ความเดิมตอนที่แล้วก็คือ ฉันเล่าถึงอาชีพที่สนิทชิดเชื้อกับนักแสดงอย่าง ‘พี่ๆ นักข่าว’ ไปแล้ว หันมามองรอบตัว เออ กองถ่ายนี่มันก็เป็นจักรวาลเล็กๆ ในตัวเองเหมือนกันนะ
คือแต่ละคนก็มาจากคนละที่ นิสัยคนละอย่าง รสนิยมคนละทาง แต่ก็มาเพื่อไปถึงจุดหมายคือการปิดกล้องเสร็จงานนั่นล่ะ และด้วยความต่างกันเบอร์แรงขนาดนี้ แน่นอนว่าย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ทั้งกระทบกันเองและกับโลกภายนอก
กระทบกันขนาดไหนน่ะเหรอ?
ก็ขนาดที่ว่าแม่ของฉันซึ่งเป็นผู้จัดการกองถ่ายมาหลายสิบเรื่อง คอยบริหารจัดการทุกสิ่งทุกอย่างสมัยพ่อทำหนังยังพูดออกมาเองว่า จะดีร้ายยังไง อย่าได้ให้กองถ่ายเข้ามายืมบ้านเป็นสถานที่ถ่ายทำเป็นอันขาด!
ยิ่งเป็นเพื่อนกันนี่มันจะแตกหักเอาง่ายๆ แหละคุณเอ๋ย เวลาให้คนเกือบร้อยเข้ามาอัดแอกันอยู่ในพื้นที่เล็กๆ เป็นเวลาประมาณ 13 ชั่วโมงต่อวัน ความคลุ้มคลั่งมันระเบิดในทุกขณะจิตนั่นแล
อะไรนะ? ทำไมกองถ่ายไม่มีคนควบคุมงั้นเหรอ?
มีสิคะ แต่บางทีคนคุมก็ประสาทแตกโพละได้ง่ายๆ เหมือนกัน
จริงๆ คนควบคุมนั้นไล่มาได้ตั้งแต่นายทุนเจ้าของเงิน โปรดิวเซอร์ที่คอยบริหารจัดการ แต่เราจะยังไม่พูดถึงทั้งสองตำแหน่งในตอนนี้ เพราะด้วยหน้าที่เขาไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องมานั่งอยู่ในกองทุกวันอยู่แล้ว
เรามาพูดถึงหัวเรือใหญ่ในงานกองที่ต้องเจอกันทุกวันดีกว่า
ใช่ค่ะ ผู้กำกับ
เราจะข้ามผู้กำกับรุ่นใหญ่ๆ ในวงการไป เพราะท่านเหล่านั้นเป็นปูชนียบุคคลที่มีทั้งทิศทางผลงานและลายเซ็นเป็นที่ประจักษ์ใจกันอยู่แล้ว มาพูดกันถึงรุ่นกลางๆ วัยประมาณฉัน หรือเด็กกว่าฉันก็แล้วกัน
เวลาพูดถึงผู้กำกับนี่มันเท่นะ — ผู้สรรค์สร้างผลงานอันเฉียบคม แฝงสาระและความบันเทิงให้คนดูลุ่มหลงและเลื่องลือกัน
อะ ตัดภาพมาที่ความเป็นจริง
ผู้กำกับบางทีก็ต้องมารับรู้ข้อแม้ ข้อจำกัด ข้อห้าม ข้อควรระวัง ข้อเท้า ข้อศอกอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ยิ่งพอเดี๋ยวนี้บุคลากรชักจะมีอายุทัดเทียมกัน ดีไม่ดีหลายๆ คนอาวุโสกว่าผู้กำกับไปเสียอีก
จะไม่สั่งงานก็ไม่ได้ เดี๋ยวงานไม่สำเร็จเสร็จตามที่วางไว้ก็กลายเป็นไร้สมรรถภาพ แต่สั่งมากไปก็จะกลายเป็นปีนเกลียว สร้างความระหองระแหงในกองถ่าย
เรียกว่าเริ่มวันมาก็ต้องมานั่งตัดสินใจกันเลยทีเดียว
“พี่คะ วันนี้น้องโกลด์โคสต์ให้ได้ถึงแค่บ่าย 2 นะพี่” ประสานงานมากระซิบข้างหู
“เฮ้ย แต่เบรคดาวน์นี่จาก 23 ซีนมีน้องเค้า 19 ซีนเลยนะ แล้ววันนี้ต้องปิดโลเคชั่นนี้ให้ได้ด้วย เจ้าของเขาไม่ให้แล้ว”
“ทราบค่ะ แต่น้องโกลด์ฯบอกว่าแจ้งมาทางไลน์แล้วค่ะ”
“ไลน์อะไร พี่ไม่เห็นรู้เลย”
“เป็นไลน์กรุ๊ปที่นักแสดงเรื่องนี้เค้าตั้งกันขึ้นมาค่ะ ชื่อกรุ๊ป ‘รักอุตลุดมุดมิติมหัศจรรย์คริๆ’ สงสัยไม่ได้เชิญพี่เข้ากลุ่ม”
“อะๆๆ ช่างมัน งั้นเดี๋ยวเรียกเข้าซีนแรกเลย”
“เอ่อ พี่ไปบล็อกช็อตก่อนได้เลยค่ะ”
“เฮ้ย เรียกน้องมาดูเลยก็ได้ ฉากคุยกัน ไม่ได้ทำอะไรเยอะ”
“คือน้องโกลด์โคสต์ยังมาไม่ถึงกองค่ะพี่ โทรมาบอกว่ารอร้านกาแฟออแกนิกส์เจ้าประจำเปิดอยู่ พอดีน้ำแข็งยังไม่มาส่งร้าน น้องขอรอกินกาแฟก่อนค่ะ”
ค่ะ
แล้วกูจะเนรมิตงานออกมายังไงคะ
นี่ไม่ใช่แค่ห่วงว่าจะทำงานทันหรือไม่ทันเท่านั้น แต่ละครนี่มันไม่ใช่หนังตะลุงที่ขาดคนเชิดไปหนึ่งคนก็ให้อีกคนพอจะมาทดแทนได้ แต่ในฉากต้องประกอบไปด้วยดาราอีกหลายคน บางคนตอนแรกนัดเขาสาย แต่อยู่ๆ ไปขอเลื่อนให้เขามาเร็วขึ้น เพราะ (อี) น้องโกลด์โคสต์ห่านนี่จะรอกินกาแฟ แถมให้เวลาจำกัดแค่บ่ายสอง แล้วคุณคิดดูสิว่าการจราจรในกรุงเทพฯ จากนัด 11 โมง ขอเลื่อนเป็น 8 โมงเช้านี่มันไม่ง่ายนะ ถึงแม้ผู้กำกับจะไม่ต้องเป็นคนโทรไปแจ้งความเปลี่ยนแปลงนี้เองก็เถอะ แต่ก็อยากจะส่งถุงอ้วกกับยาลดกรดลดเครียดให้ประสานงานเหมือนกัน และผู้กำกับเองก็เริ่มคิดถึงการย้ายฮวงซุ้ยบรรพบุรุษไปไว้ไกลๆ จะได้ไม่มีท่านไหนโดนจิกขึ้นมาด่าให้สะดุ้งกระดูกจากการตัดสินใจเฉพาะหน้าแบบนี้
เอาล่ะๆ พูดไปทำไมมี เวลาเราน้อย รีบทำงานกันดีกว่า
ฉากแรก ซีนอารมณ์ บล็อกช็อตแล้ว นักแสดงผลุนผลันเข้ามายืนสะกดอารมณ์อยู่เงียบๆ ที่มุมห้อง ก่อนจะเดินมาร้องไห้ที่เก้าอี้ตัวนึง วางมุมกล้องเรียบร้อย ซ้อมเรียบร้อย เอ้าผู้ช่วยนับเทปค่ะ
5-4-3-2
มง มง มง มงเท่งมง เท่งมง เท่งมง
โว้ยยยยยยยยยยยยยยย ใครมาตีกลองยาวตอน 9 โมงเช้าาาาาาา
ฝ่ายจัดการสถานที่วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่า ข้างบ้านมีงานบวช เค้าเลยซ้อมเครื่องเสียงกันแต่เช้า เดี๋ยวบ่ายๆ จะมีแหล่ค่าน้ำนมจากนักแหล่ชื่อดังมาร่วมด้วยค่ะ
ค่ะ แล้วยังไงคะ มึงไปจัดการสิโว้ยยยย เสียงดังขนาดนี้จะถ่ายละครกันยังไง คนดูจะเข้าใจมั้ยถ้าดาราร้องไห้ประกอบเพลงมงเท่งมง ไม่งั้นฝ่ายตัดต่อก็ด่าอีก ว่าต้องเอาเพลงมาใส่ช่วยกลบเสียงจากหน้ากอง เราอยากให้ฉากนี้สะท้อนถึงอารมณ์อัดอั้นของตัวละครไง มันต้องเงียบ เค้าต้องแอบมาร้องไห้ตามลำพังไง
เอ้า ผู้ช่วย เรียกนักแสดงออกมาพักก่อน เลี้ยงอารมณ์ไว้นะ พี่ให้กองไปเคลียร์เรื่องเสียงละ
30นาทีผ่านไป
ตกลงกันได้ที่ราคาสามพันบาท การลองเครื่องเสียงจะเงียบให้ถึงตอนเที่ยง เป็นข้อตกลงที่ได้มาพร้อมน้ำตาของผู้จัดการสถานที่ และเงินจากโปรดิวเซอร์ที่โดนโทรปลุกมารับรู้ปัญหา
เอ้า 5-4-3-2
พี่คะ หนูร้องไห้ไม่ออกแล้วอะ มันนานเกินไป
……………
อะ อะ อะ ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนเงียบก่อนนะ ให้นักแสดงทำอารมณ์ เอ้า ว่าไง (ฝ่ายประสานงานเดินหน้ามุ่ยมาหา)
“พี่คะ น้องโกลด์โคสต์มาถึงแล้วค่ะ”
“เออดี ให้รีบแต่งหน้าแต่งตัวเลยนะ ประมาณกี่นาที? ชั่วโมงนึงได้มั้ย จะได้วางบล็อกไว้เลย”
“คือ–น้องมาแล้ว แต่ช่างหน้าช่างผมน้องยังมาไม่ถึงค่ะ บอกว่าหลง แผนที่ไม่ดี”
“ให้ช่างที่กองทำไปก่อนไม่ได้เหรอ นี่มันฉากป่วยนะ ผมตรงๆ หน้าซีดๆ”
“ช่างของน้องบอกไม่ได้ค่ะ น้องโกลด์โคสต์ต้องใช้ผลิตภัณฑ์พิเศษจากเมืองนอก เพราะน้องแพ้ง่ายมาก”
“อะ งั้นไดร์ผมก่อนละกัน ทำอะไรได้ทำไปก่อน”
“ไม่ได้ค่ะ ช่างผมน้องบอกว่า ถ้าไดร์ผมผิดองศา น้องจะหน้าโดด ไม่มีความต่อเนื่องค่ะ”
“งั้น—-ไปเปลี่ยนชุดก่อนละกัน เผื่อถ่ายผ่านไหล่ผ่านแขนก่อน”
“ถามแล้ว น้องยังไม่พร้อมเปลี่ยนค่ะ เพราะต้องถ่ายรูปเสื้อที่ใส่มาลงไอจีโปรโมตร้านให้เพื่อนก่อน”
“แล้วตอนนี้น้องพร้อมทำอะไรบ้าง”
“พร้อมกินกาแฟออแกนิกส์ที่ซื้อมาค่ะ”
ค่ะ
ค่ะ
ค่ะ
นี่ยังถือว่าเป็นปัญหาเล็กๆ จากช่วงเริ่มกองเริ่มวันเท่านั้นเองนะคุณเอ๋ย เพราะไหนจะมีฝ่ายฉากลืมของ ดาราเท้าเจ็บ เล่นได้แค่ครึ่งบน ห้ามให้ขยับตัวเยอะ เอ็กซ์ตร้าเล่นไม่ได้ ดาราเริ่มวีน เที่ยงแล้วแต่ยังพักให้กินข้าวไม่ได้เพราะต้องถ่ายฉากนี้ให้เสร็จเพื่อปล่อยนักแสดงคนนี้ไปก่อน ผู้จัดการดาราบอกไม่ชอบชุดที่ดาราใส่ แม่ดาราบอกว่าขออีกเทคสิคะ มุมนี้ลูกหน้าไม่สวย นักข่าวเข้ากองขอสัมภาษณ์ผู้กำกับซึ่งกูยังไม่มีอารมณ์จะพูดคุยอะไรทั้งนั้น แล้วอย่าเพิ่งขอดาราไปคุยได้ม้ายยยย นี่ก็จะทำงานกันไม่ทันแล้วจ้า แล้วก็ยังปัญหาสารพัดสารเพ ที่ยังไงก็ต้องผ่านการรับรู้และตัดสินใจจากผู้กำกับ ผู้ที่มารับหน้าที่นี้ จึงทั้งต้องยืดหยุ่นและเผด็จการในเวลาเดียวกัน เพราะไม่มีกองไหนที่ไม่มีปัญหา ต่อให้เตรียมงานมาดีแค่ไหนก็ตาม สถานการณ์เฉพาะหน้าก็จะแปะมือกันมาถล่มอยู่เสมอ นี่ยังมี—
มง มง มง มงเท่งมง เท่งมง เท่งมง
โว้ยยยยยยยยยยยยยย นี่มันเที่ยงแล้วเรอะ!! กูยังไม่ได้ซักฉาก มึงมงเท่งมงกันอีกแล้วเฮ้ยยยยย
เอ้อ..
แล้วบางครั้งเราก็ต้องทำตัวเป็นมารขัดขวางงานเลี้ยงงานบุญของคนเขาด้วย
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้