ฝ่ายนี้จะว่าเป็นฝ่ายลับแลลี้ลับในกองถ่ายนักก็ไม่เชิง แต่เหมือนเมื่อก่อนจะไม่ได้แยกหน้าที่เอาไว้ชัดเจนระบุเป็นรายคนมากขนาดนี้ นัยว่าผู้จัดการกองคนเดียวก็ทำได้ทุกอย่าง ฉันจึงทันยุคถูกกระเตงๆ ไปกองถ่ายกับแม่ตั้งแต่เช้ามืด กางรีเฟล็กซ์สีเงินสะท้อนแสงแวบวับไว้ตรงปากซอยทางเข้าสถานที่ถ่ายทำเป็นเครื่องหมาย หาที่กางโต๊ะวางกระติกน้ำร้อนชงกาแฟ หาที่ลงให้ช่างแต่งหน้าทำผม ทำเวลานัดนักแสดง ถือเงินจ่ายค่าออกกอง ช่วยปล่อยคิวนักแสดงสมทบ จัดชุดให้ดารา แถมเลี้ยงฉันและเป็นเมียผู้กำกับไปได้ด้วยในเวลาเดียวกัน
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วค่ะ
ฉันมาเริ่มสัมผัสความหนาแน่นทางปริมาณของผู้ช่วยและประสานงานก็สมัยเล่นเรื่องนางนาก ที่มีผู้ช่วย (ผู้กำกับ) เบอร์ 1 เบอร์ 2 และเบอร์ 3 แถมยังมีฝ่ายประสานงานสถานที่ ฝ่ายประสานงานนักแสดงสมทบพิเศษ (คือน้องเหี้ยในเรื่อง)
แต่จุดพีคจริงๆ ของปริมาณผู้ช่วยและฝ่ายประสานงานคือตอนฉันเล่นตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั่นเอง
คือคุณสามารถเดินเข้าไปในเซ็ต และเห็นคนเยอะมากโดยที่คุณไม่มีวันจำหน้าได้เลยว่าใครเป็นใครบ้าง เพราะทั้งแดดอันร้อนระอุขึ้นชื่อของเมืองกาญน์ ฝุ่นควันจากยางรถยนตร์ที่เอามาเผาเข้าฉาก ทำให้ทีมงานทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อแขนยาว มาส์กปิดปากจมูก แว่นตาดำ และหมวก
-สถานการณ์จึงมักจะเป็นแบบนี้-
ฉันแต่งตัวเรียบร้อย (คือชุดเลอขิ่นน่ะคุณผู้อ่าน แต่ยังไม่โพกผ้าและยังใส่แว่นกันแดดเพื่อกันฝุ่นจากการซ้อมม้าไปก่อน) ขี่ม้ามาเข้าฉาก ระหว่างรอก็เกิดปวดฉี่
“นี่ๆ (หันไปเรียกคนที่เดินๆ อยู่ข้างๆ ใครก็ไม่รู้เพราะปิดหน้าหมด) เราไปเข้าห้องน้ำก่อนทันป่าว”
“ไม่รู้ครับพี่ ผมผู้ช่วยม้า ดูม้าอย่างเดียว พี่ต้องไปถามผู้ช่วยอื่นครับ”
“อะเหรอ เคๆ (ชะโงกไปอีกทาง) นี่ๆ วู้ววว จะเอายังอะ เราไปเข้าห้องน้ำก่อนทันมะ”
“ผมผู้ช่วยกองสองพี่ มาถ่ายรบพม่า ของพี่ทรายกองหนึ่งครับ”
“อ้าว ‘โทษทีๆ งั้นพี่ฝากม้าก่อนได้มะ เดี๋ยวขอเดินไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“เอ่อ เดี๋ยวนะพี่ เดี๋ยวผมเรียกไรเดอร์ให้”
“เฮ้ย ผู้ช่วยก็ได้ เมื่อกี้อะ ผู้ช่วยม้า”
“ไม่ครับพี่ คนนั้นเค้าจัดขบวนให้เฉยๆ ถ้าจะฝากม้าพี่ต้องฝากไรเดอร์ เค้าถึงจะรู้เรื่องม้า”
…ค่ะ ตอนนี้ถ้าบนอานม้าไขว่ห้างได้ อินทิราก็เริ่มอยากไขว่ห้างแล้ว ปวดเบอร์30แล้ว…
อะ งั้นไปเข้าห้องน้ำด้วยกันนี่ล่ะวะ ไปซีซี (ชื่อม้าของอินทิรา) ไปเข้าห้องน้ำกับแม่กันลูก
“พี่ทรายไปไหนคร้าบบบบบบบ” ปิดหน้ามาอีกหนึ่งชีวิตยิงคำถาม
“ไปเข้าห้องน้ำอะ ฝากบอกผู้ช่วยทีดิ”
“ผมทำรีพอร์ตอะพี่ เดี๋ยวบอกให้ พี่จะให้บอกใครดี”
“ผู้ช่วยไง”
“ผู้ช่วยไหนพี่”
“ก็…ผู้ช่วยยยยยยยย แบบว่าผู้ช่วยอ้ะ!” (ตัวบิดเบอร์ 55)
“มันมีช่วยช้าง ช่วยม้า ช่วยเกวียน ช่วยเอกซ์ตร้า ไรเดอร์ ช่วยอาวุธ สตันท์ ช่วยกล้อง ช่วยเสียง ช่วยพร็อพ ช่วยเสื้อผ้า ช่วยกอง 1 ช่วยกอง 2 ผู้ช่วยท่าน ฝ่ายจัดการ ดูแลดารา ผู้จัดการกอง ช่วย…”
“โอ๊ยยยย ช่วยให้กูไปห้องน้ำเนี่ยค่ะ!!”
เนี่ย
มันเยอะแบบนี้จริงๆ แค่จะเข้าห้องน้ำก็ปาเข้าไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ไม่บอกใครก็ไม่ได้ เดี๋ยวหากันไม่เจอแล้วจะวุ่น จะให้ใครก็ไม่รู้วิ่งไปบอกแทน เขาก็ไม่อยากรับเพราะงานที่เขารับผิดชอบก็เต็มมืออยู่แล้ว
แต่ที่ฉันเรียกผู้ช่วยๆๆ จนติดปากนั้น ตอนนี้แท้จริงเขาเรียกฝ่ายประสานงานและดูแลดารา ส่วนผู้ช่วยนั่นคือแยกไปเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ มีหน้าที่รับคำสั่งจากซังกุงสูงสุด เอ๊ย จากผู้กำกับมาปฏิบัติให้สำเร็จให้ได้ จะใช้เล่ห์กลมารยาใดๆ ก็ไม่รู้แหละ ผู้ช่วยและประสานงานจึงเป็นตำแหน่งที่แสนจะชวนให้กำพารา และน่าไปผูกคอตายใต้ต้นถั่วงอกสูงสุด เพราะมันวุ่นวายยุ่งขิง ผู้กำกับจะเอาอย่างนั้นแต่กองยังไม่พร้อม กองพร้อมแต่เสียงเครื่องปั่นไฟเข้า เสียงเครื่องปั่นไฟไม่เข้าแล้วแต่นักแสดงขอดูบทอีกที รถตู้กองเสียกลางทาง นักแสดงอีกคนเลยยังมาไม่ถึง เฮ้ยประสานงานกดแชร์โลหน่อยโว้ย รูปปลาโลมาไม่ต้องแชร์นะ มุกเก่าแล้ว นี่นักข่าวเค้าเข้ากองไม่ถูก แล้วใครไปบรีฟเอกซ์ตร้าที ว่าถ้าเล่นเหมือนมายืนอ่านบทใส่แบบนี้กูเล่นเองก็ได้ฯลฯ
-เอาแค่ดูแลดารากับผู้ช่วยกองนเรศวรก็ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว-
ฉันขี่ม้ากลางแดดคู่กับลุง (คุณปีเตอร์, นพชัย ชัยนาม) อยู่กลางสนามรบ ฝ่ายดูแลดาราวิ่งซิกแซก หลบหลีกม้า ช้าง วัว คอมมานโด แผงปืนใหญ่เข้ามาหา
“พี่ทราย ลุง ร้อนมั้ยอะ เค้ายังเซ็ทไม่เสร็จเลย”
“ก็ร้อนแหละ แต่เฮ้ย ไม่เป็นไร อีกแป๊บเดียวมั้ง”
“นานเหมือนกันพี่ ทำเอฟเฟกต์อยู่ เดี๋ยวไปเอาร่มมากางให้นะ”
-วิ่งตื๋อออกไป แล้วกลับมาพร้อมร่มขนาดใหญ่ไซส์แคดดี้ใช้ในสนามกอล์ฟ ซึ่งเกือบจะใหญ่กว่าตัวคนถือแล้ว-
กางร่ม
“เอ่อ ลุง พี่ทราย ก้มหน่อยได้มั้ยอะ เค้ากางร่มไม่ถึง ม้าสูงอะ”
ต้องบอกตรงนี้ก่อนเลย ว่าม้าที่พวกฉันขี่นั้น สูงใหญ่พ่วงพีมีโปรไฟล์มาจากออสเตรเลีย บรีดมาจากคอกเดียวกันกับม้าในหนังเรื่อง The Last Samurai ลำพังม้าจากปลายกีบถึงหัวก็สูงเกือบ 2 เมตร ฉันสูง 170 กว่าเซนฯ พี่ปีเตอร์ เดอะ ลุงนั่นตักไปอีก 180 เซนฯ
คนถือร่มนี่คือไซส์ฮอบบิท
กางร่มแล้วก็ช่วยให้ฉันเย็นขาขึ้นนิดหน่อย เพราะสุดมือมันสูงได้แค่นั้น
“ช่างมันเถอะ” ลุงผู้อารีบอก “เราทนได้”
“ไม่เป็นไรๆ เค้ามีวิธี” ฝ่ายดูแลดาราหุบรุมแล้ววิ่งตื๋อออกไปอีก กลับมาพร้อมร่ม น้ำอัดลมหนึ่งกระป๋อง
และเก้าอี้พลาสติกแบบเก้าอี้ร้านก๋วยเตี๋ยว
บรรจงวางเก้าอี้ระหว่างม้า 2 ตัว ตะกายขึ้นไป ยื่นกระป๋องน้ำและกางร่มให้เราได้ 2 คน
“พี่ 2 คนแบ่งกันกินนะ นี่คิวพี่เต้อ กินยี่ห้อนี้ไปก่อน เดี๋ยวกลางวันคิวพี่ทรายได้กินที่ชอบ ละกลางวันนี้จะกินข้าวอะไรอะ เดี๋ยวเค้าไปสั่งให้”
เอาจริงๆ นี่นับถือน้ำใจคนดูแลเลยนะ คือ–เออ น้ำตาจะไหลอะ รู้แหละว่าเป็นหน้าที่ แต่ถ้าเขาไม่ทำเราจะไปบังคับเขาได้ยังไง อยู่ห่างกลางทุ่งร้อนเปรี้ยงเสียขนาดนั้น แถมพอกางร่มเสร็จ ก็มีเสียงสั่งมา “เอาร่มหลบโว้ย จะดูเฟรม” จากทั้งท่านมุ้ยและผู้กำกับภาพ กว่าจะหุบร่ม กว่าจะตะกายลง กว่าจะเก็บน้ำ กว่าจะหิ้วเก้าอี้ไปเก็บอีก นี่เห็นก็แสนจะเอ็นดู
คราวนี้ก็มาถึงตาของผู้ช่วย
“พี่ทรายครับ พี่เต้อครับ เดี๋ยวขี่แบบจ้วงๆ เลยพี่ สปีดไปตรงออกซ้ายกล้องแพลทฟอร์มเลยนะพี่”
“ได้ๆ เออ นี่มันต่อจากรบไหนอะ เรางง ขี่ออกหรือขี่เข้าสนามรบ”
“อ่า เดี๋ยวนะครับพี่” -กดวิทยุถามไปทางข้างใน-
“พี่ครับ ท่านบอกว่าขี่ไปเถอะอี..”
“โอเคๆ ไม่ต้องเรียกเราตามท่านก็ได้–เข้าใจละ ขี่เร็วๆ ไปตรงๆ ออกซ้ายกล้องนะ”
“ใช่พี่ แต่อย่าซ้ายมาก แล้วก็อย่าเร็วมากครับ โฟกัสฝากบอกว่าชะลอนิดนึง เดี๋ยวตามไม่ทัน”
“อะๆ ได้ๆ แต่ก่อนถ่ายนี่อย่าเสียงดังนะ”
“ฮะ–เอ่อ ยังไงนะครับ”
“ม้ามันตื่นอะ เวลาจะถ่ายแล้วทุกคนจะเริ่มเครียด ม้ามันรู้”
“แล้วต้องทำไงอะครับ”
“เราจะพาม้าเดินๆ ก่อน ทำแบบไม่ตั้งใจอะ เธอก็อย่าเครียดใส่นะ บอกทุกคนให้ทำท่าสบายๆ พอจะถ่ายค่อยหมุนเข้ามาร์กออกตัว แล้วไปบอกท่านนะ ว่าอย่าสั่งแอคชั่นเสียงดัง”
“ให้ผมไปบอกท่านเหรอ…”
“อ้าว ใช่สิ เป็นผู้ช่วยนี่ หรือจะให้เราไปบอกเอง จะได้บอกท่านด้วยว่าไม่มีใครรับฝากมาบอก”
“เอ่อ ผมบอกก็ได้ครับ แต่–ถ้าสั่งไม่ดัง ข้างหลังไม่ได้ยินอะพี่”
“แต่ม้ามันตื่นไง ถ้าเสียงดังมันวิ่งไปเลยอีกอะ แล้วมีเอฟเฟกต์ด้วย ไม่งั้นต้องรอฝังใหม่อีก แดดหมดก่อนเราไม่รู้นะ”
ก็เนี่ย–ผู้ช่วยก็ต้องรับคำขอร้องแกมบังคับที่ฟังดูแสนจะบ้าบอจากพวกฉัน ไปบอกท่านที่อยู่ในมอเตอร์โฮม ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องโดนท่านด่า แต่ถ้าไม่บอกแล้วม้าเตลิดฉันตกม้าถ่ายไม่ได้ไป 2 วัน ก็ถือเป็นความผิดของผู้ช่วยอีก ถ้าสั่งเบา ม้าฉันไม่ตื่น แต่ตัวประกอบอีกร้อยคนข้างหลังไม่ได้ยิน เล่นไม่ได้ เอฟเฟกต์กดผิดระเบิดใส่หน้าทหาร ควันพัดไปผิดทิศทาง ฉันเผลอขี่ม้าเร็วไปเพราะลุ้นหรือลืมก็ตาม ก็คือความซวยของผู้ช่วยทั้งสิ้น จากนั้นก็ประสานงานกับผู้ช่วยแผนกอื่นๆ ตั้งต้นที่ผู้ช่วยหมูและเป็ดไก่ เพราะพวกนี้เดินช้า คุมลำบาก ต่อมาที่ผู้ช่วยเกวียน เพราะต้องใช้พื้นที่ตีวงมาเข้ามาร์กพอสมควร ผู้ช่วยทหารทุกฝ่าย ว่าจะรบละนะ ใครอย่าแอบเหน็บซองบุหรี่ไว้ตรงกางเกง นั่นๆ ชายบ็อกเซอร์โผล่มาจากเตี่ยวแล้ว เก็บเลยเชียว ผู้ช่วยสมทบชาวบ้าน ตอนนี้หน้าศึกสงครามนะคร้าบ เครียดกันหน่อยพี่น้องทั้งหลาย ใครยิ้มเห็นนะคร้าบ เสื้อผ้าหน้าผมเข้ารีเช็กครั้งสุดท้ายนะ เอ้า ควันน่ะตีให้มันแตกๆ หน่อย ว.ไปทางเต็นท์มอนิเตอร์ว่าในเฟรมเป็นไงบ้าง แล้วก็…
“พี่ จะเอายัง ถ้ายังหนูจะได้กางร่มต่อ”
เขียนๆ ไปแล้วก็ชักจะเข้าใจเพจเลี้ยงลูกที่ฮือฮากันอยู่ในขณะนี้ ว่าทำไมถึงอยากให้ลูกเป็นหมอไปซะ
ก็ไอ้งานวงการบันเทิงนี้มันช่างป่วงหัวใจเสียเหลือเกิน พ่อคุณแม่คุณเอ๊ยยยยยยย