คุณผู้อ่านบ้าจี้กันไหมครับ ถ้ามีใครถามคำถามนี้กับผมเข้า ถึงข้างในหัวจะพยักหน้ารับว่าบ้าจี้ แต่ก็คงเลือกส่ายหน้าตอบไปว่าไม่ เพราะกลัวว่าถ้ายอมรับไปจะต้องโดนจี้แขน จี้เอว เข้าแน่ๆ ว่าแต่ทำไมจู่ๆ อาทิตย์นี้ผมถึงมาพูดเรื่องบ้าจี้ นั่นก็เพราะว่า Tickled หนังที่ผมจะพูดถึงอาทิตย์นี้ก็เล่าถึงอาการบ้าจี้ของมนุษย์เรานี่แหละครับ
จุดเริ่มต้นของสารคดีชิ้นนี้เริ่มขึ้นง่ายๆ เมื่อ David Farrier นักข่าวหนุ่มชาวนิวซีแลนด์ผู้ชื่นชอบพวกข่าวเพี้ยนๆ บังเอิญไปเจอคลิปแปลกๆ บนอินเทอร์เน็ตที่เป็นภาพของเด็กหนุ่มสวมชุดกีฬารัดๆ ถูกผูกติดกับเตียง ก่อนจะเด็กหนุ่มอีกสี่คนเดินเข้ามา บ้างก็ยืนอยู่ข้างๆ บ้างก็นั่งคร่อมเขา แล้วเสียงหัวเราะก็เริ่มขึ้นหลังจากนั้นเมื่อเด็กหนุ่มทั้งสี่รุมจั๊กจี้ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เอวหน้า หน้าท้องบ้าง ฝ่าเท้าบ้าง แฟร์เรียขำในความเพี้ยนๆ นี่ และคิดว่ามันน่าจะเป็นข่าวที่เข้าท่าดี และคนอ่านก็คงจะชอบ ยิ่งเมื่อสืบสาวราวเรื่องไปเรื่อยๆ แฟร์เรียก็ได้พบกับกีฬาที่เรียกว่า ‘การแข่งจักจี้อดทน (Competitive Endurance Tickling)’ รวมถึงโฆษณาบนอินเทอร์เน็ตที่ประกาศหาเด็กหนุ่มอายุ 18-25 รูปร่างดีเพื่อเข้าร่วมในการแข่งขันนี้
เห็นถึงความจริงจังของการแข่งจั๊กจี้ แฟร์เรียรีบติดต่อไปยัง Jane O’Brien Media ซึ่งเป็นผู้โปรโมตกิจกรรมนี้บนอินเตอร์เน็ต แต่แทนที่ฝั่งนั้นจะยินดีที่มีคนนอกสนใจกีฬาชนิดนี้ แฟร์เรียกลับได้รับการปฏิเสธ แถมไม่ใช่แค่การปฏิเสธธรรมดา แต่ยังตอบกลับมาอีกว่า พวกเขาไม่ต้องการจะทำงานร่วมกับ homosexual journalist (แฟร์เรียบอกว่าเขาเป็น bisexual) Jane O’Brien พูดถึงขนาดว่า พวกเขาไม่ต้องการให้มีพวกรักร่วมเพศเข้ามายุ่งเกี่ยวในกีฬาชนิดนี้เลยด้วยซ้ำ
สำหรับแฟร์เรีย เนื้อความนี้ฟังดูประหลาดและไม่ค่อยจะสมเหตุสมผล ด้วยวิดีโอที่เขาเห็นนั้นสุดจะเกย์ (เขาใช้คำนี้) ด้วยภาพของชายหนุ่มกล้ามโตๆ ใส่เสื้อผ้ารัดๆ แตะเนื้อต้องตัวกันไปมามันแทบจะมองไปในทางอื่นไม่ได้เลย แฟร์เรียตอบกลับไปยัง Jane O’Brien และพยายามอธิบายเจตนาของเขา แต่เรื่องก็กลับขยายใหญ่โตถึงขั้นที่มีชายสองคน ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของ Jane O’Brien บินจากสหรัฐฯ มาหาเขาที่นิวซีแลนด์ เพื่อบอกให้เขาหยุดในสิ่งที่เขากำลังจะทำเพราะเขาไม่รู้หรอกว่ามันจะนำเรื่องยุ่งยากสุดๆ มาสู่ตัวเขา
Tickled คือสารคดีที่มีจุดตั้งต้นจากเรื่องตลกขำๆ แต่กลับนำไปสู่การเปิดโปงขบวนการดำมืดที่ชักใยอยู่เบื้องหลังกีฬาจั๊กจี้นี่ ฟังดูเหมือนจะตลกนะครับ แต่พอเราได้ติดตามแฟร์เรียไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเรากำลังร่วมเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์ที่ไกลเกินกว่าการจั๊กจี้อย่างขำๆ
แฟร์เรียบินไปยังสหรัฐฯ เพราะรู้ว่าจะมีการถ่ายกีฬาจั๊กจี้ที่นครลอสแอนเจลิส ที่นั่นเขายังได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ทีเจ ชายหนุ่มผู้เคยเข้าร่วมในกีฬานี้ ทีเจเล่าให้ฟังว่าเขาเข้าร่วมในกีฬาเพราะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะผู้สมัครจะได้เงินประมาณ $1500 เป็นค่าเข้าร่วมอีกด้วย ฟังดูแหม่งๆ ไหมล่ะครับ แต่ไม่เพียงเท่านั้น เพราะหลังจากที่ทีเจเลิกเข้าร่วมการแข่งนี้ไป อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ไปพบวิดีโอของตัวเองที่กำลังหัวเราะไม่หยุดเพราะถูกรุมจั๊กจี้บนยูทูบเข้าด้วยนี่สิ ไม่รู้มาก่อนว่าวิดีโอจะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทีเจรีบแจ้งไปยังยูทูบขอให้ลบวิดีโอของเขาออก ซึ่งยูทูบก็ยินดีทำตาม แต่ปัญหาที่แท้จริงมันเกิดขึ้นหลังจากนั้นครับ เมื่อทีเจก็เริ่มได้รับอีเมลที่ข่มขู่ต่อการกระทำของเขาที่ไปแจ้งกับยูทูบให้ลบวิดีโอนั้นออก เท่านั้นไม่พอ การข่มขู่ยังลุกลามไปถึงชีวิตส่วนตัว ครอบครัว และอาชีพของเขา วิดีโอของทีเจถูกอัพโหลดบนเว็บไซต์ปริศนา ชื่อของเขาจะถูกพ่วงท้ายด้วยวิดีโอจั๊กจี้ทุกครั้งเมื่อมีใครเสิร์ชหาบนยูทูบ ทีเจถูกให้ออกจากงาน สูญเสียความมั่นคง ทั้งชีวิตเขายังถูกหลอกหลอนและอับอายเรื่อยไปเพราะใครๆ ก็จดจำเขาได้จากวิดีโอจั๊กจี้นั่นเสียแล้ว
แฟร์เรียพบว่าไม่เพียงแค่ทีเจเท่านั้นที่กลายเป็นเหยื่อของกีฬาประหลาดๆ นี่ เมื่อขุดคุ้ยลงไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งพบกับเหยื่อมากขึ้นเรื่อยๆ หากส่วนมากก็เลือกจะปกปิดตัวตนไว้เพราะรู้สึกอับอาย และทั้งหวาดกลัวต่ออีเมลข่มขู่ที่ส่งมาถึงพวกเขา
ว่าไปแล้วก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะเมื่อมองว่าการจั๊กจี้ในความคุ้นเคยของเราๆ นั้นนำมาซึ่งเสียงหัวเราะ แต่หากมองในอีกมุม การจั๊กจี้ก็อาจเป็นต้นตอของความอึดอัด ทรมาน และความหวาดกลัวได้เหมือนกัน โดยเฉพาะกับคนที่บ้าจี้มากๆ แล้วมันก็คล้ายจะเป็นความอ่อนแอหนึ่งที่พวกเขาพยายามจะปกปิดเอาไว้เพื่อปกป้องตัวเองจากการต้องเป็นผู้ถูกกระทำ การจั๊กจี้จึงอาจมองได้ว่าเป็นการข่มขู่ทางอำนาจก็เป็นได้
เช่นกันกับที่แฟร์เรียได้เปิดเผยให้เราเห็นว่าการจั๊กจี้สามารถกลายเป็นเครื่องมือควบคุมตัวบุคคลได้อย่างไร บ่อยครั้งที่วิดีโอจั๊กจี้ถูกกล่าวถึงในแง่เดียวกับหนังโป๊ เพียงแต่ไม่มีการเปลือยเนื้อหนังมังสา หากการบิดกายไปมาอย่างไม่อาจควบคุม หรือขัดขืน ก็ให้ภาพของพฤติกรรมมนุษย์ที่อาจส่อเค้าไปถึงเซ็กซ์ได้ เซ็กซ์นั้นเกิดในพื้นที่ปิด และผู้ซึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์ก็คงไม่อยากให้คนนอกเข้ามารับรู้ถึงกิจกรรมในที่ลับของตน หรือก็คือพวกเขาไม่ต้องการให้คนนอกเห็นอีกตัวตนหนึ่งของเขาในขณะร่วมรัก เช่นกันกับวิดีโอการจั๊กจี้ที่ผู้ถูกถ่ายทำไม่เพียงจะรู้สึกว่าตกอยู่ในสถานะของเบี้ยล่าง แต่เพราะพวกเขาไม่อาจจัดวางพฤติกรรมตัวเองให้เป็นปกติได้ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการให้ใครก็ไม่รู้มาจับจ้องร่างอันเปลือยเปล่าของเรา
Tickled คือสารคดีที่ไปไกลเกินตัว และซึ่งเส้นทางที่มันพาเราไปก็น่ากลัวไม่ใช่เล่นๆ โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่ต้องบอกว่าดุเดือดไม่แพ้หนังดีๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียวครับ เผลอๆ หลังดูเรื่องนี้จบคุณอาจหลอนการถูกจั๊กจี้ไปอีกนานเลยก็ได้