‘เมดูซา’ หนึ่งในตำนานกรีกที่โด่งดัง และเชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเธอกันดีแล้ว ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่น หรือรูปปั้น ‘เพอร์ซีอุสกับหัวของเมดูซา’ สุดโด่งดัง แต่ล่าสุด รูปปั้น ‘เมดูซากับหัวของเพอร์ซีอุส’ (Medusa with the Head of Perseus) กำลังจะถูกนำไปจัดแสดงหน้าศาลในนิวยอร์กของสหรัฐฯ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมและสะท้อนปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ
.
ขอเล่าประวัติของเมดูซาให้ฟังกันคร่าวๆ ก่อน ตามตำนานแล้ว เมดูซาเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ที่มีผมสลวยสวยงาม แต่วันหนึ่งเธอก็ถูกเทพโพเซดอนข่มขืนในวิหารแห่งอาธีนา แถมยังโดนเทพีอาธีนามองว่าเมดูซาสร้างความโสมมให้แก่วิหาร จึงสาปให้เมดูซากลายเป็นปีศาจที่มีผมเป็นรังงูอัปลักษณ์ และขับไล่เธอออกจากวิหาร
.
แต่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเมดูซาไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ เพราะเธอยังกลาย ‘ภารกิจ’ ของเพอร์ซีอุส มนุษย์กึ่งเทพผู้โด่งดัง ซึ่งท้ายที่สุดเธอก็ถูกกำจัดด้วยการตัดหัว แถมหัวของเธอยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะบนโล่ของเพอร์ซีอุสอีกต่างหาก
.
เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเมดูซาสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการข่มขืนในสังคมชายเป็นใหญ่ ที่ผู้ถูกกระทำถูกมองว่าเป็นฝ่ายผิดไปเสียอย่างนั้น และนี่ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ลูเซียโน่ การ์บาตี (Luciano Garbati) ศิลปินชาวอาร์เจนติน่า-อิตาลี ในการสร้างรูปปั้นเมดูซากับหัวของเพอร์ซีอุส เมื่อปี ค.ศ.2008 เพื่อตอบโต้รูปปั้นเพอร์ซีอุสกับหัวของเมดูซา ผลงานสุดโด่งดังของเชลลินี (Cellini) ในศตวรรษที่ 16
.
“มันจะเป็นชัยชนะไปได้ยังไง ถ้าคุณกำลังกำจัดคนที่เป็นเหยื่อ?” การ์บาตีตั้งคำถาม
.
ตอนนี้ รูปปั้นดังกล่าวจะถูกนำไปจัดแสดงที่ฝั่งตรงข้ามกับศาลอาญาในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการพิจารณาคดีล่วงละเมิดทางเพศหลายคดี รวมถึงคดีของฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ (Harvey Weinstein) อดีตโปรดิวเซอร์ในวงการภาพยนตร์สหรัฐฯ ผู้ก่อเหตุข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงจำนวนมาก โดยคดีนี้สร้างความตระหนักในเรื่องการคุกคามทางเพศให้กับคนทั่วโลก และเป็นแรงผลักดันสำคัญของการเคลื่อนไหว #MeToo
.
ก่อนหน้านี้ รูปปั้นของการ์บาตีเคยเป็นกระแสในช่วงที่มีการเคลื่อนไหวของ #MeToo เมื่อปี ค.ศ.2018 หลังจากที่เขาโพสต์ภาพรูปปั้นดังกล่าวลงในโซเชียล ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวไปทั่วโลก ทั้งยังสร้างแรงผลักดันให้กับผู้ที่เป็นเหยื่อจำนวนมาก ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของตัวเอง
.
อย่างไรก็ดี รูปปั้น ‘เมดูซากับหัวของเพอร์ซีอุส’ จะจัดแสดงตั้งแต่สัปดาห์หน้า ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน ปี ค.ศ.2021 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความยุติธรรมในปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ
.
.
อ้างอิงจาก