ย้อนกลับไปในช่วงยุคกลาง ประเทศต่างๆ ในยุโรปมีความศรัทธาในตัวศาสนจักร และสันตะปาปาเป็นอย่างมาก ใครที่ปฏิบัติตนเป็นกบฎต่อศาสนจักรจะต้องถูกกำจัดด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า ‘การล่าแม่มด’ หญิงและชายมากมายถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดชั่วร้าย ก่อนจะถูกตามล่าและนำมาเผาไฟเพื่อกำจัดคุณไสยที่ไม่เคยมีอยู่จริงให้สิ้นซาก นี่จึงเป็นอีกหนึ่งโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้น และความผิดเหล่านี้ถูกซุกซ่อนไว้นานหลายศตวรรษ จนในที่สุด คริสตจักรคาทอลิกในเมืองหนึ่งในเยอรมนีก็ยอมออกมาขอโทษต่อเหตุฆาตกรรมดังกล่าว แม้มันจะสายไปมากทีเดียว
ในช่วงยุคมืด มีผู้คนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นแม่มดถูกสังหารไปกว่า 60,000 คนในยุโรป และอีกกว่า 25,000 คนในดินแดนเยอรมนี แน่นอนว่าเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่ก็มีหลายครั้งที่เหล่าผู้ชาย และเด็กถูกจับมาทรมานเพื่อรีดความจริง ก่อนจะสังหารอย่างโหดเหี้ยมในท้ายที่สุด
เมือง Eichstätt ที่ตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสังหารเหล่าแม่มดที่สำคัญ ในช่วงศตวรรษที่ 15-18 มีผู้บริสุทธิ์ราว 400 คนถูกฆ่าจากข้อกล่าวหาว่าเขาเหล่านั้นเป็นแม่มด และคริสตจักรคาทอลิกในเมือง Eichstätt ได้หลีกเลี่ยงความจริงนี้มาตลอดกว่า 400 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น แม้ว่าเหล่านักรณรงค์จะเรียกร้องให้มีการแสดงความสำนึกผิดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Gregor Maria Hanke มุขนายกของเมือง Eichstätt ได้สัญญาว่า จะมีการทำป้ายระลึกในมหาวิหารท้องถิ่น เพื่อเป็นการขอโทษ และบอกว่าครั้งหนึ่งสถานที่แห่งนี้ เคยเกิดเคยมีเลือดของเหล่าผู้บริสุทธิ์ไหลนอง
แต่เพียงแค่นั้นดูเหมือนจะยังไม่พอ เพราะ Wolfram Kastner ศิลปินจากเมืองมิวนิก หนึ่งในผู้เรียกร้องให้มีการแสดงความรับผิดชอบกล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่โบสถ์ และทางการยอมทำบางอย่างเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์การล่าแม่มด แต่การทำป้ายนั้นไม่สามารถชดเชยเหตุการณ์เหล่านั้นได้เลย
Kastner เริ่มต้นเส้นทางรณรงค์ในปี ค.ศ. 2017 หลังจากที่เขาค้นพบหลักฐานการสอบสวนการล่าแม่มดในเมือง Eichstätt ซึ่งหลักฐานเหล่านั้นทำให้เขาตกใจต่อความโหดร้ายของมันอย่างมาก ยกตัวอย่าง ในปี ค.ศ. 1627 Ursula Bonschab ภรรยาของนายกเทศมนตรี ถูกจับไปขังและทรมานเป็นเวลากว่า 20 วัน เพื่อให้รับสารภาพในข้อหาต่างๆ ที่เธอไม่ได้ทำ ทั้งข้อหาขุดศพเด็กทารก ร่วมประเวณีกับปีศาจ รวมถึงวางยาพิษผู้อื่น ก่อนเธอจะถูกนำตัวไปเผาทั้งเป็น แต่สุดท้ายเธอก็รอดจากการถูกตัดหัว
แม้ว่าการตรวจสอบแม่มดแบบดั้งเดิมในเยอรมนีจะดำเนินการตัดสินโดยศาล ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคริสตจักรโดยตรง แต่กลุ่มผู้รณรงค์กล่าวว่า การตัดสินเหล่านั้นเป็นผลจากหลักคำสอนเกี่ยวกับแม่มด และปีศาจ ที่มักจะกล่าวหาว่ากลุ่มแม่มดก่ออาชญากรรมกับผู้บริสุทธิ์ ซึ่งหลักคำสอนว่าด้วยแม่มด และคุณไสยเหล่านี้ก็เกิดจากการที่สันตะปาปา และหัวหน้าคริสตจักรไม่ยอมรับการออกจากศาสนา จึงนำมาซึ่งเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสุดร้ายกายเช่นนี้ ดังนั้นคริสตจักรไม่ควรนิ่งนอนใจ และควรมีส่วนในการรับผิดชอบต่อชีวิตคนบริสุทธิ์
อ้างอิงจาก
https://www.independent.co.uk/news/world/europe/germany-church-witch-burning-b1778213.html
#BRIEF #TheMATTER