป่วยอัลไซม์เมอร์ที่มีอายุมากถึง 85 ปี
ในช่วงนั้น วงการแพทย์กำลังตื่นตัวกับการเสียชีวิตของนักกีฬาหลายคน รวมถึงนักกีฬาฟุตบอลและนักมวยด้วย มีรายงานถึงอาการที่เรียกว่า Chronic Traumatic Encephalopathy หรือ CTE หมายถึงการที่สมองได้รับความกระทบกระเทือนซ้ำๆ บ่อยๆ จนเกิดภาวะบอบช้ำหรือมีเลือดซึมในสมองจนเสียหายแบบเดียวกับผู้ป่วยอัลไซม์เมอร์และโรคสมองเสื่อม
ภาวะสมองบอบช้ำแบบ CTE ที่ทำให้นักกีฬาเสียชีวิตเป็นเรื่องใหม่ในเวลานั้น จึงไม่มีใครคาดคิดว่าภาวะนี้จะ ‘ไปไกล’ ถึงขั้นก่อให้เกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม น้องสาวของแนนซีเล่าว่า ในระยะหลัง เบนวามีความเครียดและก้าวร้าวรุนแรงต่อภรรยาและลูกมากขึ้นจนถึงขั้นแนนซีจะขอหย่า หลังการตายของเอ็ดดี เกอร์เรโร แล้ว เบนวาคล้ายถูกทำลายยับเยิน เขาแทบไม่มี ‘เพื่อน’ ที่จะปรับทุกข์อะไรได้อีก สภาพทางจิตของเบนวาถูกทำลาย เขาโกรธเคืองทุกสิ่งในโลกตลอดเวลา ก่อนหน้าเขาจะฆ่าตัวตายสองสัปดาห์ เพื่อนอีกคนหนึ่งของเบนวาก็เสียชีวิตด้วย มันเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับการมีชีวิตอยู่ เบนวารู้สึกคล้ายมีใครก่อแผนสมคบคิดเพื่อทำร้ายเขา เหมือนพระเจ้าได้พรากโลกที่เขารู้จักไป
เชื่อกันว่า ความบอบช้ำของสมองอาจทำให้เขาเกิดอาการหลายอย่าง รวมถึงอาการซึมเศร้าด้วย
นอกจากนี้ ในร่างของเบนวายังพบระดับสเตียรอยด์สูงกว่ามาตรฐานถึง 10 เท่า แม้ว่าเขาจะผ่านการตรวจระดับสเตียรอยด์จาก WWE เมื่อสามเดือนก่อนหน้าแล้ว แปลว่ามาตรฐานการตรวจสเตียรอยด์มีข้อบกพร่อง
การชันสูตรศพยังพบอีกด้วยว่า หัวใจของเบนวาใหญ่กว่าหัวใจที่ควรจะเป็นถึงสามเท่า นั่นแปลว่าต่อให้ไม่ฆ่าตัวตายไปเสียก่อน เขาก็น่าจะเสียชีวิตในเวลาไม่เกิน 10 เดือนถัดมา เพราะทั้งร่างกายและสมองของเขาทนทานต่อไปไม่ไหวแล้ว
การฆาตกรรมซ้อนและการฆ่าตัวตายของเบนวาทำให้ WWE เปลี่ยนกฎในการแข่งขันมวยปล้ำใหม่หลายอย่าง ทั้งกฎและนโยบายในการตรวจสารต่างๆ ในร่างกายที่เข้มงวดขึ้น การออกนโยบายใหม่ๆ ที่ทำให้นักกีฬามีสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่ต้องเอาร่างกายมาเสี่ยงหรือใช้ร่างกายหนักมากเหมือนเดิม รวมถึงเรื่องสำคัญอย่างการการสั่งห้ามใช้ท่าบางท่า รวมถึงท่า Diving Headbutt แบบที่เบนวาเคยใช้ด้วย
จะว่าไป—เรื่องของเบนวาเป็นเรื่องเศร้านัก มวยปล้ำคือสิ่งที่เขารัก และมีคนไม่กี่คนหรอก ที่ค้นพบสิ่งที่ตัวเองรักตั้งแต่ยังเด็ก
แต่ก็กลับเป็นสิ่งที่เขารักและทุ่มเทให้กับมันชั่วชีวิตนี้เอง—ที่มีส่วนทำให้ตัวเขาลุกขึ้นมาพรากชีวิตทั้งของตัวเองและผู้อื่น
และไม่ได้อยู่กับอาชีพ ผู้คน และโลกใบที่เขาเคยรักและเคยรู้จัก—อีกต่อไป