COVID-19 ได้กลายมาเป็นบททดสอบความสามารถในการบริหารของผู้นำประเทศทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเราได้เห็นกันบ้างแล้วหลายๆ ประเทศต้องกลับมาล็อคดาวน์อีกครั้ง ขณะที่หลายๆ ประเทศเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
ในเคสของอังกฤษ ที่เกิดการระบาดใหญ่ และเผชิญหน้ากับปัญหาฉีดวัคซีนล่าช้า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน (Boris Johnson) ได้ประกาศให้ประชาชนสามารถตรวจ COVID-19 ฟรี สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อควบคุมการระบาดไม่ให้แพร่กระจายไปในวงกว้าง และเตรียมพร้อมสำหรับการคลายล็อคดาวน์ในวันที่ 12 เมษายนนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง
สำหรับโครงการตรวจ COVID-19 ฟรี จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 เมษายนนี้ โดยรัฐบาลจะนำชุดตรวจ COVID-10 ฟรี ไปวางไว้ที่ร้านขายยา พื้นที่ชุมชนต่างๆ และบางส่วนจะมีบริการจัดส่งถึงบ้าน ในกรณีที่ประชาชนไม่สะดวกเดินทางไปรับ
โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลอังกฤษเล็งเห็นว่า การเร่งตรวจประชาชนทั้งหมด และจัดทำระบบรับรองสถานะการตรวจ COVID-19 จะช่วยให้สามารถควบคุมการระบาดของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บอริส จอห์นสัน กล่าวในแถลงการณ์ว่า ที่ผ่านมาอังกฤษมีความก้าวหน้าอย่างยิ่งในโครงการจัดหาวัคซีน และเพื่อให้แผนคลายล็อคดาวน์ รวมถึงผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่สูญเปล่า การเร่งตรวจเชื้อประชาชนให้ได้มากที่สุด จึงเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างมาก ในการพาประเทศกลับมาสู่สภาวะปกติ
ขณะนี้ อังกฤษถือเป็นประเทศที่มีความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนและฉีดวัคซีนมากที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรป โดยมีประชาชนกว่า 31.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 46% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่ผู้ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วมีเพียงประมาณ 5.4 ล้านคนหรือ 7.9% แต่ด้วยอัตราการติดเชื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลตัดสินใจกลับมาเปิดประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังช่วงที่มีการระบาด COVID-19 อังกฤษต้องเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากที่สุดในรอบ 300 ปี
อ้างอิงจาก
https://www.washingtonpost.com/…/ee21aca6-95f6-11eb…
https://www.japantimes.co.jp/?post_type=news&p=2970987
https://www.bbc.com/news/uk-56632084
https://www.bbc.com/news/health-55274833
https://www.blognone.com/node/122049