สัปดาห์นี้จะเขียนถึงอะไรไม่ได้ นอกไปจากความแม่ ตามควันหลงที่ยังไม่เจือจางไป (มั้ง)
เข้าเรื่องกันง่ายๆ เลยว่า หนึ่งในคนที่ทำให้ธุรกิจบันเทิงหมุนไปได้อย่างราบรื่นก็คือคุณแม่ต่างๆ โดยในวันนี้จะพูดถึงคุณแม่ดาราจริงๆ ที่เกี่ยวข้องกันทางชีวภาพ ไม่ใช่คนที่นับถือ หรือเรียกกันว่าคุณแม่
เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ฉันก็ไถไอจี เปิดเฟซบุ๊กดูตามปกติ ก็ได้เห็นรูปคู่แม่ลูกมากมายหลากหลายคู่ มากมายด้วยอิริยาบถต่างๆ บ้างก็รักมาก บ้างก็ขำขัน บ้างก็มากันทั้งครอบครัว แต่ความเป็นคนเลวในจิตใจฉัน (ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่ได้มีมากหรอก แต่กำจัดมันออกไปไม่ได้ซักที) ก็จะแอบมองบน หรือหัวเราะคิกกับบางรูป อู๊ยยยยยย รักกันดี๊ดี เวลาทำงานไม่เห็นเป็นงี้เลยค่าคูมแม่~ (จงใจเขียนให้ผิดเพื่อการออกเสียงให้ได้อรรถรส)
แม่ดารานั้นมาในหลายรูปแบบ วาไรตี้ทั้งไซส์ ทั้งสไตล์ และความเยอะ ไอ้ที่ไม่เยอะก็ไม่เยอะเอาเสียเลย จนฉันนึกว่าคุณแม่เป็นทีมงานคนหนึ่ง เพราะไม่เห็นมาจ้ำจี้จ้ำไชอะไร ปล่อยให้ลูกทำงานไปตามปกติ จะออกโรงมาก็เฉพาะตอนจัดข้าวให้ หรือพัดวีให้พอกรุบกริบ แต่แบบที่เยอะนั้นก็…จะบอกยังไงดีหว่า
คือบางคนทำตัวเป็นดารายิ่งกว่าลูก หรือไม่ก็ทำให้ลูกเป็นดาราตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มมีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันน่ะ ฉันเข้าใจคำว่า ‘ดูแลลูก’ นะ เพราะฉันก็เคยเป็นเด็กที่มีแม่เป็นทั้งแม่ ทั้งผู้จัดการส่วนตัวมาก่อน และแม่ฉันก็…มีความป่วงบางประการ แต่ส่วนใหญ่จะมาลงกับฉันมากกว่า นอกจากบางครั้งที่เลเพลาดพาดไปทางกองถ่ายบ้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างความหายนะ (มาก) เท่าไหร่
แต่กับบางคุณแม่นี่…กูก็ได้แต่เกากบาลแกร่กๆ จ้ะ
-คุณแม่ 1-
คุณแม่มาถึงกองถ่ายสายไป 2 ชั่วโมง อะ ไม่เป็นไรค่ะ เพราะคุณแม่บอกน้องท้องเสีย (แต่กูเห็นน้องจกมะม่วงจิ้มกะปิผงชูรสฉ่ำมากเลยค่ะแม่) คุณแม่ถามธุรกิจกองถ่ายว่า
“น้องมีไนต์มั้ยคืนนี้?” (ความหมายคือ : น้องมีถ่ายฉากกลางคืนมั้ย)
“มีค่ะคุณแม่ สามไนต์ค่ะ”
“แล้วเดย์ล่ะ?” (ความหมายคือ : มีฉากกลางวันกี่ฉาก เยอะมั้ย)
“ทั้งวันเลยค่ะแม่ โลเคชั่นนี้คือบ้านน้องอะค่ะ”
อือ… (คุณแม่ทำท่าคิด) แต่เดี๋ยวก็พักกลางวันแล้วนี่ (ก็ใช่สิคะคุณแม่ มึ…เอ๊ย แม่มา 10 โมง เดี๋ยวก็เที่ยงแล้วล่ะจ้ะ) แม่ขอน้องออกไปงาน 3 ชั่วโมงนะ ผู้ใหญ่ขอมา
ค่ะ…นอกจากมาสายแล้ว คุณแม่ยังพาลูกวิ่งงาน ซึ่งผู้ใหญ่ที่ขอมานี่ใครวะ? ผู้ใหญ่บ้านเหรอ? กองถ่ายจำเป็นต้องรู้มั้ยอะคะ ก็กูขอคิวไปแล้วนี่คะแม่ แล้วนัด 8 มา 10 กว่าจะแต่งหน้าทำผมจกมะม่วงเสร็จก็ 11โมง พอเที่ยงแม่ก็ไป (ตอนไปจะตรงเวลามาก ไม่เหมือนตอนมา) 3 ชั่วโมงทำงาน บวกเวลาเดินทาง อย่างเมตตาก็กลับมาถึงกอง 5 โมงเย็น พักกินข้าวกันอีกรอบพอดี มาถึงก็เติมหน้า น้องเหนื่อย ถ่ายกลางคืนสามซีน กลับ
คุณแม่ขาาาาาาาาาาาา
-คุณแม่ 2-
ณ กองถ่ายแฟชั่น คุณแม่มาตรงเวลา พร้อมคนติดตามอีก 7 คน และชุดส่วนตัวอีกหนึ่งราว นั่งดูลูกสาวแต่งหน้า
“น้องใช้สีนี้ทาตาไม่สวยนะ แม่ว่าใช้อีกสีดีกว่า อ้าว แล้วอายแชโดว์ของอะไรนั่น สีนั้นสวยจังลองซิๆ ถ้าน้องใช้ดี แม่จะเอาไปเลย (ช่างหน้าเหวอแดก บอกคุณแม่ว่านี่เพื่อนซื้อมาฝากค่ะ) แหม แม่ก็ไม่ได้เอาไปฟรีๆ นะคะ เดี๋ยวให้น้องถ่ายรูปลงไอจีให้ เดี๋ยวแทคชื่อเพื่อนก็ได้ แล้วนี่แม่เอาชุดมาเผื่อ บางอันนี่ต้องถ่ายให้เค้านะ ไหนๆ จัดไฟแล้ว น้องได้ลงรูปขอบคุณพี่เจ้าของเสื้อในไอจีได้ (เอ่อ คุณแม่คะ -สไตลิสต์พูดแบบเกรงใจ- แต่วันนี้ตามที่บอกคุณแม่ไป คือจะจับน้องแปลงโฉมเป็นสไตล์ร็อคๆ น่ะค่ะ) เอ้า ก็ร็อคไงคะ แม่เอาเสื้อลูกไม้คอตั้งแขนหมูแฮมมา แต่อินเนอร์น้องเค้าร็อคไง แม่ว่าดูคอนทราสต์กันดีออก อุ๊ยๆ น้องคะ (หันไปหาช่างหน้า) อย่าเขียนใต้ตาน้องค่ะ เขียนแล้วดูแก่ แม่ไม่ชอบ”
คุณแม่สั่งเสร็จสรรพ ไปเลือกชุดว่าให้น้องใส่ชุดนั้นชุดนี้ อ๊ะ อันนี้สวยจัง สีเลือดนกเข้ากับงานรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่แม่รับไว้อาทิตย์หน้าพอดี ของร้านไรเนี่ย แม่ยืมก่อนเนอะ เดี๋ยวให้น้องลงไอจีชื่อร้านให้
ค่ะ แฟชั่นมาก สุดท้ายก็หัวมังกุท้ายมังกร หน้าโล้น แต่อินเนอร์เฟียร์ซ ชุดก็โปะๆ แหมะๆ ตามที่คุณแม่เห็นว่างามกันไป แถมยืมชุดไปแบบไม่เห็นหนทางจะได้คืนอีก
คุณแม่ขาาาาาาาาาาา
-คุณแม่ 3-
สถานการณ์ : พักกินข้าวกลางวัน
“วันนี้มีกับข้าวอะไรให้น้องคะ”
“ก็เหมือนกันทุกคนค่ะแม่ มีขนมจีนแกงเขียวหวานกับไข่ต้มค่ะ”
“โอ๊ย แกงกะทิ!! น่าจะรู้ว่าน้องกินไม่ได้ น้องรับงานถ่ายแฟชั่นสไตล์สปอร์ตไว้ กินแกงกะทิได้ไง งั้นแม่เอาแต่ไข่ต้มนะ ขอ 10 ฟอง แยกไข่แดงไข่ขาวด้วยนะคะ”
“เอ่อ แม่คะ กับข้าวเค้านับหัวมากันแล้วน่ะค่ะ 10 ฟองหนูกลัวทีมงานได้กินไม่ทั่วถึง”
“เอ้า ก็ให้เค้ากินแกงไปสิ ไข่น่ะกินมากไม่ดีรู้มั้ย ยิ่งผู้ใหญ่น่ะ อย่าไปกินเลย คอเลสเตอรอลสูง แล้วนี่ไม่มีผักหญ้าอะไรให้น้องกินเลยเหรอ”
“คือ…ไม่มีน่ะค่ะ คุณแม่ไม่ได้บอกก่อน หนูก็ไม่รู้”
“เฮ้อ จะให้แม่ต้องบอกทุกอย่างเลยเหรอคะ อะๆ ไม่มีก็ไม่เป็นไร ให้ใครไปซื้อที่เซเว่นสิ จริงๆ มีติดกองไว้ก็ดีนะคะ พวกผักสด อกไก่ย่าง ควินัว หรือน้ำสลัดงาญี่ปุ่นโลว์ไขมันเนี่ย แม่ว่ามันก็ของธรรมดา เอ้า ไปซื้อสิคะ ซื้อมาก็เป็นของกองไง แม่ต้องออกตังค์ด้วยเหรอ”
ค่ะแม่ ของที่มึ…เอ่อ แม่บอกนี่มาตรฐานมากค่ะ ถ้ามันมาตรฐานขนาดนี้ แม่ไม่เอามาเองละโว้ยยยยยยยย มาเดือดร้อนกูทำไม!! กูได้ส่วนแบ่งที่น้องไปถ่ายแฟชั่นด้วยเหรอคะแม่ สั่งสลัดมา ช่างไฟก็กินหัวกูสิคะ มันจะไปอยู่ท้องอะไร กองนี้ไม่ได้มีแต่ลูกแม่นะคะ!!
คุณแม่ขาาาาาาาาาาา
แล้วก็ยังมีคุณแม่อีกมากมายหลายแบบ แต่เรื่องนี้จะสมบูรณ์ไปไม่ได้ ถ้าฉันไม่เล่าเรื่องของแม่ฉัน
แม่ฉันนี่เขามีความราชนิกูลอยู่ในตัวสูงมากคุณ คือเขาเป็นเมียผู้กำกับใหญ่น่ะ สิ่งที่ต้องทำนั้นนอกจากจะเป็นแม่แล้ว ยังเป็นโปรดิวเซอร์ประจำกองของพ่อ คุมเงินทุกบาททุกสตางค์ เป็นซังกุงสูงสุดที่ชี้เป็นชี้ตายกองถ่ายได้
แต่พอต้องมาเป็นแม่ดาราอย่างฉัน ความซังกุงนั้นก็ต้องเอาไปเก็บไว้ก่อน เพราะแม่รู้ดีกว่าใครๆ ว่าเวลาดาราเรื่องมากมันสร้างความปวดกบาลขนาดไหน เพราะตอนแม่เป็นโปรดิวเซอร์กองก็ได้ด่าทองัดข้อกันมามากมาย พอถึงคราวตัวเองจะให้ไปทำบ้างก็ออกจะเก้ออยู่ จะเทลูกไม่ไปดื้อๆ ก็ไม่ได้ เพราะพ่อฉันกำชับเอาไว้หนักแน่น ว่าไม่อนุญาตให้ใครมาดูแลฉันนอกจากแม่ สุดท้ายผลลัพธ์เลยมาลงที่ฉัน ว่าห้ามเรื่องมาก ห้ามง่วง ห้ามทำท่าเหนื่อย ซึ่งมันยากกกกกกกกกกก
หาวให้เห็นก็ไม่ได้ โกรธอีกว่าอย่ามาทำง่วงนะ ฉันก็ง่วง เหงื่อแตกเยอะให้เห็นก็ไม่ได้ โกรธฉันอีกว่าทำไมเหงื่อเยอะ ดูซ่ก อะ ก็อยู่กันไป รับมือกันไป จนมาถึงผลงานในตำนานอย่างนางนาก
คือเล่นเป็นผีน่ะคุณ จะให้ฉันมาหลอกคนตอนเพลมันก็ไม่ได้ไง ก็เลยมีแต่ฉากกลางคืนเป็นหลัก แม่ฉันก็เตรียมเสื่อ มุ้ง หมอนไปอย่างดี เอาไปใช้เอง ซึ่งก็ถูกต้องนะ คือฉันก็ทำงานอยู่หน้ากองไง คนรออย่างแม่จะทำอะไรได้นอกจากรอ และโลเคชั่นหลักก็แสนจะลับแล เป็นสวนหมากมืดมิดไม่มีไฟฟ้า รถราเข้าไปไม่ถึง ต้องจอดรถด้านหน้าแล้วเดินทะลุสวนมา ข้ามท้องร่องสวนที่มีไม้พาดแคบๆ พอเป็นทางเดินแบบต้องใช้สติสูงมาก ไม่งั้นเป็นพรวดลงไปจมโคลน ห้องน้ำก็เป็นส้วมหลุมแบบโบราณขนานแท้ เพื่อสร้างความอินให้กับตัวละคร
แต่แม่ฉันเขาไม่ได้มาร่วมแสดงด้วยไง ก็เลยมีการกรีดร้องรัวๆ ว่าชั้นเป็นเมียผู้กำกับอยู่ดีๆ ทำไมต้องมาตกระกำลำบาก ชีวิตเปื้อนฝุ่นไปกับเธอด้วยยะ!! กว่าจะเสร็จงานก็ปาไปตี 4 ตี 5
พอเลิกกองฉันเดินข้ามท้องร่องงงๆ มาขึ้นรถ จะเปิดเพลงฟังแม่ก็ว่าทำให้เสียสมาธิ ครั้นไม่ฟังแล้วตั้งท่าจะโงกหลับเป็นถูกหยิกให้ตื่นมารับกรรมร่วมกัน (ฉันไม่ได้อยากอยู่ดึกดื่นแบบนี้ย่ะ! เธอจะมาหลับหนีฉันไปไม่ได้!!) พอจะชวนคุยก็โดนแหวว่าทำให้เสียสมาธิ!! (เธอก็รู้ว่าแม่ไม่ชอบขับรถกลางคืน!!)
ชีวิตก็วนไปแบบนี้ค่ะ จนกระทั่ง…เอ้า พื้นที่หมด ค่อยมาเล่าต่อคราวหน้านะตะเอ๊งงงงงงง