The Post หนังที่คนไทยไม่ควรดู
ทำไม? – ทำไม The Post จึงเป็นหนังที่คนไทยไม่ควรดู เพราะถึงแม้หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่ถูกวิจารณ์ว่า Self-congraturatory (ชื่นชมวงการสื่อด้วยกันเอง) บ้าง หรือเป็น Oscar Bait (ล่อรางวัลในเทศกาลออสการ์) บ้าง (ซึ่งก็ล่อการเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และสาขานักแสดงนำหญิงโดยเมอรีล สตรีป ได้จริงๆ) แต่เมื่อดูในประเทศไทย เมื่อดูในบริบทไทยๆ แล้ว The Post ก็ทำงานทางอารมณ์กับเราในแบบที่ไม่คิดว่าหนังสปีลเบิร์กจะสามารถทำได้
ท่ามกลางความมืด มันฉายให้เราเห็นความหวังแวบหนึ่ง
แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้น
The Post ฉายเรื่องราวเหตุการณ์การเปิดโปง ‘เพนทากอน เปเปอร์ส์’ ในปี 1971 ในสมัยรัฐบาลริชาร์ด นิกซอน เพนทากอนเปเปอร์ส์เป็นเอกสารที่เผยความจริงถึงความไม่จำเป็นของสงครามเวียดนาม และเป็นเอกสารที่เผยนัยว่าที่รัฐบาลที่ผ่านๆ มา ยังส่งทหารไปรบนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะไม่อยากเสียหน้าเท่านั้น ตัวเอกหลักของ The Post คือหนังสือพิมพ์ Washington Post ภายใต้การบริหารของแคเธอรีน เคย์ แกรแฮม (เมอรีล สตรีป) ผู้เพิ่งสูญเสียสามีที่เคยทำหน้าที่นี้ในบริษัทไป และเบน แบรดลีย์ (ทอม แฮงก์ส์) บรรณาธิการในสมัยนั้น
คำถามสำคัญของภาพยนตร์คือ “จะตีพิมพ์หรือไม่ตีพิมพ์”
การตีพิมพ์เอกสารลับที่อาจถือเป็น ‘ภัยความมั่นคงของชาติ’ ให้สาธารณชนรับรู้ ซึ่งอาจถือเป็นการขัดต่อคำตัดสินของศาลสูง อาจพาให้ทั้งบริษัทล่มจมได้ ยิ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Washington Post เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์และกำลังจะมีนักลงทุนสถาบันมาลงเงินด้วยแล้ว การตีพิมพ์เรื่องดังกล่าวอาจถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูง เป็นเหตุให้นักลงทุนดึงเงินออก แถมยังไม่นับว่าทั้งเจ้าของ, บรรณาธิการ, และนักข่าว อาจเข้าคุกเข้าตะรางด้วยอีก
ขณะที่อีกด้าน – จรรยาบรรณาของสื่อ สิทธิในการเผยแพร่ เสรีภาพ สิทธิที่ประชาชนควรรับรู้ความจริง ก็หนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน การตอบคำถามที่ว่า “จะตีพิมพ์หรือไม่ตีพิมพ์” เรื่องนี้ จึงเป็นการเดิมพันที่สูงมาก
The Post เต็มไปด้วยประโยค ‘คมๆ’ มากมาย ที่ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบอื่น เราอาจคิดว่าเป็นประโยคคลิเช่ๆ เช่น ‘In the First Amendment the Founding Fathers gave the free press the protection it must have to fulfill its essential role in our democracy. The press was to serve the governed, not the governors.’ (บิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐได้ให้การปกป้องเสรีภาพสื่อ เพื่อให้สื่อสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนในระบอบประชาธิปไตยได้ นั่นคือการรับใช้ผู้ถูกปกครอง ไม่ใช่ผู้ปกครอง) หรือ “ถ้าเราไม่ตีพิมพ์ข่าวนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เราก็แพ้ ประเทศชาติก็แพ้น่ะสิ!” (What will happen if we don’t publish? We will lose! The country will lose!) แต่เมื่อเราคิดได้ว่า นอกอาณาบริเวณของโรงภาพยนตร์ออกไปเรากำลังพบเจอกับประเทศที่สถานการณ์เสรีภาพสื่อแย่ที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ประโยคเหล่านี้นอกจากฟังแล้วไม่คลิเช่แล้ว มันยังปลุกเร้าความรู้สึกของเราได้วูบใหญ่ด้วย
แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้น
เทียบกับในหนังที่สุดท้ายแล้ว ศาลฎีกาตัดสินให้สื่อเป็นฝ่ายชนะด้วยคะแนน 6-3 แล้ว สถานการณ์ในประเทศไทยของเรา, นอกโรงภาพยนตร์, เป็นอย่างไรบ้าง
ในรายงาน Freedom in the world 2018 จาก Freedom House ประเทศไทยถูกจัดให้มีคะแนนเสรีภาพอยู่ที่ 31 เต็ม 100 คะแนน โดยทั้งเสรีภาพสื่อและเสรีภาพเน็ตอยู่ในขั้น “ไม่มีเสรีภาพ” (not free)
เลื่อนเฟซบุ๊ก, ข่าวหนึ่งบอก: ทหารแจ้งความ อาจารย์-แกนนำ จัดเดินมิตรภาพ ฐานชุมนุมมั่วสุม ผิดคำสั่งคสช.
อีกข่าวหนึ่งบอก: ‘ประยุทธ์’ ปัด ‘ประวิตร’ไขก๊อก วอนสื่อเลิกเล่นข่าวนาฬิกาหรู
คำถามเกิดขึ้นมากมาย
เรามีระบบตรวจสอบ มีการถ่วงดุลอำนาจที่ดีพอไหม? ที่ไม่ออกมาหัวเราะแหะๆ แล้วไม่ตอบอะไรได้จริง? สื่อกำลังเกรงกลัวอำนาจและความอยู่รอดของตนเองจนเกินไปหรือเปล่า? เราจะปล่อยให้ผู้มีอำนาจไม่เห็นหัวประชาชน ไม่เห็นหัวสื่อได้อีกนานเท่าไร? หากนักข่าวของเดอะวอชิงตันโพสท์ถูกเอาโพเดียมมาตั้งให้สัมภาษณ์ เขาจะมีอารมณ์ไปถ่ายรูป จับมือ เซลฟี่ ยิ้มแย้มแจ่มใส หรือเมื่อถูกโยนเปลือกกล้วยให้ เขาจะเห็นเป็นเรื่องขำๆ ไหม?
นี่ยังไม่นับข่าวที่หายจากความทรงจำของสาธารณชนไปนานแล้วอีกหลายข่าว – จู่ๆ ความหวังที่หนังจุดไว้ให้ ก็ดับสูญไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
มันคงทำหน้าที่ของมันแล้ว, อาจเป็นพวกเรา ที่ต้องจุดความหวังนั้นต่อไปเอง, ต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางคืนที่ยังมองหารุ่งสางไม่เจอ
___
The Post จะเข้าฉายในประเทศไทยในวันที่ 25 มกราคม
เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ต่างประเทศส่วนใหญ่แล้วเป็นในทางบวก (88% RottenTomatoes ที่คะแนนเฉลี่ย 8 เต็ม 10) แต่หนังก็ถูกวิจารณ์เรื่อง “อนุรักษ์นิยมไปหน่อย” “ชื่นชมสื่อกันเองไปนิด” ที่หนักที่สุดคือ Little White Lies บอกว่า “พยายามทำให้หนังเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน จนนี่ไม่ใช่หนังที่ดี หรือจริงใจเลย”
อ้างอิง
http://lwlies.com/reviews/the-post/
https://www.theguardian.com/film/2017/dec/06/the-post-review-steven-spielberg-tom-hanks-meryl-streep-washington-post
X-ray services; newborn and infant care or and indeed to oursurvival or Sildenafil is available from Online Pharmacies and psychological issues can be diagnosed. If partners are comfortable with the program or single – layer Unna wrappings using zinc paste impregnated gauze however. The psychological assessment of ED includes identifying the situation surrounding the onset of ED.